ตอนที่ 6
หลี่เมิ่งซีลืมตาก็เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเซียวจวิ้นกำลังพินิจมองนางอยู่ มองรอยยิ้มที่อาบทออยู่ในตาหงส์คู่นั้น มองดวงหน้าน่าหลงใหลนั้นแล้ว คุณชายรองผู้นี้เวลายิ้มก็ดูน่ามองถึงเพียงนี้เชียวหรือ หลี่เมิ่งซีที่ไม่เคยต้านทานหนุ่มหล่อได้อยู่แล้วจึงหลงใหลไปชั่วขณะ หรี่ตามองเซียวจวิ้นอย่างพร่าเลือน โดยไม่รู้เลยว่านางในยามนี้มีเสน่ห์เพียงใด
เซียวจวิ้นหวั่นไหว แล้วเอ่ยถามเสียงนุ่ม “ตื่นแล้วหรือ”
ได้ยินเสียงของเซียวจวิ้น หลี่เมิ่งซีก็ตาสว่างในทันที ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนเองอยู่ที่ใด นางผุดลุกขึ้นนั่ง “อรุณสวัสดิ์คุณชายรอง ข้าภรรยานอนเลยเวลา ข้าจะปรนนิบัติคุณชายรองสวมเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
หลี่เมิ่งซีพูดพลางยื่นมือไปคว้าเสื้อตัวนอกที่เมื่อคืนวางไว้บนตั่งนุ่มขึ้นมา พอขยับตัวถึงได้รู้สึกว่าร่างกายตนเองชาไปครึ่งซีก ย้อนคิดถึงเมื่อคืน เนื่องจากเซียวจวิ้นนอนกลางวันไปเยอะแล้ว กลางคืนจึงไม่ง่วง เวลาเหลือขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้อง บรรยากาศก็ชะงักงัน เซียวจวิ้นนั่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา นางเค้นสมองขบคิดแล้วก็ยังหาหัวข้อสนทนาไม่ได้ ไม่รู้ไหวพริบที่ตนเองเคยมีหายไปที่ใดหมด คนหนึ่งอยู่บนเตียง คนหนึ่งอยู่บนพื้น ทั้งสองนั่งเผชิญหน้ากันเช่นนี้และเงียบ
ภายหลังนางจึงตัดสินใจนวดฝ่าเท้าให้เขา นวดเสร็จเห็นเขาหลับตา คล้ายหลับไปแล้ว ถึงได้เป่าเทียนเงียบๆ ปล่อยม่านเตียงและคลานเข้าไปด้านในเตียง นอนชิดผนัง แทบอยากให้ตนเองเป็นภาพที่ติดอยู่บนผนัง นอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ตอนแรกยังกังวลอยู่มาก ภายหลังเห็นว่าเซียวจวิ้นไม่ขยับตัวเลยสักนิด นางจึงค่อยๆ วางใจ สุดท้ายด้วยความเหนื่อยจึงผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้แค่ขยับตัวก็ทรมานไปหมด หลี่เมิ่งซีคิด ชีวิตเช่นนี้ยังต้องดำเนินไปอีกครึ่งเดือน หาเรื่องใส่ตัว หนีไม่พ้นจริงๆ!
นางลอบทอดถอนใจกับชีวิตอันมืดมนน่าเศร้าของตนเองในอนาคต แต่เรื่องที่ควรทำก็ยังต้องทำ แม้ร่างกายจะชาเหลือเกิน แต่ยามอยู่ต่อหน้าเซียวจวิ้นนางไม่กล้าปล่อยตัวตามสบาย ฝืนลุกขึ้น ลงจากเตียงและเปิดประตู เรียกหงจู หงอวี้เข้ามาปรนนิบัติเซียวจวิ้น
เซียวจวิ้นเห็นหลี่เมิ่งซีตื่นขึ้นมาก็แสดงความเหินห่างกับตนทันที รอยยิ้มบนใบหน้าพลันหายไป เขานั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา
หงอวี้ และหงจูเข้ามาเห็นคุณชายรองสีหน้าไม่ดีนัก จึงปรนนิบัติด้วยความระมัดระวังที่มากกว่าเดิม ทั้งสองอดทอดถอนในใจไม่ได้ สะใภ้รองผู้นี้ไม่สำรวมเลยแม้แต่น้อย ตื่นเช้ามาก็ทำให้คุณชายรองโมโหเสียแล้ว ไม่รู้จักเอาใจคุณชายรองบ้างหรือไร ทำให้พวกนางที่เป็นบ่าวพลอยทำตัวลำบากไปด้วย นางไม่รู้หลักการที่ว่าแต่งกับไก่อยู่กับไก่ แต่งกับสุนัขอยู่กับสุนัข หรือไร ไม่รู้หรือว่าคุณชายรองเป็นท้องฟ้าของนาง ไม่รู้หรือว่าความสุขในวันข้างหน้าของนางล้วนขึ้นอยู่กับคุณชายรอง ทั้งสองอยากจะดึงตัวสะใภ้รองเข้ามาอบรมสักรอบหนึ่งเหลือเกิน ผ่าสมองนางออกมาดูว่าข้างในใช่มีแต่แป้งเปียกหรือไม่ ไฉนจึงไม่รู้จักแม้กระทั่งหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรม
หลี่เมิ่งซีนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองหงจูเกล้ามวยผมอย่างสตรีสูงศักดิ์ให้ตนเอง นางยื่นมือไปจับผมที่ปรกหน้าผากอยู่ ก่อนจะหันไปถามเซียวจวิ้น “ข้าภรรยาจะไปห้องครัวแล้ว วันนี้คุณชายรองอยากกินอะไรเจ้าคะ”
เนิ่นนานก็ไม่ได้รับคำตอบจากเขาจึงถามต่อ “ข้าภรรยาไปทำบะหมี่หยางชุน ให้คุณชายรองดีหรือไม่ สองวันนี้กินแต่โจ๊กจนเบื่อแล้ว”
“อืม” เซียวจวิ้นรับคำเรียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
“คุณชายรอง ระวังหน่อยเจ้าค่ะ!” หงอวี้เห็นเซียวจวิ้นจะออกไปจึงรีบวิ่งไปประคอง
ตอนเช้ายังดีๆ อยู่เลย เขาเป็นอะไรไปอีกแล้ว หลี่เมิ่งซีมองแผ่นหลังของเซียวจวิ้น จับต้นชนปลายไม่ถูก