หวังเหยียนชิงอาศัยชายคาผู้อื่นอยู่มาสิบปี หลักการวางตัวแค่นี้มีหรือจะไม่รู้ นางหลุบตาส่ายหน้าเบาๆ “มีที่ใดกัน ไท่ฮูหยิน* กับฮูหยินผู้เฒ่าต่างดีต่อข้าอย่างยิ่ง น้องสาวสกุลฟู่ทั้งหลายมีสิ่งใด ทางนี้ของข้าก็มีไม่ต่าง ข้ามักกังวลว่าตนเองจะทำได้ไม่ดีพอ กลัวว่ามิอาจตอบแทนผู้อาวุโสทั้งสองท่านได้ด้วยซ้ำ แล้วจะเชื่อถือวาจาเหลวไหลของผู้อื่นได้อย่างไร”
หวังเหยียนชิงไม่ปฏิเสธข่าวลือภายในจวน อย่างไรเสียฟู่ถิงโจวก็รู้ดีว่ามารดาและท่านย่าของเขาเป็นอย่างไร หวังเหยียนชิงจึงเลือกเป็นฝ่ายแสดงจุดยืนของตนเองออกมา วางตัวอย่างเหมาะสมและรู้ความเช่นนี้ ถูกใจฟู่ถิงโจวเป็นอย่างมาก
ทุกครอบครัวต่างก็มีปัญหา สกุลฟู่เองก็ไม่เว้น ‘ไท่ฮูหยิน’ และ ‘ฮูหยินผู้เฒ่า’ ที่หวังเหยียนชิงเรียกขานก็คือท่านย่าและมารดาของฟู่ถิงโจว บัดนี้ฟู่ถิงโจวเป็นเจิ้นหย่วนโหวแล้ว ฮูหยินของเขาจึงจะเรียกขานว่า ‘ฮูหยินเจิ้นหย่วนโหว’ ได้ ตามธรรมเนียมมารดาของท่านโหวจะถูกเรียกว่า ‘ฮูหยินผู้เฒ่า’ นี่จึงทำให้เฉินซื่อภรรยาของฟู่ชางไม่ได้เป็นฮูหยินท่านโหวแม้แต่วันเดียวก็ต้องกลายเป็นฮูหยินผู้เฒ่าเสียแล้ว
เหตุที่ลำดับรุ่นของสกุลฟู่ค่อนข้างสูงยังต้องย้อนกล่าวไปถึงสมัยของฟู่เยวี่ย ฟู่เยวี่ยทำศึกเหนือใต้ไม่ค่อยได้อยู่ติดจวนจึงมีบุตรชายฟู่ชางเพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งยังถูกเลี้ยงดูจนกลายเป็นหนุ่มกางเกงแพรฟู่ชางมีบุตรธิดามากมาย โดยฟู่ถิงโจวเป็นบุตรชายสายตรงลำดับที่สอง ก่อนหน้าเขายังมีพี่ใหญ่อีกคน แต่เด็กคนนั้นอายุสั้น เพิ่งจะห้าขวบก็ป่วยตาย ดังนั้นในทางปฏิบัติฟู่ถิงโจวจึงกลายเป็นหลานชายคนโตของสกุลฟู่
ก่อนตายฟู่เยวี่ยยินดีข้ามบุตรชายของตนและมอบตำแหน่งให้กับหลานชายที่อายุเพียงยี่สิบ ไม่ยอมให้ฟู่ชางสืบทอดตำแหน่งโหว เรื่องนี้เห็นได้ว่าไม่ชอบหน้าฟู่ชางมากเพียงใด เหตุผลเบื้องหน้าของฟู่เยวี่ยคือฟู่ชางมีโรค ขากะเผลก ทำให้มิอาจสืบทอดบรรดาศักดิ์ได้ ซึ่งเป็นความจริงที่ขาของฟู่ชางมีโรคอยู่เล็กน้อย แต่ยามปกติดูไม่ออก มิหนำซ้ำบาดแผลนี้ยังเกิดจากฟู่เยวี่ยตีบุตรชายเอง
ตามหลักทั่วไปบิดาตายบุตรสืบทอด การสืบทอดตำแหน่งของจวนเจิ้นหย่วนโหวเช่นนี้จึงไม่สอดคล้องกับกฎของอาณาจักรต้าหมิง แต่ฟู่เยวี่ยเป็นแม่ทัพนามกระเดื่องในสมัยฮ่องเต้เจิ้งเต๋อ นำทัพมาสี่สิบปี มีคนรู้จักกระจายอยู่ทั่วกองทัพ ความสัมพันธ์กับกัวซวินซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มชนชั้นสูงก็ไม่เลว แจ้งทางกรมพิธีการสักคำ การสืบทอดบรรดาศักดิ์ก็จัดการเรียบร้อย
ฟู่เยวี่ยใกล้ชิดกับทายาทรุ่นหลาน ไม่ว่าเรื่องใดล้วนข้ามภรรยาของตน บุตรชาย และสะใภ้ ยกให้หลานชายโดยตรง ในเวลาไม่นานคนสกุลฟู่จึงสั่งสมความคับแค้นใจไว้ไม่น้อย ฟู่ถิงโจวเป็นสายเลือดโดยตรง ไท่ฮูหยินและเฉินซื่อไม่มีทางทำอะไรเขาอยู่แล้ว ทว่าหวังเหยียนชิงที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับสกุลฟู่สักนิด แต่กลับได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากฟู่เยวี่ยเป็นอย่างยิ่งย่อมตกเป็นเป้าโจมตี
หลายปีมานี้หวังเหยียนชิงถูกเฉินซื่อเหน็บแนมไม่น้อย เพียงแต่เมื่อก่อนฟู่เยวี่ยยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องนาง ทว่าพอฟู่เยวี่ยจากไป ความคับแค้นเหล่านี้ก็สะกดกลั้นไว้ไม่อยู่
ความขุ่นแค้นของเฉินซื่อเข้าใจได้ไม่ยาก นายท่านผู้เฒ่าจะเผด็จการจัดการเรื่องต่างๆ ของตนเองอย่างไรก็แล้วไปเถอะ แต่การแต่งงานของบุตรชายนางเขามีสิทธิ์อะไรตัดสินใจโดยไม่ถามไถ่นางที่เป็นมารดาสักคำ หวังเหยียนชิงเป็นเพียงบุตรสาวชาวบ้านทั่วไปที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า อีกฝ่ายมีคุณสมบัติอะไรแต่งให้บุตรชายนาง ด้วยเหตุนี้เองพอฟู่เยวี่ยตาย เฉินซื่อจึงรีบหาสะใภ้ใหม่อย่างรวดเร็ว เหยียบหน้าของหวังเหยียนชิงให้จมดิน
หวังเหยียนชิงใช่จะไม่รู้ว่าเฉินซื่อพานโกรธนาง สิบปีมานี้นางพยายามเอาใจไท่ฮูหยินและเฉินซื่อหลายครั้ง ทว่าไม่มีประโยชน์โดยสิ้นเชิง สุดท้ายจึงได้แต่ถอดใจ หวังเหยียนชิงแม้จะจนปัญญา แต่นางไม่ร้อนใจ เพราะนางรู้ว่าในจวนเจิ้นหย่วนโหวแห่งนี้ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจในอดีตคือท่านโหวผู้เฒ่า บัดนี้คือฟู่ถิงโจว ฟู่ชางสามีภรรยามิอาจก้าวก่ายอันใดได้
ดังนั้นนางจึงไม่เดือดเนื้อร้อนใจ จนกระทั่งฟู่ถิงโจวผิดคำพูด ทำเอานางตั้งตัวไม่ติด
เดิมคิดมาโดยตลอดว่านางกับฟู่ถิงโจวจิตใจตรงกัน ความรู้สึกชัดเจนโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมา
ฟู่ถิงโจวเห็นหวังเหยียนชิงหลบตาตลอดตั้งแต่เขาเข้ามา ในใจรู้ว่าชิงชิงโมโหแล้ว ฟู่ถิงโจวอายุมากกว่าหวังเหยียนชิงสามปี ทั้งยังเข้าออกค่ายทหารตั้งแต่เล็ก ฟังเรื่องลามกหยาบโลนมาจนชิน รู้มานานแล้วว่าเรื่องราวระหว่างบุรุษกับสตรีเป็นอย่างไร
ตอนที่เขาสิบขวบและเริ่มมีความรู้สึกระหว่างชายหญิง หวังเหยียนชิงก็มาอยู่ข้างกายเขา ตอนเด็กๆ พวกเขาสองคนนอนกลางวันในห้องเดียวกัน หวังเหยียนชิงยิ่งเติบโตยิ่งงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้เปลือกตาเขา จากเด็กหญิงคนหนึ่งกลายเป็นสาวงามเพริศพริ้ง หากบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับนางเลย เช่นนั้นตัวเขาคงจะมีปัญหาอะไรแน่ๆ
กระนั้นคนไร้สมองคนหนึ่งสามารถแต่งสตรีที่ตนชอบเป็นภรรยาได้ แต่ท่านโหวคนหนึ่ง นอกจากความรู้สึกแล้วยังมีสิ่งที่ต้องคิดคำนึงอีกมากมาย