ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 1 บทที่ 1-2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 1 บทที่ 1-2

หน้าที่แล้ว1 of 8

บทที่ 1

รัชศกจยาจิ้งปีที่สิบเอ็ด หิมะเหมันต์ระลอกหนึ่งปกคลุมนครหลวงก่อนเวลาอันควร เมื่อวานหิมะตกตลอดทั้งคืน เช้านี้ตื่นมาฟ้าดินขาวโพลน เกล็ดน้ำแข็งสีเงินกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง

เหล่าบ่าวรับใช้หญิงในจวนเจิ้นหย่วนโหว* ตื่นแต่เช้าตรู่มากวาดหิมะ ไม้กวาดที่ลากไปบนพื้นส่งเสียงดังสวบสาบเป็นจังหวะ ขับเน้นให้ลานเรือนดูเงียบสงบมากยิ่งขึ้น

สาวใช้สองคนที่เกล้ามวยสองข้างบนศีรษะประคองโถน้ำแกงซอยเท้าเดินไปบนระเบียงที่มีหลังคา สาวใช้สองนางนี้แตกต่างจากพวกบ่าวรับใช้หญิงที่กวาดพื้น พวกนางเป็นสาวใช้ข้างกายเจ้านาย ปกติไม่ต้องทำงานหนัก ได้สวมอาภรณ์สีสันสดใส เกล้าผมทรงสูง หากเป็นที่ถูกใจของเจ้านายยังได้สวมเครื่องประดับ ชีวิตความเป็นอยู่ดียิ่งกว่าคุณหนูตระกูลทั่วไป

ด้วยเหตุนี้เองสาวใช้เหล่านี้เดินไปที่ใดล้วนเชิดหน้า วางท่าลำพองยิ่งนัก สาวใช้ที่สวมเสื้อตัวสั้นกับกระโปรงสีแดงกดเสียงเบากระซิบกับสหายสาวใช้ “เจ้ารู้หรือไม่ การแต่งงานระหว่างท่านโหวกับคุณหนูสามจวนหย่งผิงโหวถูกกำหนดแน่นอนแล้ว รอให้พ้นช่วงไว้ทุกข์ท่านโหวผู้เฒ่า ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็สามารถจัดการเรื่องนี้อย่างเป็นทางการได้”

สาวใช้ด้านข้างที่สวมเสื้อกั๊ก* สีเขียวทะเลสาบแค่นเสียงตอบ “นี่ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมอยู่แล้วมิใช่หรือ ท่านโหวเพิ่งจะอายุยี่สิบก็ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ เพียบพร้อมทั้งด้านบุ๋นและด้านบู๊ รูปโฉมสง่าผ่าเผย ทั้งยังเป็นที่ชื่นชมของอู่ติ้งโหว ฮูหยินท่านโหวก็ย่อมต้องเป็นบุตรีตระกูลใหญ่อยู่แล้ว คุณหนูสามจวนหย่งผิงโหวเป็นหลานสาวของอู่ติ้งโหว อีกทั้งท่านโหวเรายังทำงานกับอู่ติ้งโหว สกุลฟู่กับสกุลหงเกี่ยวดองกัน เรียกว่าจะสนิทแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เป็นเรื่องน่ายินดีปรีดาของทุกฝ่าย”

สาวใช้คนแรกฟังแล้วบุ้ยปากไปทางเรือนทิศตะวันตกเฉียงเหนือไม่หยุด “หากท่านโหวกับคุณหนูสามจวนหย่งผิงโหวหมั้นหมายกัน…แล้วท่านนั้นเล่า”

สาวใช้ที่สวมเสื้อกั๊กสีเขียวทะเลสาบปรายตามองไปข้างหน้า ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “เมื่อปรากฏชาติกำเนิดที่แท้จริงต่างฝ่ายย่อมคืนสู่ฐานะเดิม นางเป็นเพียงบุตรีครอบครัวทหารธรรมดานายหนึ่ง แถมที่บ้านยังไร้ทายาทสืบสกุล ท่านโหวผู้เฒ่ารับนางเข้ามาอยู่ในจวนเพราะต้องการตอบแทนบุญคุณที่บิดานางเคยรับลูกธนูแทนท่านโหวผู้เฒ่าในสมรภูมิ นางได้อยู่ในจวนโหวอย่างสูงศักดิ์มาสิบปีก็ควรจะพอใจได้แล้ว ท่านโหวผู้เฒ่าก็ช่างเลอะเลือนโดยแท้ ถึงขั้นจะยกนางให้แต่งกับท่านโหว ท่านโหวผู้เฒ่าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง นางยังคิดว่าตนเองเป็นฮูหยินท่านโหวจริงๆ อย่างนั้นหรือ”

สาวใช้กระโปรงแดงฟังแล้วรู้สึกสะท้อนใจอยู่บ้าง “นางอาศัยอยู่ในจวนโหวมาสิบปี ตั้งแต่เจ็ดขวบจนอายุสิบเจ็ด คอยอยู่ข้างกายท่านโหวมาโดยตลอด ชีวิตของสตรีนางหนึ่งจะมีเวลาสิบปีสักกี่ครั้งกันเชียว นางอายุมากเพียงนี้แล้ว การแต่งงานในวันข้างหน้าจะว่าอย่างไร”

สาวใช้ที่สวมเสื้อกั๊กสีเขียวทะเลสาบไม่รู้เหตุใดฟังแล้วจึงไม่ชอบใจอยู่บ้าง ทำปากยื่นตอบว่า “ท่านโหวยังจะทนเห็นนางแต่งให้กับบุรุษอื่นได้หรือ เจ้าไม่ต้องไปสงสารนางหรอก นางยังวาสนาดีกว่าพวกเราเสียอีก ไม่แน่วันหน้าพวกเรายังต้องเรียกนางว่า ‘นายหญิง’ ด้วยซ้ำไป”

“ชู่ว์!” สาวใช้กระโปรงแดงรีบเตือนสหายสาวใช้ ส่งสัญญาณบอกอีกฝ่ายว่าเงียบได้แล้ว

สาวใช้ที่สวมเสื้อผ้าต่วนบุซับในสีน้ำเงินคนหนึ่งเลิกม่านเดินออกมาจากห้องกลาง ปะทะกับพวกนางซึ่งหน้าพอดี สาวใช้เสื้อน้ำเงินเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ “อากาศหนาวเหน็บ ไฉนน้องหญิงทั้งสองจึงมาแต่เช้าตรู่เช่นนี้เล่า”

สาวใช้กระโปรงแดงแอบหยิกสหายสาวใช้ข้างกาย เพียงพริบตาใบหน้าก็เกลื่อนด้วยรอยยิ้ม “คารวะพี่เฝ่ยชุ่ย เมื่อคืนหิมะตก ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นห่วงว่าแม่นางจะถูกไอเย็น จึงตั้งใจสั่งห้องครัวต้มน้ำนมแพะโดยเฉพาะ ให้พวกเรานำมาให้แม่นางหวังเจ้าค่ะ”

เฝ่ยชุ่ยปรายตามองใบหน้าแย้มยิ้มของสาวใช้กระโปรงแดง คล้ายไม่ได้ยินคำพูดก่อนหน้านี้ของพวกนาง เบี่ยงตัวหลบพลางตอบ “รบกวนพวกเจ้าแล้ว เชิญข้างในเถอะ”

สาวใช้กระโปรงแดงปั้นยิ้มไม่หยุด ส่วนสาวใช้เสื้อกั๊กสีเขียวทะเลสาบรู้ว่าตนก่อเรื่องเข้าแล้วจึงก้มหน้าเดินเข้าไปคำนับคนข้างในอย่างสงบเสงี่ยม ต่อให้นางเหิมเกริมเพียงใดก็รู้จักประมาณตน ไม่ว่าชาติกำเนิดของท่านผู้นี้จะเป็นอย่างไร แต่ก็ล้วนเป็นผู้มีพระคุณของสกุลฟู่ ทั้งยังเติบโตมาด้วยกันกับท่านโหว เฉพาะแค่ไมตรีเหมยเขียวม้าไม้ไผ่นี้ แม้แต่ฮูหยินท่านโหวในอนาคตเกรงว่าก็คงเทียบไม่ติด คุณหนูสามจวนหย่งผิงโหวตอนนี้ดูเฉิดฉายก็จริง แต่รอไว้เข้าจวนเมื่อใด ยังไม่แน่ว่าจะเอาชนะท่านผู้นี้ได้

แม้มิได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกคนในจวนเจิ้นหย่วนโหวสกุลฟู่ต่างยอมรับโดยปริยายว่าวันข้างหน้าหวังเหยียนชิงยังคงจะอยู่ในสกุลฟู่ต่อไป ท่านโหวเป็นโหวขั้นกว่าภรรยาเอกย่อมต้องแต่งคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ที่มีฐานะเหมาะสมคู่ควร ทว่าเป็นเรื่องจริงที่หวังเหยียนชิงอยู่เคียงข้างเขามานาน จะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อเป็นอนุที่สูงส่งก็ไม่ผิดอะไร

พวกนางสองคนเข้าประตูมาแล้วไม่กล้าเงยหน้า มองเห็นรางๆ ว่าหลังชั้นวางของมีเงาสายหนึ่งกำลังหันข้าง จึงยอบกายลงคำนับหวังเหยียนชิงทันที “บ่าวคารวะแม่นาง ขอให้แม่นางสุขสมบูรณ์”

ผ่านไปครู่หนึ่งน้ำเสียงราบเรียบก็ดังขึ้น “ลุกขึ้นเถอะ”

เสียงของนางมีเอกลักษณ์มาก มิใช่เสียงใสกังวานดุจระฆังเงินแบบที่ผู้อาวุโสชื่นชอบเป็นที่สุด ทั้งมิใช่เสียงอ่อนเสียงหวานที่บุรุษชมชอบ แต่เป็นเหมือนหิมะข้างนอก ใสกระจ่างวังเวง ไม่แก่งแย่งชิงดีกับผู้ใด ขอเพียงได้ยินครั้งเดียวก็ไม่มีวันลืมแน่นอน

หน้าที่แล้ว1 of 8

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com