ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1 ตอนที่ 1
หลี่เมิ่งซีวางมือลงบนชีพจรของเซียวจวิ้น ตรวจชีพจรให้เขาอย่างละเอียด ทั้งยังเปิดเปลือกตาเขาตรวจดูอยู่นาน นางมั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษชนิดหนึ่งที่ไร้สีไร้กลิ่น หลี่เมิ่งซีย้อนนึกถึงตำราโบราณเนื้อหาแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนที่ตนเองเคยศึกษามาไม่น้อยตอนทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเมื่อชาติที่แล้ว
หงซินเจียวจากแคว้นหนานกับอำพันทะเลจากดินแดนตะวันตก เครื่องหอมสองชนิดนี้มีแหล่งกำเนิดคนละที่ แต่กลิ่นหอมล้วนไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมได้ ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนเป็นเครื่องหอมที่หาได้ยากยิ่ง ทว่าไม่มีใครรู้ว่าหากนำเครื่องหอมสองชนิดนี้มาใช้ร่วมกันจะเกิดพิษประหลาดอย่างหนึ่งที่ไร้สีไร้กลิ่น หากสูดดมปริมาณน้อยจะไม่เป็นไร แต่หากสูดดมระยะยาวจะค่อยๆ ถูกพิษ อีกทั้งเมื่อถูกพิษแล้วจะตรวจสอบไม่ได้แม้แต่น้อย แรกเริ่มจะรู้สึกเหนื่อยล้า แขนขาไร้เรี่ยวแรง จากนั้นจะค่อยๆ นอนมากขึ้นจนกลายเป็นสลบไสล ประสาทการรับรู้ด้านชา สุดท้ายก็นอนหลับจนตายไป ทั้งหมดนี้กินเวลาราวครึ่งปี อาการของเซียวจวิ้นในตอนนี้ พิษซึมเข้าสู่กระดูกแล้ว หากยังไม่ขับพิษออกมา เกรงว่าเขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสามวันห้าวันเท่านั้น คิดถึงตรงนี้ หลี่เมิ่งซีก็อดสะท้านเยือกไม่ได้
ใครกันที่ต้องการฆ่าเซียวจวิ้น คนทั่วไปแค่เครื่องหอมชนิดใดชนิดหนึ่งก็หายากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการครอบครองทั้งสองชนิดพร้อมกันเลย การใช้เครื่องหอมสองชนิดพร้อมกันนับเป็นการสิ้นเปลืองโดยแท้ เรื่องนี้ต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่ เห็นชัดว่าเป็นการวางแผนมาอย่างดี หลี่เมิ่งซีคิดว่าตนเพิ่งแต่งเข้าสกุลเซียว ไม่ว่าเซียวจวิ้นจะมีใจให้นางหรือไม่ เขาก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสามีของนาง ซึ่งจะเป็นหลักยึดของนางในวันข้างหน้ายามอยู่ในคฤหาสน์สกุลเซียว เพราะอย่างนั้นเซียวจวิ้นจะตายไม่ได้เป็นอันขาด!
พิษนี้ยังต้องแอบขับออกมา ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครในคฤหาสน์ปองร้ายเซียวจวิ้น ศัตรูอยู่ในที่ลับ นางอยู่ในที่แจ้ง หากตอนนี้หลี่เมิ่งซีโพล่งออกไปว่าเซียวจวิ้นถูกพิษ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่นางเป็นสตรีในห้องหับที่ไม่เคยย่างเท้าออกไปที่ใดเลย แค่นางรู้เรื่องพิษนี้ได้อย่างไรและจะถอนพิษได้อย่างไรก็ล้วนไม่อาจอธิบายได้แล้ว ทั้งน้ำในคฤหาสน์สกุลเซียวลึกเกินไปข้างกายก็ไม่มีคนของตนเองเลย เป็นไปได้ว่าวันนี้นางเพิ่งถอนพิษเสร็จ พรุ่งนี้ก็ถูกปองร้ายจนไม่เหลือแม้แต่ซากแล้ว
“แต่ไรมาข้าไม่เคยปิดทองหลังพระ เห็นแก่ที่เจ้าจะเป็นที่พึ่งในคฤหาสน์สกุลเซียวให้ข้าในวันข้างหน้า จึงได้แต่ยอมทำการค้าขาดทุนไปก่อน ถือเป็นการลงทุนระยะแรกแล้วกัน วันหน้าข้าจะต้องทวงคืนกลับมาทั้งต้นทั้งดอก เซียวจวิ้น เจ้าห้ามเบี้ยวข้าเด็ดขาด!”
หลี่เมิ่งซีหยิบขวดใบเล็กออกมาจากกล่องเครื่องประดับที่เป็นสินเจ้าสาวซึ่งนำติดตัวมาด้วย เทผงยาสีเขียวออกมา นี่เป็นสิ่งที่นางเก็บรวบรวมได้ตอนอยู่ที่คฤหาสน์สกุลหลี่ ก่อนจะเทผงยาลงในน้ำขิงผสมน้ำส้มเก่า คนให้ทั่วและค่อยๆ ป้อนให้เซียวจวิ้น
ไม่เหมือนพิษเจ็ดใบบั่นลำไส้ที่ต้องใช้คางคกหิมะพันปีที่หายากในการถอนพิษ พิษร้ายแรงที่เกิดจากการผสมผสานของอำพันทะเลกับหงซินเจียว แค่ใช้ของธรรมดาอย่างใบไห่ถัง ขิงสด ต้มกับน้ำส้มเก่าและดื่มก็เพียงพอแล้ว ด้วยเพราะของที่ใช้ถอนพิษธรรมดาเกินไป ทั้งยังไม่ใช่ยาอย่างแท้จริงจึงมีน้อยคนที่รู้ หากถูกพิษในระยะเริ่มแรก แค่ดื่มลงไปชามเดียวก็ถอนพิษได้แล้ว แต่เซียวจวิ้นรับพิษมานานจนพิษซึมเข้าสู่กระดูก ไม่อาจถอนพิษได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น ต้องใช้ใบไห่ถังต้มน้ำดื่มต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งเดือนจึงจะถอนพิษได้ทั้งหมด หลี่เมิ่งซีครุ่นคิด
นางหาเข็มเงินออกมาเล่มหนึ่ง ลนกับเปลวไฟจากเทียนไขสีแดง จับมือเซียวจวิ้นขึ้นมาและจิ้มลงไปตรงจุดชีพจรที่ปลายนิ้ว แล้วปล่อยเลือดออกมา มองเลือดสีแดงฉานที่ไหลออกมาจากปลายนิ้วของเขาแล้ว หลี่เมิ่งซีพลันคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตอนจ้าวอี๋เหนียงมารดาบังเกิดเกล้ามอบผ้าพรหมจารี ให้นางและคำพูดของอีกฝ่าย
‘ซีเอ๋อร์ ฟังคำของอี๋เหนียงนะ เจ้าออกเรือนไปเถอะ! นี่เป็นโชคชะตาของสตรีเช่นเรา นายท่านบอกแล้วว่าหากเจ้าไม่ออกเรือนแต่โดยดี หรือเรื่องที่เจ้าเป็นลูกอนุถูกเปิดเผย กระทั่งถูกขับออกจากคฤหาสน์สกุลเซียว แม่กับเจ้าล้วนหนีไม่พ้นความตาย…’
ดูจากที่สกุลเซียวหมั้นหมายกับพี่สาวหลายปีแต่ไม่ตบแต่งสักที สุดท้ายกลับแต่งเข้ามาเพื่อเสริมมงคล สกุลเซียวโดยเฉพาะ เช่นนั้นเซียวจวิ้นจะต้องไม่ชอบพี่สาวของนางหลี่เมิ่งเฟยแน่ ภรรยาเอกคนนี้แค่เอามาเสริมมงคลเท่านั้น เซียวจวิ้นไม่มีทางเข้าหอกับนาง หลี่เมิ่งซีเป็นคนยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าย่อมไม่เหมือนคนโบราณที่ยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรม มีชีวิตอยู่โดยพึ่งพาบุรุษ คิดหาสารพัดวิธีเพื่อให้เป็นที่รัก ดังนั้นนางจึงไม่ยินดีโอนอ่อนตามเซียวจวิ้นอยู่แล้ว
คืนวันเข้าหอเซียวจวิ้นสลบไสล ไม่เข้าหอย่อมเป็นเรื่องธรรมดา คนสกุลเซียวไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว แต่หากวันใดพิษของเซียวจวิ้นถูกขับออกมาหมด ระหว่างที่นางยังไม่ได้เข้าหอกับเขา หากถูกจับได้ว่านางเป็นลูกอนุที่มาแต่งงานแทน เช่นนั้นนางย่อมถูกขับไล่ออกจากคฤหาสน์ จากนั้นก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น แต่ถ้าข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก ทำให้ทุกคนในคฤหาสน์สกุลเซียวรวมถึงเหล่าไท่จวินรู้ว่านางเข้าหอกับเซียวจวิ้นแล้ว เช่นนั้นนางย่อมไม่ถูกขับออกจากคฤหาสน์สกุลเซียวง่ายๆ แน่ ถึงอย่างไรสกุลเซียวก็เป็นสกุลสูงศักดิ์ เป็นสกุลบัณฑิตที่ทรงภูมิความรู้ หน้าตายังคงต้องรักษาไว้ แม้ตอนนี้เซียวจวิ้นจะไม่ได้สติ แต่เมื่อถอนพิษแล้ว พรุ่งนี้เขาต้องฟื้นแน่ ถึงเวลานั้นเรื่องนี้ย่อมเป็นไปตามที่นางคิด
คิดเช่นนี้ หลี่เมิ่งซีจึงหยิบผ้าพรหมจารีที่อี๋เหนียงมอบให้ตนก่อนออกเรือนออกมา “คุณชายรอง ขอยืมเลือดท่านมาใช้หน่อยแล้วกัน ถือว่าเอาของที่ต้องทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์ คงเป็นไปไม่ได้ที่คืนนี้ข้าช่วยชีวิตท่านแล้ว พรุ่งนี้ท่านจะปล่อยให้ข้าไปตายกระมัง!” หลี่เมิ่งซีพึมพำเสียงค่อย