ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1 ตอนที่ 5
หลี่เมิ่งซีใช้นิ้วนวดขมับ คิดถึงนัยน์ตาลึกล้ำดุจบ่อน้ำคู่นั้นของคุณชายสามแล้ว ในหัวพลันเกิดความคิด หรือว่านางอยากให้คุณชายสามเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขของบ้านจึงบังเกิดความคิดสังหารเซียวจวิ้น
เซียวจวิ้นชอบกลิ่นหอมชนิดต่างๆ เรื่องนี้หาใช่ความลับในคฤหาสน์สกุลเซียวแต่อย่างใด ทุกคนต่างรู้ดีว่าเหล่าไท่จวินรักหลานชายเพียงใด ในเมื่อมีของที่หลานชายชอบทั้งที มีหรือจะไม่รีบนำมาให้ ต่อให้เหล่าไท่จวินไม่ทันคิด ขอเพียงมีคนเอาเรื่องนี้ไปบอกกล่าวกับเซียวจวิ้น เขาย่อมต้องเป็นฝ่ายไปขอมาแน่ คาดเดาได้แม้กระทั่งความคิดจิตใจของเหล่าไท่จวินกับเซียวจวิ้น จัดการเรื่องราวได้อย่างไร้ช่องโหว่ คนที่วางแผนใช้พิษชนิดนี้มีความรอบคอบมากจริงๆ น่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง
“สะใภ้รองรู้สึกไม่สบายหรือเจ้าคะ” หงจูเห็นหลี่เมิ่งซีนวดขมับพลางมุ่นคิ้วก็เอ่ยถาม
“ปกติเหล่าไท่จวินก็ชอบกลิ่นหอมแปลกๆ ด้วยหรือ”
“เหล่าไท่จวินชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ มากกว่าเจ้าค่ะ แต่ไรมาใช้เครื่องหอมอยู่เพียงอย่างสองอย่างเท่านั้น”
การมอบของขวัญให้ผู้อื่น ย่อมต้องมอบสิ่งที่ถูกใจ จางอี๋ไท่หาใช่สะใภ้ที่เพิ่งเข้าประตูมา นางหาใช่คนอ่อนหัดไร้ประสบการณ์ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเหล่าไท่จวินไม่ชอบกลิ่นหอมประหลาด แต่นางกลับยังหาดอกไม้แปลกที่มีกลิ่นหอมเช่นนี้มามอบให้ แม้จะเป็นของหายาก แต่ในเมื่อผู้รับไม่ชอบกลิ่นหอมเช่นนี้ แล้วจะเป็นที่ถูกใจได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่านางมีเจตนาอื่นแอบแฝง เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณชายสามมีส่วนด้วยหรือไม่เท่านั้น
“ดี!” หลี่เมิ่งซีโพล่งคำว่า ‘ดี’ ออกมากะทันหัน สีหน้าคืนสู่ความสุขุมเยือกเย็นดังเดิม ทำให้หงจูตกใจจนสะดุ้ง มองหลี่เมิ่งซีและคิดว่า สะใภ้รองผู้นี้คิดอะไรขึ้นมาได้อีกแล้วหรือ ดีอะไรของนาง
“ไปบอกจางอี๋เหนียงกับหลี่อี๋เหนียงว่าข้าสะใภ้รองมีคำสั่ง สุขคนเดียวมิสู้สุขกันถ้วนหน้า พืชประหลาดที่สวยงามและส่งกลิ่นหอมไปทั่วเช่นนี้จะเก็บไว้ในห้องชื่นชมอยู่คนเดียวได้อย่างไร มิสู้ย้ายออกมาให้ทุกคนได้ร่วมชื่นชม ย้ายหงซินเจียวในเรือนของอี๋เหนียงทั้งสองมาไว้บนชั้นวางตรงนี้เถอะ ข้าชอบให้ดอกไม้อยู่รวมกันมากๆ เป็นหมู่มวลบุปผา เวลาชื่นชมจึงจะให้ความรู้สึกที่ดี!” หลี่เมิ่งซีใช้นิ้วลูบใบหงซินเจียวพลางสั่งสาวใช้ข้างหลังคนหนึ่งที่ชื่อเชี่ยนเอ๋อร์
หงจูนึกเสียใจภายหลังยิ่งนัก เมื่อครู่สะใภ้รองขมวดคิ้วนิ่วหน้า ยังคิดว่านางรู้สึกไม่สบายตรงที่ใดเสียอีก เป็นกังวลอยู่นานแต่ที่ไหนได้นางกลับขบคิดว่าจะกลั่นแกล้งอนุคนโปรดสองคนเช่นไรดี ตนเองกลับมัวมาเป็นห่วงนางเช่นนี้เสียได้ เมื่อคิดถึงความปากมากของตนเองเมื่อครู่แล้วก็อยากตบปากตนเองนัก
สะใภ้รองผู้นี้ไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมัน เลยจริงๆ หากอี๋เหนียงทั้งสองจับมือกันมาเอะอะโวยวายกับคุณชายรอง เรือนหลังย่อมต้องเกิดพายุฝนขึ้นอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพิ่งแต่งเข้ามาไม่กี่วันเท่านั้นก็ก่อเรื่องมากมายเช่นนี้ เห็นว่าในคฤหาสน์ยังวุ่นวายไม่พอหรือไร แต่อย่าได้ก่อเรื่องจนเหมือนเมื่อวานเป็นอันขาด คิดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน คิดถึงหลี่อี๋เหนียงแล้วก็อดรู้สึกหนาวเยือกในใจไม่ได้ สะใภ้รองผู้นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ชอบหมู่มวลบุปผาอะไรกัน เห็นชัดว่าต้องการหาเรื่องมากกว่า นายท่านใหญ่ทิ้งคำพูดไว้เมื่อตอนกลางวันแล้ว หากอี๋เหนียงกล้าก่อเรื่องอีกจะต้องถูกขับออกจากคฤหาสน์ หากอี๋เหนียงทั้งสองไม่อาละวาด สะใภ้รองย่อมต้องแย่งเอาดอกไม้มา คุณชายรองก็จะไม่ไปเรือนของอี๋เหนียงคนใดเพราะดอกไม้ชนิดนี้อีก
สะใภ้รองผู้นี้ร้ายกาจมาก อุบายลึกล้ำยากจะคาดเดา นี่เพิ่งเข้ามาในคฤหาสน์ได้สองวันเท่านั้นก็เริ่มจัดการกับอี๋เหนียงแล้ว หงจูรู้สึกเสียใจภายหลังมากกว่าเดิมที่เมื่อครู่ตนเองปากมาก ลอบภาวนาในใจ อี๋เหนียงทั้งสอง พวกท่านจะต้องอดทนไว้นะ เวลานี้อย่าได้ล่วงเกินสะใภ้รองเด็ดขาด!
หลี่เมิ่งซีไหนเลยจะล่วงรู้ความคิดของหงจู เห็นนางหน้าซีด ยังคิดว่านางกลัวตนเองจะล่วงเกินอี๋เหนียงทั้งสองเข้าจึงรู้สึกเป็นห่วงแทน
เรื่องนี้หลี่เมิ่งซีเองก็จนปัญญาเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะโอดครวญในใจ ข้าก็ไม่อยากล่วงเกินอี๋เหนียงสองคนนั้นหรอก นั่นเป็นแก้วตาดวงใจของคุณชายรองเชียวนะ! แต่เพื่อช่วยชีวิตคุณชายรอง ข้าจำเป็นต้องทำ!
หลี่เมิ่งซีแสร้งทำเป็นไม่เห็นสีหน้าของหงจู เพียงให้อีกฝ่ายประคองเดินต่อไปยังส่วนลึกของสวนดอกไม้ตามเส้นทางเล็กๆ ที่คดเคี้ยวและเงียบสงบ นางมองพืชพรรณสีสันต่างๆ กับดอกไม้ใบหญ้าแล้วก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นทุกที เป็นครั้งแรกที่นางตระหนักถึงข้อดีของยุคโบราณ ของพวกนี้ล้วนเป็นอาหารธรรมชาติปลอดสารเคมี ไม่มีการปนเปื้อน ไม่มีการใช้ปุ๋ย เป็นของดีสำหรับบำรุงร่างกายโดยแท้ เดินไปพลางแยกแยะดอกไม้ใบหญ้าชนิดต่างๆ ไปพลาง หนิวฝานหลี่ว์ ต้าจี้ เสี่ยวเสวียนฮวา หม่าหลันโถว หลงหยาเฉ่า หม่าฉื่อเซี่ยน เจวี๋ยไช่ โจ่วหม่าเฉ่า พริกหอม ซงหรง…บางชนิดยังมีสรรพคุณทางยาด้วย ในใจจึงอุทานด้วยความประหลาดใจไม่ได้ นางก้มตัวลงไปเก็บหม่าฉื่อเซี่ยนขึ้นมาต้นหนึ่งและพิจารณาดูอย่างละเอียด
“สะใภ้รอง นี่เรียกว่าผักอายุยืนเจ้าค่ะ ดอกไม้ใบหญ้าในลานแห่งนี้คุณชายรองสั่งให้คนเก็บรวบรวมจากพื้นที่ต่างๆ มาปลูกไว้ในลาน ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็จะยิ่งมีพืชพันธุ์ล้ำค่ามากมาย ทั้งหายากในต้าฉี ได้ยินว่าบางอย่างเป็นยาสมุนไพรหายากของใต้หล้าด้วย คุณชายรองไม่รู้วิชาแพทย์ แต่กลับชอบปลูกของเหล่านี้ จึงมักมีหมอชื่อดังมาหาคุณชายรองเพื่อขอสมุนไพรเหล่านี้ไป แต่ปกติที่นี่ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาเจ้าค่ะ” หงจูชี้ดอกไม้ใบหญ้าไกลออกไปพลางแนะนำกับหลี่เมิ่งซี
ผักอายุยืน! หลี่เมิ่งซีจำได้ว่าตนเคยเรียนมาเมื่อชาติก่อน ผักป่าชนิดนี้มีชื่อว่าหม่าฉื่อเซี่ยน ใบสีเขียว ลำต้นสีแดง ดอกสีเหลือง รากสีขาว ผลสีดำ จึงมีอีกชื่อว่า ‘หญ้าห้าธาตุ’ นางจำไม่ผิดแน่นอน บางทีมิตินี้กับมิติของตนอาจมีความแตกต่างกันอยู่บ้างกระมัง หรือไม่ก็อาจจะเป็นอีกชื่อของพืชชนิดนี้ แต่นางจำไม่ได้เอง
จำได้ว่าผักป่าชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุ และวิตามิน มีสรรพคุณในการยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคบิด แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ จึงได้ชื่อว่า ‘ยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติ’ สามารถขับพิษ ลดการอักเสบ ขับปัสสาวะ และลดบวมได้ คิดถึงสรรพคุณของหม่าฉื่อเซี่ยนแล้ว เปลือกตาที่บวมเล็กน้อยของเหล่าไท่จวินก็ผุดขึ้นตรงหน้า ทั้งยังมีอาการผิวเหลืองอีก เห็นได้ชัดว่าไตกับม้ามของอีกฝ่ายอ่อนแอ สามารถใช้ของสิ่งนี้บำรุงร่างกายได้พอดี