ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1 ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
ห้องครัวในคฤหาสน์สกุลเซียวแบ่งเป็นห้องครัวนอกกับห้องครัวใน ห้องครัวในรับผิดชอบอาหารสามเวลาของเจ้านายทั้งหลายโดยเฉพาะ ห้องครัวนอกรับผิดชอบอาหารสามเวลาของข้ารับใช้ ผู้ดูแลห้องครัวคือภรรยาของจางรุ่ยสมุห์บัญชี แต่ละเรือนยังมีห้องครัวเล็ก แต่โดยทั่วไปไม่อนุญาตให้ทำอาหาร พวกอี๋เหนียงคนโปรดบางครั้งที่อยากกินอาหารใดเป็นพิเศษก็ต้องมาขออนุญาตจากนายท่านของตนเองก่อน ถึงจะให้แม่ครัวมาทำอาหารที่ห้องครัวเล็กในเรือนของตนเองได้
ประจวบเหมาะที่วันนี้ผู้ดูแลห้องครัวไม่อยู่ มีเพียงบ่าวหญิงสูงวัยแซ่ซุนนำสาวใช้ทำความสะอาด เตรียมอาหารกลางวัน เห็นหงซิ่งประคองสตรีงามเฉิดฉันผู้หนึ่งเดินเข้ามา ต่างก็หยุดงานที่ทำอยู่ในมือ
หงซิ่งเห็นทุกคนเอาแต่ยืนจ้องพวกนางนิ่ง นางจึงรีบตะโกน “สะใภ้รองมาต้มโจ๊กให้คุณชายรอง พวกเจ้ายังไม่รีบเข้ามาคารวะอีก!”
“คารวะสะใภ้รอง!” บ่าวอาวุโสแซ่ซุนรีบนำสาวใช้ทั้งหลายคุกเข่า “ท่านมีอะไรจะสั่ง ส่งสาวใช้มาบอกก็พอเจ้าค่ะ เหตุใดจึงมาด้วยตนเองเล่าเจ้าคะ”
“ลุกขึ้นเถอะ ร่างกายของคุณชายรองเพิ่งฟื้นตัว ยังคงอ่อนแออยู่ ข้าจะมาต้มโจ๊กสมุนไพรให้คุณชายรองสักหน่อย ซุนหมัวมัวเตรียมเตาให้ข้าสักเตาเถอะ” หลี่เมิ่งซีสั่งด้วยน้ำเสียงสุขุม
บ่าวหญิงแซ่ซุนคิดในใจ นี่หรือเจ้าสาวที่มาแต่งงานเสริมมงคลเมื่อวาน ไม่พูดถึงเรื่องที่กฎระเบียบในจวนไม่อนุญาตให้ทำเช่นนี้ ในบรรดาบุตรีสกุลใหญ่ทั้งหลายมีใครเข้าครัวด้วยตนเองบ้างเล่า คิดแล้วก็ดูหมิ่นอยู่ในใจ แต่มิได้ขัดขวาง รีบสั่งให้สาวใช้เตรียมเตากับเครื่องครัวให้ครบครัน แล้วยืนชมความครึกครื้นอยู่ด้านข้าง
หลี่เมิ่งซีใคร่ครวญดูแล้วก็สั่งให้สาวใช้ในครัวนำใบหม่อนที่เก็บในฤดูหนาว ดอกเบญจมาศ ชวนเป้ยหมู่ ใบไห่ถังออกมา ล้างให้สะอาดและบรรจุลงในถุงผ้าโปร่งสะอาด จากนั้นใส่ลงในโถดินเผา เติมน้ำสะอาดที่ตักมาจากบ่อ ต้มครึ่งชั่วยาม และช้อนกากยาออก เติมข้าวเมล็ดกลมเข้าไปต้มให้สุก ใส่น้ำตาลกรวดเล็กน้อย แล้วสั่งให้คนตักขึ้นมาและหาเครื่องเคียงสี่อย่าง ก่อนจะให้สาวใช้ยกตามมา ส่วนตนเองก็ให้หงซิ่งประคองเดินกลับเรือน
โจ๊กซังจวี๋ ชามนี้เทียบกับของชาติก่อนที่นางเคยทำจะมีไห่ถังเพิ่มขึ้นมาหนึ่งอย่าง หลี่เมิ่งซีเลือกทำโจ๊กซังจวี๋ หนึ่งเพราะใบหม่อนและดอกเบญจมาศสามารถรักษาภาวะตับพร่องได้ ทั้งบำรุงโลหิตและบำรุงสายตา เหมาะกับสภาพร่างกายของเซียวจวิ้นตอนนี้พอดี สองเพราะต้องการเพิ่มใบไห่ถังเข้าไป ใบไห่ถังมีรสอ่อน แต่ใบหม่อนกับชวนเป้ยหมู่มีรสเข้มข้น ใช้กลบกันได้พอดี ทั้งยังเพิ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกเบญจมาศเข้าไป เซียวจวิ้นจะต้องแยกแยะรสชาติของใบไห่ถังไม่ออกแน่ นางไม่กลัวถ้าเซียวจวิ้นจะจับได้ว่ามีรสชาติของใบไห่ถังสักครั้งสองครั้ง แต่หากกินต่อเนื่องนานหนึ่งเดือน ถ้าเซียวจวิ้นรู้เข้าจะต้องสงสัยแน่ หลี่เมิ่งซีเพิ่งแต่งเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้ จำเป็นต้องรอบคอบทุกอย่าง และคอยระมัดระวังตัวอยู่เสมอ เกรงว่าหากพลาดไปแม้เพียงก้าวเดียวจะถูกคฤหาสน์หลังใหญ่นี้กลืนกินเข้าไป ชาติก่อนนางเห็นการแก่งแย่งชิงดีของสตรีในคฤหาสน์หลังใหญ่ทางละครทีวีมามาก ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะถึงคราวที่ตนเองต้องมาแสดงเองบ้าง
หลี่เมิ่งซีกลับถึงเรือน หงจู หงอวี้กินอาหารเสร็จแล้ว ยามนี้กำลังปรนนิบัติเซียวจวิ้นอยู่ในห้อง
เซียวจวิ้นเห็นหลี่เมิ่งซีเข้ามา ปรายตามองนางแวบหนึ่งและเอ่ยถามเสียงเย็น “ตอนเช้าหายไปที่ใดมา”
“เรียนคุณชายรอง ข้าภรรยาคิดว่าร่างกายของคุณชายรองยังอ่อนแอ จึงไปห้องครัวต้มโจ๊กซังจวี๋มาให้คุณชายรองเจ้าค่ะ” หลี่เมิ่งซีก้าวขึ้นไปย่อกายตอบ
เซียวจวิ้นกวาดตามองถาดอาหารที่สาวใช้ด้านหลังหงซิ่งยกเข้ามา ใบหน้าพลันบึ้งตึง
“หลี่เมิ่งซี ในเมื่อเจ้าแต่งเข้าสกุลเซียวของพวกเราแล้วก็ต้องจดจำฐานะของตนเองไว้เสมอ ทำตามกฎธรรมเนียมของสกุลเซียว เป็นถึงประมุขหญิงในอนาคตของสกุลสูงศักดิ์ จะลดตัวไปคลุกคลีกับข้ารับใช้ได้อย่างไร ถึงเจ้าไม่อับอายก็อย่ามาทำให้ข้าต้องเสียหน้า!”
“คุณชายรองอย่าโกรธเลยเจ้าค่ะ ล้วนเป็นความผิดของบ่าว สะใภ้รองไม่รู้กฎธรรมเนียมสกุลเซียว บ่าวไม่อาจห้ามสะใภ้รองไม่ให้ไปห้องครัวใหญ่ได้ ขอคุณชายรองโปรดลงโทษด้วย” หงซิ่งเห็นเซียวจวิ้นบันดาลโทสะก็คุกเข่าลงทันที แล้วโขกศีรษะติดๆ กัน
“บ่าวไม่ได้ปรนนิบัติสะใภ้รองให้ดี ขอคุณชายรองโปรดลงโทษด้วย” หงจู หงอวี้คุกเข่าตามพลางมองหลี่เมิ่งซีอย่างขุ่นเคือง สะใภ้รองผู้นี้จะสำรวมตัวหน่อยมิได้หรือไร เข้าบ้านมาวันแรกก็ทำให้คุณชายรองโกรธเสียแล้ว หากเป็นแบบนี้ต่อไป วันหน้าจะใช้ชีวิตอย่างไร
สาวใช้รุ่นเล็กข้างหลังก็คุกเข่าตามไปด้วย
หลี่เมิ่งซีถึงได้ตระหนักว่าตนเองบุ่มบ่ามเกินไปเสียแล้ว ที่แท้นี่เป็นกฎระเบียบของสกุลใหญ่ หากประมุขหญิงต้องการเอาใจสามีด้วยการลงมือทำกับข้าวเอง ก็ได้แต่ทำอาหารอยู่ในห้องครัวเล็กในเรือนหลังของตน ไม่อนุญาตให้ไปที่ห้องครัวใหญ่ ข้ารับใช้ในห้องครัวใหญ่มีฐานะต่ำต้อยเกินไป ทั้งผู้คนยังปะปนกันมากมาย ย่อมเสื่อมเสียเกียรติของประมุขหญิงของบ้าน
“คุณชายรอง เดิมทีข้าภรรยาไม่รู้ว่ามีกฎระเบียบเช่นนี้ หงซิ่งเพียงทำตามคำสั่งของข้า คุณชายรองโปรดอย่าตำหนิหงซิ่งเลย เป็นความผิดของข้าภรรยาเอง คุณชายรองโปรดลงโทษด้วย” หลี่เมิ่งซีก้าวขึ้นไปตอบอย่างนอบน้อม
เซียวจวิ้นเหลือบมองหลี่เมิ่งซีแวบหนึ่งและออกคำสั่ง “ใครก็ได้ หงซิ่งรู้กฎระเบียบในคฤหาสน์ดี แต่กลับไม่รู้จักตักเตือนสะใภ้รองว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ลากตัวออกไป ตบปากสิบที!”
“คุณชายรองโปรดอย่าลงโทษหงซิ่งเลย ข้าภรรยาบังคับหงซิ่งเองเจ้าค่ะ” หลี่เมิ่งซีหน้าซีดเผือดทันใด แต่ยังฝืนวางตัวสุขุมขอร้องเซียวจวิ้น
“ลากตัวออกไป ตบปากสิบห้าที!”
“บ่าวขอร้องสะใภ้รองอย่าพูดอีกเลยเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายรองที่ลงโทษ บ่าวจะไปรับโทษเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
หงซิ่งเห็นใบหน้าของเซียวจวิ้นบึ้งตึงขึ้นทุกที นางเหลือบมองสะใภ้รองอย่างขุ่นเคือง โขกศีรษะติดๆ กัน ก่อนจะถูกบ่าวหญิงสูงวัยลากตัวออกไป
“ตั้งสำรับเถอะ!” เซียวจวิ้นกวาดตามองหงจู หงอวี้ที่คุกเข่าอยู่กับพื้น แล้วพูดเสียงเย็น
หงจู หงอวี้รีบลุกขึ้น ส่งสายตาให้สาวใช้รุ่นเล็กทั้งหลายออกไปยกน้ำเข้ามา ก่อนจะชุบผ้ากับน้ำเช็ดมือให้เซียวจวิ้น ยกโต๊ะมาหน้าเตียงจัดเรียงอาหาร และปรนนิบัติเซียวจวิ้นกินโจ๊ก
เซียวจวิ้นทำเหมือนตอนเช้าคือไม่ได้ให้หลี่เมิ่งซีปรนนิบัติ นางเพียงนั่งหน้าซีดขาวบนเก้าอี้อย่างสำรวม เหล่าสาวใช้ยิ่งระมัดระวัง เกรงว่าจะเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นแล้วทำให้คุณชายรองโมโหอีก ในห้องเงียบจนได้ยินเพียงเสียงชามตะเกียบกับเสียงกินโจ๊กของคุณชายรอง
เวลานี้เอง สาวใช้ก็เข้ามารายงานว่าเหล่าไท่จวินสั่งให้หลี่เมิ่งซีไปยกน้ำชาที่เรือนหลัก
หงจูรีบเข้ามาปรนนิบัติหลี่เมิ่งซีแต่งตัว สวมสีแดงจัดอีกครั้ง ทิ้งหงอวี้ให้อยู่ปรนนิบัติเซียวจวิ้น จากนั้นประคองหลี่เมิ่งซีออกจากประตู มีสาวใช้เตรียมเกี้ยวหลังเล็กเอาไว้แล้ว ก่อนที่คนกลุ่มหนึ่งจะมุ่งหน้าไปยังเรือนโซ่วสี่ของเหล่าไท่จวินอย่างเร่งรีบ