ตอนที่ 5
กินอาหารเสร็จ หลี่เมิ่งซีก็ไม่ได้ให้อี๋เหนียงทั้งหลายไปคารวะและเยี่ยมเยียนเซียวจวิ้นอีก แต่ไล่พวกนางกลับไปทันที นางไม่คิดจะทำตัวเป็นคนดีเรื่อยเปื่อยเช่นนี้อีกแล้ว เมื่อวานใจดีให้พวกนางไปเยี่ยมเซียวจวิ้นแท้ๆ สุดท้ายอยู่ดีๆ นางก็ถูกหลี่อี๋เหนียงใส่ความ ทำดีกลับไม่ได้ดี บทเรียนอันลึกซึ้งครั้งนี้ทำให้นางเข้าใจแล้วว่าในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กินคนได้แห่งนี้ ยิ่งเป็นคนดี…ยิ่งตายไว
กลับถึงห้องนอน เซียวจวิ้นตื่นแล้ว เขาเหงื่อออกทั้งตัวจนเสื้อผ้าเปียกไปหมด หงจู หงอวี้กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา แม้แต่ฟูกนอนกับผ้าห่มที่เปียกเหงื่อก็ถูกเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่แห้งสนิท หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เซียวจวิ้นก็เอนกายลงบนเตียงอีกครั้ง
หลี่เมิ่งซีเดินช้าๆ มานั่งลงที่ขอบเตียง “คุณชายรองรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่”
“พอเหงื่อออกก็รู้สึกตัวเบาขึ้นไม่น้อย แต่มือเท้ายังคงไม่มีความรู้สึก” เซียวจวิ้นเหงื่อออกทั้งตัว ตอนนี้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว ไม่เพียงนึกขอบคุณที่หลี่เมิ่งซีบังคับให้เขาดื่มน้ำแกงเผ็ดร้อนนั่น แต่น้ำเสียงยามพูดจากับนางยังอ่อนโยนลงไม่น้อย
หลี่เมิ่งซียื่นมือไปจับมือเซียวจวิ้น เขาชะงักไป ดวงตาพลันฉายแววรังเกียจ
นางรู้สึกถึงความแข็งกร้าวและความดุดันในดวงตาเขา ใจคิดว่าเขาเข้าใจนางผิดแล้ว แต่ใบหน้ายังคงราบเรียบ พูดพลางลงมือนวด “มือเท้าทั้งสี่ของคุณชายรองรู้สึกชา ให้ข้าภรรยาช่วยนวดให้เถอะเจ้าค่ะ บางทีอาจหายไวขึ้น”
หลี่เมิ่งซีนวดฝ่ามือทั้งฝ่ามือของเซียวจวิ้นก่อน จากนั้นจึงใช้ฝ่ามือถูหลังมือทั้งสองข้างของเขาเบาๆ ใช้มือวนรอบแต่ละนิ้วของเขา ออกแรงกดบริเวณระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ สุดท้ายจึงใช้นิ้วบีบนิ้วมือของเซียวจวิ้นทีละนิ้ว กดและดึง ขั้นตอนทั้งหมดเริ่มจากเบาไปหนัก มีจังหวะที่แน่นอน แม้จะดูเหมือนเป็นการบีบนวดสะเปะสะปะ แต่อันที่จริงกลับเป็นการใช้ทักษะการนวดขั้นสูงในยุคปัจจุบัน
ชาติก่อนหลี่เมิ่งซีเป็นด็อกเตอร์สาขาการแพทย์ มีความรู้ด้านการฝังเข็มและการนวด โดยเฉพาะการนวดฝ่าเท้าในยุคปัจจุบัน ซึ่งชาติก่อนนางก็ไปใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง ได้ยินว่ามือเท้าทั้งสี่ของเซียวจวิ้นยังชาอยู่เล็กน้อย นางจึงคิดถึงการนวดขึ้นมาทันที จิตใต้สำนึกของนางเพียงแต่กำลังทำหน้าที่ของหมอคนหนึ่งอย่างเต็มที่เท่านั้น เพราะการให้บริการคนป่วยอย่างดีที่สุดถือเป็นงานของนางอยู่แล้ว
เซียวจวิ้นเห็นดังนั้น ใจรู้ว่าเมื่อครู่ตนเข้าใจหลี่เมิ่งซีผิดเสียแล้ว เขาจึงปล่อยให้นางนวดไป เริ่มแรกยังไม่รู้สึกอะไร เพียงคิดว่าหลี่เมิ่งซีจงใจทำดีกับเขาเท่านั้น จึงไม่ได้พูดอะไร เขาชินกับการประจบเอาใจของสตรีมานานแล้ว แต่นวดไปนวดมา แขนก็เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและสบายเขาจึงลืมตามองหลี่เมิ่งซีอย่างประหลาดใจ เห็นนางกำลังนวดมือให้เขาอย่างตั้งใจ หัวใจก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนยวบ แล้วหลับตาลงช้าๆ
หลี่เมิ่งซีนวดมือเสร็จก็ส่งสายตาให้หงจูยกเก้าอี้กลมมา นางลุกขึ้นเดินไปนั่งที่ปลายเตียง เริ่มนวดเท้าให้เซียวจวิ้น หลี่เมิ่งซีงอนิ้วชี้ นิ้วโป้งแตะเบาๆ ตรงข้อนิ้วสุดท้ายของนิ้วชี้ ออกแรงพยุงนิ้วชี้ไว้ ให้กระดูกนิ้วของนิ้วชี้อยู่ในแนวเดียวกับฝ่ามือ ปลายแขน และแขนท่อนบน จากนั้นจึงออกแรงกดไปที่จุดหย่งเฉวียน บนเท้าซ้ายของเซียวจวิ้นแล้วปล่อย ก่อนจะขยับไปช้าๆ เท้าของเซียวจวิ้นแข็งทื่อทันใด ดวงตาที่ปิดอยู่พลันเบิกโพลง ประกายเยียบเย็นสาดออกมา
หลี่เมิ่งซีรู้สึกถึงไอเย็นเยียบเหนือหัวกับความแข็งทื่อของเขา ในใจตระหนก นางประมาทเกินไปแล้ว คนโบราณล้วนรู้วรยุทธ์ ได้ยินหงจูบอกว่าคุณชายรองฝึกฝนวรยุทธ์ตั้งแต่เด็ก สามารถเหาะเหินเดินกำแพงได้ ส่วนเรื่องที่ว่าสามารถเหินกายได้สูงแค่ไหน หรือเดินกำแพงท่าไหนได้บ้างนั้น หงจูก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน เอาเป็นว่าสามารถเคลื่อนไหวอยู่กลางอากาศได้ มักจะไปมาอย่างลึกลับอยู่บ่อยๆ เพียงแต่ครั้งนี้อาการป่วยเกือบสองเดือนทำให้เขาดูเหมือนคนอ่อนแอไม่ทนลม
แน่อยู่แล้ว! ไม่ว่าใครหากต้องนอนอยู่เช่นนี้หลายเดือนก็มีสภาพนี้ทั้งนั้น หลี่เมิ่งซีไม่สบอารมณ์ที่หงจูโอ้อวดคุณชายรองของพวกนางถึงเพียงนี้ เอาแต่พูดถึงความดีของเขาจนนางไม่ได้เก็บมาใส่ใจ