“หรือจะเป็นคุณชายสาม” ไม่รอให้หลี่จั้นพูดจบ หลี่เมิ่งซีก็พึมพำกับตนเองอย่างเหลือเชื่อ สายตาของทุกคนพุ่งมาที่นาง
หลี่จั้นหยุดคำพูดของตนเองแล้วถามว่า “คุณชายสาม? คุณหนูหลี่หมายถึงเซียวอวิ้นน่ะหรือ”
“เรื่องนี้ข้าเคยบอกคุณชายสาม แต่คุณชายสามมีนิสัยเปิดเผยสง่างาม เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องเช่นนี้”
เจ้านายไว้ใจคนสกุลเซียวมากเกินไปแล้ว ช้าเร็วต้องตายเพราะสกุลเซียวเป็นแน่! หลี่ตู้ฟังแล้วสีหน้าเปลี่ยนไป เขาหันไปถามว่า “หลี่อี้ ตอนเจ้าเห็นรถนักโทษที่บรรทุกคนจากคฤหาสน์สกุลเซียว มีคุณชายสามอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยหรือไม่”
“เมื่อครู่บ่าวบอกไปแล้วมิใช่หรือ คุณชายใหญ่กับคุณชายสามสกุลเซียวหนีไปได้ มีป้ายประกาศจับแปะอยู่เต็มท้องถนน”
ทุกคนฟังแล้วหัวใจจมดิ่ง เห็นหลี่เมิ่งซีหน้าซีด ต่างไม่มีใครอยากพูดอะไรทั้งนั้น
เนิ่นนานผ่านไป หลี่เมิ่งซีจึงเงยหน้าพูดกับรัชทายาท “พี่ใหญ่ น้องสาวเป็นสตรีที่อาศัยอยู่แต่ในเรือน ไม่รู้กฎเกณฑ์ในราชสำนักสักเท่าไร พูดไปแล้วท่านอย่าได้หัวเราะเยาะ ไม่ทราบว่าราชโองการใหญ่กว่า หรือพระราชเสาวนีย์ใหญ่กว่า หากพระราชเสาวนีย์นี้ประกาศออกมาโดยปิดบังฮ่องเต้ พี่ใหญ่จะขอร้องฮ่องเต้ให้ออกราชโองการอีกฉบับมายกเลิกพระราชเสาวนีย์นี้ได้หรือไม่”
“ในสถานการณ์ทั่วไป ไทเฮาจะไม่ทรงก้าวก่ายการเมือง ราชโองการย่อมใหญ่กว่าพระราชเสาวนีย์ ปกติแล้วพระราชเสาวนีย์จะบังคับใช้เฉพาะกับฝ่ายในเท่านั้น ความผิดมหันต์อย่างการยึดทรัพย์และประหารทั้งตระกูลเช่นนี้ ส่วนใหญ่ล้วนต้องกราบทูลให้เสด็จพ่อทรงออกราชโองการด้วยพระองค์เอง แม้จะออกพระราชเสาวนีย์ก็ต้องประทับตราแผ่นดินตกทอดของเสด็จพ่อจึงจะมีผล บัดนี้ดูแล้วเยียนอ๋องทุ่มสุดกำลัง เกรงว่าคงปิดบังเสด็จพ่อนำพระราชเสาวนีย์ไปยึดทรัพย์สกุลเซียวก่อน ตอนนี้ไม้กลายเป็นเรือไปแล้ว เสด็จพ่อเองก็มิอาจแก้ไขอะไรได้”
“เช่นนี้มิเท่ากับไทเฮาทรงก้าวก่ายเรื่องการเมืองหรอกหรือ ฮ่องเต้ย่อมสามารถออกราชโองการยกเลิกพระราชเสาวนีย์ฉบับนี้ได้มิใช่หรือ”
“ซีเอ๋อร์คิดอะไรง่ายดายเกินไป แม้ราชโองการจะใหญ่กว่าพระราชเสาวนีย์ แต่ราชวงศ์ก็ให้ความสำคัญกับหลักความกตัญญู หากวันนี้ยังไม่ได้มีการปฏิบัติตามพระราชเสาวนีย์ เสด็จพ่อยังสามารถไปเจรจาที่วังฉือหนิง ขอให้ไทเฮาทรงยกเลิกพระราชเสาวนีย์ได้ แต่ตอนนี้พระราชเสาวนีย์ประกาศไปทั่วหล้าแล้ว ราษฎรต่างรู้กันทั่ว หากไม่มีเหตุผลที่เพียงพอ เสด็จพ่อมิอาจล้มล้างพระราชเสาวนีย์ได้ตามอำเภอใจ หาไม่แล้วย่อมกลายเป็นอกตัญญูอย่างยิ่ง กลายเป็นเรื่องตลกของราชวงศ์ไป”
“เหตุผลที่เพียงพอ?!” ฟังคำนี้แล้ว หลี่เมิ่งซีตาเป็นประกาย “พี่ใหญ่ น้องสาวส่งจดหมายไปทางใต้วันที่สิบสองเดือนแปด ให้คนในร้านสาขาสวมรอยเป็นเซียนปรุงยาปรากฏตัวรักษาโรคระบาดทางใต้ คิดว่าอีกไม่กี่วัน หนังสือกราบทูลว่าเซียนปรุงยาปรากฏตัวที่ทางใต้ต้องส่งมาถึงเมืองผิงหยางแน่ พี่ใหญ่จะใช้เหตุผลนี้กราบทูลฮ่องเต้ให้ทรงตั้งคดีและสอบสวนใหม่ ยกเลิกพระราชเสาวนีย์ได้หรือไม่”
“ซีเอ๋อร์พูดมาก็มีเหตุผล แต่เกรงว่าจะไม่ทันการณ์แล้ว วิธีการของเยียนอ๋องโหดเหี้ยม จุดประสงค์ก็เพื่อกำจัดสกุลเซียว หายากที่จะมีโอกาสเช่นนี้ แล้วจะให้เขาปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร คิดว่าเยียนอ๋องจะต้องลงมือภายในวันสองวันนี้แน่ หลังจากที่ยึดทรัพย์และประหารชีวิตคนสกุลเซียวทั้งตระกูลไปแล้ว วันหน้าต่อให้พบว่าเป็นการตัดสินที่ผิดพลาดและมีการพลิกคดีขึ้นมาจริง อย่างมากก็แค่สังหารคนเพิ่มไม่กี่คน และมอบยศตำแหน่งให้หลังตายเท่านั้น สุดท้ายสกุลเซียวยังคงถูกกำจัดทิ้งอยู่ดี นับแต่โบราณมามีคดีที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้มากมาย จะมีสักกี่คนที่กล้าเอาผิดราชวงศ์เล่า!”