ได้ยินหลี่เมิ่งซีพูดเช่นนี้ เซียวอวิ้นก็ตกใจ มีผู้คนมองดูอยู่มากมายเช่นนี้ ทั้งยังมีหลักฐาน เดิมทีเขาอยากออกไปรายงานเหล่าไท่จวินทันที แต่คำพูดของหลี่เมิ่งซีเตือนสติเขา หากไปรายงานเหล่าไท่จวินจริง แล้วเรียกนายหญิงใหญ่มาสอบถาม นายหญิงใหญ่ก็คงบอกว่าเพิ่มคนเพราะหวังดีต่อสะใภ้รอง แต่คิดไม่ถึงว่าข้ารับใช้ต่อหน้ารับปากคล้อยหลังกลับทำอีกอย่าง กลั่นแกล้งสะใภ้รอง ข้ารับใช้หลายคนย่อมต้องตายเปล่า ทั้งยังเป็นการสร้างความแค้นให้กับนายหญิงใหญ่อีก ทำเช่นนั้นไม่คุ้มเลยจริงๆ
คิดเช่นนี้เซียวอวิ้นจึงพูดว่า “พี่สะใภ้รองพูดถูกต้องยิ่งนัก เดิมทีนายหญิงใหญ่หวังดี คิดไม่ถึงว่าข้ารับใช้ที่คิดคดพวกนี้จะกล้าขัดคำสั่งลับหลังเจ้านายทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ รอให้ข้ารายงานเหล่าไท่จวินแล้ว คอยดูซิว่าจะเอาชีวิตบ่าวสุนัขพวกนี้ได้หรือไม่!”
คำพูดนี้เซียวอวิ้นพูดกับหลี่เมิ่งซี แต่ด้วยเสียงที่ดังมากทำให้ข้ารับใช้ที่อยู่ใกล้ไกลล้วนได้ยินชัดเจน ต่างอกสั่นขวัญผวาและตระหนักได้
นั่นสิ นายหญิงใหญ่สั่งให้พวกนางกลั่นแกล้งสะใภ้รองให้ตายก็จริง แต่หากสะใภ้ในคฤหาสน์หลังใหญ่เสียชีวิตลงจะไม่มีการตรวจสอบเลยอย่างนั้นหรือ ถึงเวลานั้นนายหญิงใหญ่จะยอมรับหรือ พวกนางย่อมต้องตกเป็นแพะรับบาป ต่อให้พวกนางคิดจะดิ้นรนจนปลาตายตาข่ายขาดเปิดโปงนายหญิงใหญ่ออกมา แต่ปัญหาคือพวกนางจะได้พบเหล่าไท่จวินหรือไม่เล่า! ไม่แน่พอสะใภ้รองตาย พวกนางก็ถูกฆ่าปิดปากแล้ว
คิดได้เช่นนี้ ในที่สุดบ่าวหญิงเหล่านี้ก็ตระหนักได้ถึงคำว่า ‘กลัว’
โดยเฉพาะแม่ครัวที่รับผิดชอบอาหารสามมื้อของสะใภ้รองที่ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลโซมกาย นางยืนขาสั่นอยู่ตรงนั้น หากคุณชายสามไปรายงานเหล่าไท่จวินในตอนนี้จริงๆ นางยังจะมีชีวิตรอดอีกหรือ
คิดพลางก้าวออกมาจากกลุ่มคน คุกเข่าลงตรงหน้าคุณชายสามกับสะใภ้รอง พลางเอ่ยปากอ้อนวอน “ขอคุณชายสามกับสะใภ้รองโปรดละเว้นชีวิตด้วย บ่าวเลอะเลือนไปแล้วถึงได้ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ สะใภ้รองกับคุณชายสามล้วนมีจิตใจเมตตา อย่าไปรายงานเหล่าไท่จวินเลยนะเจ้าคะ บ่าวจะไปทำอาหารกลางวันมาใหม่เดี๋ยวนี้ ขอคุณชายสามโปรดอย่าไปรายงานเหล่าไท่จวินเลย”
เซียวอวิ้นฟังแล้วก็รู้ทันทีว่าอาหารกลางวันเมื่อครู่เป็นฝีมือของแม่ครัวคนนี้ เขายกเท้าถีบนางจนหงายหลัง บ่าวหญิงผู้นั้นตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา คุกเข่าโขกศีรษะอ้อนวอนไม่หยุด
เวลาเดียวกัน สาวใช้กับบ่าวหญิงอีกหลายคนก็คุกเข่าโขกศีรษะให้สะใภ้รองกับคุณชายสาม พวกนางน่าจะเป็นคนที่นายหญิงใหญ่ส่งมาทั้งสิ้น
หลี่เมิ่งซีเห็นแม่ครัวโขกศีรษะจนเลือดออก คิดว่าพอสมควรแล้วจึงพูดกับเซียวอวิ้น “คุณชายสาม ดูแล้วพวกนางคงสำนึกผิดจากใจจริงแล้ว เห็นแก่ที่พวกนางเพิ่งทำผิดเป็นครั้งแรก ครั้งนี้ก็ช่างเถอะ หากไปเรียนเหล่าไท่จวินจริง ชีวิตของบ่าวไม่กี่คนเป็นเรื่องเล็ก แต่หากทำให้เหล่าไท่จวินโมโหจนเสียสุขภาพ ย่อมเป็นความอกตัญญูของพวกเรา มิสู้คุณชายสามให้หน้าข้า เรื่องวันนี้ให้ยุติลงเพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เช้าตอนคุณชายสามไปคารวะผู้ใหญ่ ถือโอกาสเรียนเหล่าไท่จวินว่าวันนี้ท่านมาเยี่ยมข้า พบว่าข้าไม่ชินกับอาหารที่นี่ ดูว่าเหล่าไท่จวินจะอนุญาตให้หวังอี๋เหนียงนำอาหารมาส่งให้ข้าทุกวันได้หรือไม่”
หลี่เมิ่งซีคิดการณ์ไกล บ่าวถึงอย่างไรก็เป็นบ่าว ไม่ว่าเวลาใดล้วนต้องฟังคำสั่งเจ้านาย ตีบ่าวตายไปร้อยคน ขอเพียงเจ้านายยังไม่ตายก็ยังเปลี่ยนคนมาทรมานนางต่อได้อยู่ดี เว้นเสียแต่นางจะโค่นล้มนายหญิงใหญ่เจ้านายของพวกนางลงได้ ทว่ากำลังของนางล้วนอยู่ข้างนอก เมื่ออยู่ในคฤหาสน์สกุลเซียวเช่นนี้นางไม่มีอำนาจจะงัดข้อกับนายหญิงใหญ่ได้เลย เว้นแต่จะใช้อำนาจของร้านยาอี๋ชุน แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงย่อมมิใช่การเผชิญหน้ากับนายหญิงใหญ่เพียงคนเดียว หากแต่เป็นการเผชิญหน้ากับสกุลเซียวทั้งหมด