ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1 ตอนที่ 1
เกี้ยวถูกหามเข้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์สกุลเซียวและจอดลงที่เรือนกลาง สี่เหนียงประคองคนตัวเล็กใบหน้าซีดขาวลงจากเกี้ยว หลี่เมิ่งซีทำตามธรรมเนียมพิธียิบย่อยแต่ละอย่างตามคำชี้แนะของสี่เหนียงจนกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จ ในที่สุดนางก็ถูกคุณชายรองสกุลเซียวตรงหน้าที่แค่ลมพัดมาก็ล้มลงได้จูงเข้าห้องหอ
หลี่เมิ่งซีคิด ยังดี อย่างน้อยตนเองก็ไม่ต้องกราบไหว้ฟ้าดินกับไก่ตัวผู้เหมือนในละครหรือในหนัง ได้ยินมาว่าสกุลเซียวเตรียมไก่ตัวผู้ไว้เหมือนกัน แต่วันนี้คุณชายรองสกุลเซียวกลับได้สติอย่างหาได้ยากยิ่ง ด้วยการประคองของสาวใช้และบ่าวหญิงสูงวัยจึงสามารถบรรลุหกพิธีของการแต่งงานได้อย่างทุลักทุเล
ระเบียงทางเดินยาวมืดสลัวและประตูห้องที่ปิดสนิทขวางกั้นงานเลี้ยงฉลองแต่งงานที่ครึกครื้นข้างนอก ในห้องหอเงียบสนิท บนหน้าต่างมีอักษรมงคลสีแดงสองตัวปิดอยู่ ดูคล้ายดวงตาสองดวงที่กำลังยิ้มมองมายังเจ้าสาวที่นั่งอยู่ขอบเตียง เปลวไฟสีน้ำเงินจากเทียนไขสีแดงสองเล่มบนโต๊ะสะท้อนเข้าสู่สายตาของหลี่เมิ่งซี นอกจากสีแดงก็มีแต่สีแดง หากไม่เพราะในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นยาอันเข้มข้น ในม่านมุ้งสีแดงมีเซียวจวิ้นที่นอนเหมือนคนตายอยู่ ซึ่งคอยเตือนหลี่เมิ่งซีว่านางแต่งงานกับคนที่ป่วยหนักใกล้ตาย มิเช่นนั้นยามนี้นางคงเชื่อ ว่านี่เป็นพิธีแต่งงานที่งดงามสมบูรณ์แบบจริงๆ
สาวใช้กับบ่าวหญิงสูงวัยถอยออกไปนานแล้ว แต่หลี่เมิ่งซีรู้ว่ามีหมอห้าหกคนพักอยู่ห้องข้างๆ เตรียมพร้อมตลอดเวลาหากเซียวจวิ้นเกิดเป็นอะไรขึ้นมา
กลิ่นยาเข้มข้นในห้องคละเคล้ากับกลิ่นกำยาน อากาศอุดอู้หนักอึ้งทำให้หลี่เมิ่งซีหายใจไม่ออก มิน่าช่วงเวลาที่เซียวจวิ้นได้สติจึงน้อยนัก เวลาที่หลับใหลจึงมีมากกว่า เดือนหกแล้วกลับยังไม่เปิดหน้าต่าง แม้แต่คนที่แข็งแรงดีก็ต้องอุดอู้จนเป็นโรคได้ นับประสาอะไรกับคนป่วย หลี่เมิ่งซีเดินไปผลักหน้าต่างที่อยู่ตรงข้ามกับเตียงเบาๆ อากาศสดชื่นปะทะเข้ามา นางสูดหายใจลึก ดีเหลือเกิน!
“สะใภ้รอง เหล่าไท่จวินไม่ให้เปิดหน้าต่างเจ้าค่ะ กลัวคุณชายรองจะถูกลม” สาวใช้หงจู หงอวี้ผลักประตูเข้ามา มือของหงจูถือชามยาใบหนึ่ง หงอวี้เห็นหลี่เมิ่งซีเปิดหน้าต่างก็รีบเข้ามาปิด
“ไม่เป็นไร”
หงอวี้หันไปมองหลี่เมิ่งซี ครั้นเห็นแววตาสุขุมยืนกรานของนางจึงหดมือที่ทำท่าจะปิดหน้าต่างกลับมา “เจ้าค่ะ”
หลี่เมิ่งซีรับยาจากมือหงจู แล้วนั่งลงบนเก้าอี้กลมข้างเตียง
หงจูค่อยๆ ประคองเซียวจวิ้นขึ้นมาและร้องเรียกเสียงค่อย “คุณชายรอง คุณชายรอง ได้เวลาดื่มยาแล้วเจ้าค่ะ”
เซียวจวิ้นส่งเสียงอืมเบาๆ จนแทบไม่ได้ยิน เปลือกตาขยับเล็กน้อย แต่กลับไร้เรี่ยวแรงจะเปิดตาขึ้น
หงจูหยิบหมอนอิงใบหนึ่งมาหนุนหลังเซียวจวิ้น หลี่เมิ่งซีตักยาป้อนใส่ปากเขาทีละคำ ป้อนยาเสร็จก็รับผ้าเช็ดหน้าจากหงจู เช็ดคราบยาที่มุมปากให้เขาอย่างแผ่วเบา
“ประคองคุณชายรองนอนลงเถอะ เพิ่มผ้าห่มให้คุณชายรองอีกผืนด้วย”
“เจ้าค่ะ” หงจูรับคำ
“ให้บ่าวปรนนิบัติสะใภ้รองล้างหน้านะเจ้าคะ” หงอวี้พูดขึ้นมา
“ไปยกน้ำมา”
“เจ้าค่ะ” หงอวี้หมุนตัวออกไป
หงจูปรนนิบัติเซียวจวิ้นเสร็จ หันหลังเดินไปหน้าเตากำยานและจุดก้อนกำยานในเตา กลิ่นหอมระลอกหนึ่งโชยมา
“นี่เป็นเครื่องหอมอะไร”
“เรียนสะใภ้รอง เป็นอำพันทะเลที่ดินแดนตะวันตกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการเจ้าค่ะ มีสรรพคุณช่วยให้หลับสบาย ฮ่องเต้พระราชทานแด่พระชายาจิ้งเฟย เนื่องจากคุณชายรองชอบกลิ่นหอมแปลกๆ เป็นนิสัย พระชายาจิ้งเฟยจึงประทานให้คุณชายรองเป็นกรณีพิเศษเจ้าค่ะ”
“พระชายาจิ้งเฟย?”
“สะใภ้รองไม่รู้อะไร พระชายาจิ้งเฟยเป็นบุตรของชุยฮูหยิน เข้าวังในปีที่สามของการครองราชย์ของฮ่องเต้จิ่นตี้ พระชายาจิ้งเฟยกับคุณชายรองเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก พระชายาจิ้งเฟยทรงมีน้องชายสายตรงเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงเอ็นดูและเอาอกเอาใจยิ่งกว่าอะไรเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้แล้ว” หลี่เมิ่งซีเหม่อมองต้นหงซินเจียวตรงหน้าต่าง
อำพันทะเลจากดินแดนตะวันตกกับหงซินเจียว?…ความคิดบางอย่างวูบขึ้นในหัวของหลี่เมิ่งซี หงซินเจียว ดอกไม้ประหลาดจากแคว้นหนาน ใบใหญ่ทรงรีสีเขียวเข้มล้อมกันเป็นช่อ ใจกลางเป็นสีแดง มองไกลๆ เหมือนดอกตูมที่เพิ่งผลิบาน งดงามเฉิดฉัน แต่มองใกล้ๆ กลับพบว่าเป็นใบไม้ ว่ากันว่าพืชชนิดนี้ไม่มีดอก ความแปลกอยู่ที่กลุ่มช่อสีแดงตรงใจกลาง ทนสภาพอากาศได้ทั้งสี่ฤดู เหมือนดอกไม้ที่ไม่มีวันโรยรา กลิ่นหอมประหลาดไม่มีสิ่งใดเทียบได้ จัดเป็นเครื่องหอมอย่างดี พบเห็นน้อยในดินแดนตอนกลาง หลี่เมิ่งซีมองดอกไม้ชนิดนี้อย่างเหม่อลอย
“สะใภ้รอง ดอกไม้นี้มีอะไรหรือเจ้าคะ” หงจูเห็นหลี่เมิ่งซีเอาแต่จ้องดอกไม้จึงรีบถาม
“ไปห้องครัวต้มน้ำขิงผสมน้ำส้มเก่า มา” หลี่เมิ่งซีหันกลับมาช้าๆ เอ่ยสั่งอย่างสุขุม นัยน์ตาราบเรียบ มองไม่เห็นความตื่นตระหนกและคลื่นอารมณ์ที่ปั่นป่วนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเมื่อครู่นี้แม้แต่น้อย
หงอวี้ยกน้ำเข้ามา ปรนนิบัติหลี่เมิ่งซีล้างหน้าและถอดเครื่องประดับบนศีรษะออก ก่อนจะผลัดเปลี่ยนชุดเจ้าสาวที่สวมอยู่
รอจนหงจูยกน้ำขิงผสมน้ำส้มเก่าเข้ามาแล้ว หลี่เมิ่งซีจึงสั่ง “พวกเจ้าออกไปเถอะ!”
“เจ้าค่ะ สะใภ้รอง” หงจู หงอวี้ย่อกายให้หลี่เมิ่งซี ก่อนจากไปไม่ลืมเตือนว่า “หมอที่รักษาคุณชายรองพักอยู่ในเรือนปีกทิศตะวันตกนี้เอง ถ้าตอนกลางคืนคุณชายรองเป็นอะไร สะใภ้รองตามหมอได้เลยนะเจ้าคะ”
“ข้ารู้แล้ว” หลี่เมิ่งซีพยักหน้า มองหงจู หงอวี้ถอยออกจากประตู จนกระทั่งฝีเท้าของทั้งสองค่อยๆ ห่างออกไปไกล นางจึงรีบลงกลอนประตูจากข้างใน ดับอำพันทะเลในเตากำยานและยกเตาไปวางนอกหน้าต่าง
แล้วหันกายกลับมาพิจารณาคนบนเตียงที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘สามี’ ของตนอย่างละเอียด ยามนี้เขาสลบไสลไม่ได้สติ ตาหงส์ปิดสนิท จมูกสูงโด่ง ริมฝีปากบางเม้มนิดๆ สะท้อนความแข็งกร้าวออกมา เป็นบุรุษประเภทหนุ่มหล่อที่เพียงแค่มองแวบเดียวก็ทำให้สาวๆ ต้องยอมจำนน หากอยู่ในยุคปัจจุบัน แม้แต่หลิวเต๋อหวา เซี่ยถิงเฟิงยังต้องชิดซ้าย เซียวจวิ้นจะต้องเป็นที่คลั่งไคล้ของคนนับหมื่นแน่ จนเป็นบ่อเกิดของหายนะ หลี่เมิ่งซีลอบอุทานในใจว่าตนได้กำไรแล้ว
หึๆ ฉันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดซุป’ตาร์กับเขาเหมือนกัน น่าเสียดาย มองได้กินไม่ได้!
หนุ่มหล่อตรงหน้าทำให้หลี่เมิ่งซีที่เป็น ‘โรคบ้าหนุ่มหล่อ’ ตั้งแต่ชาติที่แล้วอดโม้ในใจไม่ได้