พอคิดว่าเซียนปรุงยาที่ตนเลื่อมใสถูกพี่รองย่ำยีเช่นนี้ เซียวอวิ้นก็ยิ่งโมโหยากจะระงับ เขาชี้จมูกเซียวจวิ้น “ส่วนครั้งนี้ ข้าสั่งสอนท่านแทนพี่สะใภ้รอง เวลาท่านชอบก็รั้งนางไว้สุดชีวิต เวลาคิดจะทอดทิ้งก็โยนหนังสือหย่าให้! พี่สะใภ้รองเป็นคนไม่มีความคิดจิตใจ ท่านจะเรียกให้มาหรือสั่งให้ไปก็ได้อย่างนั้นหรือ ท่านคิดว่าสิ่งที่ท่านมอบให้นางดีที่สุดแล้วหรือไร ท่านเคยถามพี่สะใภ้รองบ้างหรือยังว่านางต้องการหรือไม่! ท่านยัดเยียดพี่สะใภ้รองให้รัชทายาท แล้วเคยถามพี่สะใภ้รองแล้วหรือว่านางชอบรัชทายาทหรือไม่! ท่านเห็นพี่สะใภ้รองเป็นอะไร เป็นของเล่นชิ้นหนึ่งในมือท่านที่ท่านสามารถมอบให้ใครก็ได้เช่นนั้นหรือ!”
ได้ยินคำว่า ‘ของเล่น’ เซียวจวิ้นก็อดไม่อยู่ต่อยหมัดไปที่เซียวอวิ้นอย่างแรง เซียวอวิ้นไม่ทันระวังเลือดไหลออกมาจากจมูกทันที เขาอึ้งไปก่อนจะสวนหมัดกลับ คราวนี้เซียวจวิ้นเบี่ยงตัวหลบและต่อยเซียวอวิ้นอีกครั้ง…สองพี่น้องสู้กันอุตลุดในห้องหนังสือ เพียงครู่เดียวห้องหนังสือก็มีสภาพรกเละเทะ สุดท้ายเมื่อทั้งสองหมดแรงจึงหยุดมือ แล้วทรุดนั่งลงบนพื้นพลางหอบหายใจ
สู้กันจนเหนื่อยและระบายโทสะจนพอแล้ว เซียวอวิ้นจึงนั่งสงบสติอารมณ์บนพื้นแล้วพูด “พอพี่รองรู้ว่าพี่สะใภ้รองคือเซียนปรุงยาก็คิดว่านางหลอกลวงท่านใช่หรือไม่ ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดพี่สะใภ้รองจึงต้องออกจากคฤหาสน์ให้ได้ ไม่ใช่เพราะในใจนางมีคนอื่น แต่เป็นเพราะคฤหาสน์แห่งนี้ไม่มีทางรอดให้นางต่างหากเล่า ท่านคิดว่าอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ แค่มีความรักความเข้าใจจากท่านก็เพียงพอแล้วหรือ ท่านรู้หรือไม่ว่าเป็นเพราะท่านฝืนรั้งพี่สะใภ้รองให้อยู่ข้างกายอย่างเผด็จการจึงทำให้พี่สะใภ้รองหายใจไม่ออก…” เซียวอวิ้นเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่พี่สะใภ้รองทราบเรื่องคำสอนของบรรพบุรุษและตกใจ ด้วยรู้ว่าคฤหาสน์สกุลเซียวมิอาจยอมรับนาง จึงนำสินเจ้าสาวไปจำนำและเปิดร้านยาอี๋ชุน ตอนพี่สะใภ้รองถูกขังอยู่ในอารามชิงซินนางเกือบต้องเสียชีวิต ตลอดจนเรื่องอื่นๆ ให้เซียวจวิ้นฟังทั้งหมด
เซียวจวิ้นอ้าปากตาค้างพึมพำว่า “ซีเอ๋อร์รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคฤหาสน์สกุลเซียวมิอาจยอมรับนาง? เหตุใดจึงไม่บอกข้าเล่า พวกเราสามารถช่วยกันคิดหาหนทางได้! เหตุการณ์ในอารามชิงซินนางไม่เคยพูดถึงมาก่อน นางไม่บอกอะไรข้าเลย ไม่เคยเชื่อใจข้าเลย” เซียวจวิ้นพูดพลางไออย่างรุนแรงอีกครั้ง
เห็นมุมปากของพี่รองมีเลือดไหล เซียวอวิ้นจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและโยนให้ เขาพูดต่อว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดเรือนจู๋หยวนจึงไม่เหลือใครสักคน เป็นเพราะจางอี๋เหนียงไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ถูกคนในคฤหาสน์ปิดปากต่างหาก!”
เห็นพี่รองมองตนอย่างจริงจัง เซียวอวิ้นก็พูดต่อ “ตอนนั้นการแกล้งตายของพี่สะใภ้รองทำให้ท่านเหมือนคนไร้วิญญาณ จึงไม่มีใครกล้าบอกเรื่องพวกนี้กับท่าน ตอนนี้ข้าจะบอกท่านว่าเรื่องที่จางอี๋เหนียงวางยาพิษพี่สะใภ้รองมีผู้บงการเบื้องหลังอีกคน…ท่านคิดว่าท่านไม่รับตำแหน่งประมุขสกุลเพื่อพี่สะใภ้รองเป็นการแสดงความรักอย่างลึกซึ้งกระมัง แล้วท่านเคยคิดหรือไม่ว่าในบ้านหลังนี้นอกจากท่านก็ไม่มีใครยอมรับนางได้เลย ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าสำหรับท่านย่า บิดาและมารดา ทุกคนที่ขัดขวางการขึ้นเป็นประมุขสกุลของท่านล้วนต้องตาย ที่พี่สะใภ้รองพยายามออกจากคฤหาสน์ทุกวิถีทางไม่ใช่เพียงเพราะการอยู่ในคฤหาสน์ทำให้ชีวิตนางถูกคุกคามและต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญผวาทุกวันเท่านั้น หากแต่เป็นเพราะคนที่คิดจะทำร้ายนางมิใช่ศัตรูของท่านแต่เป็นญาติสนิท ทำให้ทั้งนางและท่านต่างมิอาจจัดการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาได้ ลองคิดดูว่าหากวันหนึ่งท่านต้องกลายเป็นศัตรูกับมารดาเพราะนาง ต้องขึ้นชื่อว่าอกตัญญูเพราะนาง นางจะมีความสุขหรือ แล้วจะอยู่กับท่านอย่างสบายใจได้แน่หรือ”