บทที่ 1
“เซียนปรุงยาเป็นใครกันแน่”
“เป็นเช่นที่รัชทายาทคาดเดา เซียนปรุงยาคือฮูหยินของเซียวจวิ้นพ่ะย่ะค่ะ”
ได้ยินเช่นนี้แล้ว แววตาของซั่งกวนหงฮุยก็หม่นลง พึมพำว่า “เป็นนางจริงๆ!”
เห็นแววตาผิดหวังของรัชทายาทแล้ว หลี่จั้นลอบถอนหายใจ คิดถึงประกายในดวงตาของรัชทายาทตอนเอ่ยถึงเรื่องที่เซียนปรุงยาเป็นสตรี เขาตระหนักว่ารัชทายาทชื่นชอบเซียนปรุงยา แต่ก็คิดไม่ถึงว่านางจะมีสามีแล้วเช่นนี้ เห็นรัชทายาทมีสีหน้าหม่นหมองและพึมพำกับตนเอง เขากระแอมทีหนึ่งก่อนพูด “ตั้งแต่รัชทายาทตรัสกับกระหม่อมว่าตอนอยู่ร้านยาอี๋ชุนเห็นเซียวฮูหยินมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับเซียนปรุงยาอย่างมาก กระหม่อมก็ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในปีนั้นตอนเซียวจวิ้นพาฮูหยินไปไหว้พระที่วัดจิ้งอวิ๋นและเดินสวนกับกระหม่อมไป กระหม่อมรู้สึกคุ้นเคยเช่นกัน หันไปมองอีกครั้งนางก็ขึ้นรถม้าไปแล้ว กระหม่อมคลางแคลงใจอยู่ตลอดจนกระทั่งได้ยินคำพูดของท่าน ย้อนนึกถึงสองปีมานี้ เซียนปรุงยาบอกว่าท่องเที่ยวไปทั่วขุนเขาและสายน้ำ แต่พวกเราตามหาทั่วทุกหนแห่งในต้าฉีแล้วกลับไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อย นอกจากหลบอยู่ในคฤหาสน์แล้วย่อมไม่มีที่อื่นอีก เพียงแต่พวกเราละเลยไปเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
เห็นรัชทายาทผงกศีรษะ หลี่จั้นจิบน้ำชาและพูดต่อ “พอคิดเชื่อมโยงว่าหลี่ตู้มีกำลังทรัพย์มากมายเช่นนั้น น้องสาวเขาเดิมทีเป็นคุณหนูผู้สูงส่ง แต่เขากลับไม่ยอมไถ่ตัวนางกลับมา ยินดีเป็นเพียงบ่าวอยู่ในคฤหาสน์สกุลเซียว เพราะอะไร หากมิใช่เพราะเจ้านายที่นางปรนนิบัติมีอำนาจยิ่งกว่า หากมิใช่เหตุผลนี้ย่อมไม่มีเหตุผลอื่นใดอีก กระหม่อมเคยนัดเซียวจวิ้นสามีภรรยาออกมาหลายครั้ง เซียวจวิ้นล้วนบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าฮูหยินร่างกายไม่แข็งแรง ทำให้กระหม่อมยิ่งแน่ใจ”
“วันนั้นเซียวฮูหยินมีผ้าโปร่งสีดำคลุมหน้า ทั้งยังมีเซียวจวิ้นคอยขัดขวาง รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือน แต่สีผิวกลับแตกต่างกันมาก”
“รัชทายาท สีผิวสามารถทำให้ดำได้ ที่น่าสงสัยที่สุดคือเซียวฮูหยินตายแล้วกลับฟื้นคืนชีพ ยานั้นน้องสาวของหลี่ตู้เป็นผู้นำมาให้ กระหม่อมได้ยินว่านางเอายามาให้แล้วกลับมาเป็นบ่าวอีกครั้ง เรื่องนี้จะบังเอิญถึงเพียงนี้ได้อย่างไร ด้วยเกรงว่าจะผิดพลาด กระหม่อมนึกขึ้นได้ว่าคุณชายเถาเคยมีวาสนาได้พบเซียวฮูหยินมาก่อน เขามักยกย่องว่านางเปี่ยมด้วยความสามารถ ดังนั้นกระหม่อมจึงวาดใบหน้าของเซียนปรุงยาโดยแต่งกายเป็นสตรีและให้คุณชายเถาดู คุณชายเถาเห็นแล้วผงกศีรษะติดๆ กัน นั่นก็หมายความว่า…” หลี่จั้นพูดจบ เห็นรัชทายาทขมวดคิ้วมุ่นจึงอดร้องเรียกไม่ได้ “รัชทายาท!”
ซั่งกวนหงฮุยพึมพำว่า “หากเป็นเช่นที่เจ้าพูดจริงๆ เช่นนั้นเซียนปรุงยาก็คือเซียวฮูหยิน ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดก่อนหน้านี้นางจึงถูกพิษจนทำให้เซียวจวิ้นต้องไปคุกเข่าขอร้องที่ร้านยาอี๋ชุน”
“เรื่องนี้กระหม่อมก็ไม่แน่ใจเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ แต่ทั้งนายท่านใหญ่และเซียวจวิ้นต่างก็เคยไปคุกเข่าขอร้องร้านยาอี๋ชุน เช่นนั้นย่อมมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว คนสกุลเซียวไม่รู้ว่าเซียนปรุงยาอยู่ในคฤหาสน์ของพวกเขา”
“เซียวจวิ้นเคยขอร้องข้าให้พาเขาไปพบเซียนปรุงยา ข้าก็เดาว่าสกุลเซียวไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน เพียงแต่นางเป็นสตรีที่อาศัยอยู่ในห้องหับ ไปเอาวิชาแพทย์ล้ำเลิศถึงเพียงนั้นมาจากที่ใด”
“รัชทายาท กระหม่อมได้ยินว่าหลี่ตู้ผู้นั้นไม่ว่าเดินทางไปที่ใด ขอเพียงเจอตำราดีหรือตำราแปลกๆ เขาจะนำเงินมหาศาลและยาดีไปแลกมาโดยไม่เสียดาย กระหม่อมเคยมอบตำราที่มีอยู่เพียงฉบับเดียวให้เขาหลายเล่ม เดิมทีคิดว่าหลี่ตู้ชอบอ่านตำรา ภายหลังจึงรู้ว่าเซียนปรุงยาต่างหากที่ชื่นชอบการอ่านตำรา บางทีเซียนปรุงยาอาจเฉลียวฉลาดมาแต่กำเนิด อ่านตำราทุกวันโดยไม่มีอาจารย์ชี้แนะก็เข้าใจได้เองก็เป็นได้”
ซั่งกวนหงฮุยเหลือบมองหลี่จั้นแวบหนึ่ง ผงกศีรษะก่อนจะส่ายหน้า พึมพำกับตนเอง “หากเซียนปรุงยาคือเซียวฮูหยินจริงๆ ข้าจะพานางลงใต้ได้อย่างไร”