ไม่ คนที่หลอกลวงเบื้องสูงเป็นนาง หาใช่เขา เรื่องพวกนี้สมควรให้นางเป็นผู้รับผิดชอบ นางยินดีตายแทนเขา! ชีวิตของคนสกุลเซียวทั้งหมดนางไม่สนใจ ต่อให้ตายทั้งหมดก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนางแม้แต่น้อย ทว่าพอคิดว่านางกับเซียวจวิ้นจะอยู่กันคนละโลก หลี่เมิ่งซีก็หายใจไม่ออกไปชั่วขณะ ฟังถึงตรงนี้ ใบหน้าพลันซีดเผือด มือกดหน้าอกแน่น ร่างกายโงนเงนทำท่าจะล้มลง นางได้จือชิวประคองไว้และพูดเสียงสะอื้น “คุณหนู ท่านใจเย็นๆ ก่อนเถอะ มีรัชทายาทกับคุณชายหลี่อยู่ คุณชายรองต้องไม่เป็นอะไรแน่เจ้าค่ะ ท่านต้องเข้มแข็งไว้นะเจ้าคะ”
หลี่เมิ่งซีพรูลมหายใจยาวออกมาและตั้งสติ นางคืนสู่ความสุขุมเยือกเย็นอีกครั้ง ก่อนจะตบตัวจือชิวตอบว่า “ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องตื่นตกใจไป”
พูดจบก็เงยหน้าพูดกับรัชทายาท “พี่ใหญ่ น้องสาวยินดีเผชิญหน้ากับเยียนอ๋องในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง น้องสาวจะไปมอบตัวกับทางการประเดี๋ยวนี้ เยียนอ๋องกับฮ่องเต้ล้วนไม่เคยพบน้องสาวมาก่อน ขอพี่ใหญ่โปรดช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ด้วย ไปเป็นพยานในศาลเพื่อพิสูจน์ว่าน้องสาวไม่ใช่คนที่โขกศีรษะสาบานเป็นพี่น้องกับท่าน ไม่ใช่เซียนปรุงยา มีทุกคนในร้านยาอี๋ชุนและพี่ใหญ่เป็นพยาน แม้จะล้มล้างพระราชเสาวนีย์ไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังสามารถยื้อคดีนี้ไว้จนกระทั่งหนังสือกราบทูลจากทางใต้ส่งมาถึง ถึงเวลานั้นทุกอย่างย่อมคลี่คลายเอง”
เห็นหลี่เมิ่งซีจะเอาตัวเข้าเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเหลือเซียวจวิ้น ซั่งกวนหงฮุยก็ตัวสั่นสะท้าน สองมือสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจ้องมองหลี่เมิ่งซีอย่างแข็งทื่อพูดอะไรไม่ออกชั่วขณะ
นิ่งคิดอยู่นานรัชทายาทจึงเอ่ยว่า “ซีเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ในราชสำนัก เจ้าย่อมไม่รู้ว่าน้ำในราชสำนักนั้นลึกเพียงใด เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายดายเช่นที่เจ้าคิด ไม่พูดถึงว่าหากไม่มีเหตุผลที่หนักแน่นพอ เสด็จพ่อทรงไม่มีทางสอบสวนคดีที่ไทเฮาทรงตัดสินไปแล้วใหม่แน่ แค่วิธีการอันโหดเหี้ยมที่เยียนอ๋องใช้เพื่อชิงตำแหน่งรัชทายาทก็ถึงขั้นไม่สนใจชีวิตของราษฎร แล้วเขาจะใส่ใจชีวิตเจ้าเพียงคนเดียวได้อย่างไร ตอนนี้ทั่วเมืองล้วนปิดประกาศจับกุมเจ้าไปทุกหนแห่ง เจ้าออกไปเช่นนี้ก็เท่ากับวิ่งเข้าหาศัตรู คดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของเยียนอ๋อง ข้าไม่อาจก้าวก่ายตามอำเภอใจได้ หากเจ้าตกไปอยู่ในมือของเยียนอ๋องจริง เกรงว่ายังไม่ทันได้ขึ้นศาลก็ถูกถลกหนังออกมาชั้นหนึ่งแล้ว จากนั้นยังจะถูกบังคับให้เขียนหนังสือรับสารภาพด้วย…ซีเอ๋อร์ ชีวิตเจ้าไม่ใช่ของเจ้าเพียงคนเดียวหรอกนะ ราษฎรหลายหมื่นคนทางใต้ยังรอการช่วยเหลือจากเจ้าอยู่ ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด ช่วงนี้เจ้าก็หลบอยู่ที่นี่กับหลี่ตู้และโอวหยางตี๋ไปก่อนเถอะ เรื่องภายนอกข้าจะจัดการเอง”
สิ่งที่ซั่งกวนหงฮุยไม่ได้พูดก็คือหากมีการขึ้นศาลและเขาเป็นพยานเท็จ ก็ถือเป็นความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูงเช่นกัน เท่ากับเปิดช่องโหว่ที่อันตรายถึงชีวิตให้เยียนอ๋องเอาผิดเขาได้ในภายหลัง หลี่เมิ่งซีรักษาโรคระบาดย่อมต้องพบปะกับหมอหลวงทั้งหลายในสำนักแพทย์หลวง ทั้งยังต้องพบกับเหล่าขุนนางทางใต้ เรื่องนี้ช้าเร็วเสด็จพ่อก็ต้องรู้แน่ ถึงเวลานั้นหากมีเยียนอ๋องกับไทเฮาคอยยุแยง ต่อให้เสด็จพ่อคิดจะปกป้องเขามากเพียงใด แต่จะอุดปากของผู้คนมากมายได้อย่างไรเล่า
เห็นหลี่เมิ่งซีมีสีหน้ากลัดกลุ้ม หลี่จั้นจึงโน้มน้าวด้วยอีกคน “คุณหนูหลี่อย่าเพิ่งหมดหวัง เรื่องนี้ใช่ว่าจะไม่มีหนทางอื่น…”
“ยังมีหนทางอะไรอีกหรือ”
“ยังมีอีกสองวิธีที่สามารถทำให้ฮ่องเต้ทรงยกเลิกพระราชเสาวนีย์ แล้วส่งคดีนี้กลับไปสอบสวนใหม่ที่กรมอาญา ทว่าทั้งสองวิธีล้วนเป็นไปได้ยากมาก”
“สองวิธีใดบ้าง ต่อให้ยากเพียงใดข้าก็ต้องลองดู!”