บัดนี้ราชสำนักวุ่นวายเพราะการหารือจารีตใหญ่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับหยางถิงถูกกำจัดอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในราชสำนักต่างหวาดระแวง อู่ติ้งโหวกัวซวินเนื่องจากสนับสนุนฮ่องเต้หลายครั้ง ตำแหน่งจึงสูงขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางการเป็นขุนนางราบรื่น ซ้ำยังกลายเป็นผู้นำของเหล่าแม่ทัพขุนพลในการต่อต้านสภาขุนนางไปแล้ว
ขุนนางฝ่ายพลเรือนกับแม่ทัพขุนพลเป็นศัตรูกันโดยกำเนิด ฟู่ถิงโจวไม่จำเป็นต้องเอาใจทั้งสองฝ่าย ยามอยู่ในราชสำนัก การไม่เลือกฝ่ายหรือประจบทั้งสองทางมีแต่จะทำให้ตายเร็วกว่าเดิม
เขาต้องการกัวซวิน…กัวซวินก็ต้องการเขา นี่เป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และการแสดงออกที่ชัดเจนก็คือการแต่งงานระหว่างเขากับจวนหย่งผิงโหว
ฮูหยินหย่งผิงโหวเป็นน้องสาวของกัวซวิน หากเขาแต่งบุตรีของหย่งผิงโหวก็คือการเข้าเป็นฝ่ายเดียวกับกัวซวินอย่างเป็นทางการ ส่วนเรื่องที่ว่าแต่งบุตรีคนใดของหย่งผิงโหว คุณหนูสกุลหงผู้นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร…ไม่สำคัญแม้แต่น้อย
ขอเพียงเป็นคนที่มีชีวิต ถูกเกี้ยวหามมายังจวนเจิ้นหย่วนโหวก็เพียงพอแล้ว
ฟู่ถิงโจวยอมรับว่าการทำเช่นนี้ไร้คุณธรรมอย่างมาก แต่โลกของผู้ใหญ่ก็คือความจริงอันอัปลักษณ์เช่นนี้เอง ฟู่ถิงโจวลูบหนังด้านบางๆ ตรงท้องนิ้วของหวังเหยียนชิงอย่างแผ่วเบาพลางพูด “หลายวันก่อนพรรคพวกฝ่ายหยางกลุ่มหนึ่งถูกองครักษ์เสื้อแพรลากตัวออกมาอีกแล้ว ฝ่าบาทดีพระทัยยิ่งนัก โปรดให้ลู่เหิงรั้งตำแหน่งผู้บัญชาการชั่วคราว ดูแลงานของกองเจิ้นฝู่ใต้* ลู่เหิงผู้นั้น…เหมือนสุนัขบ้าตัวหนึ่ง ไม่มีใครในราชสำนักที่เขาไม่กล้ากัด จะมีก็แต่อู่ติ้งโหวที่พอจะคานอำนาจกับเขาได้บ้าง บางครั้งเพื่อปกป้องจวนโหว เรื่องบางอย่างข้าก็จำเป็นต้องทำ ชิงชิง เจ้าเข้าใจหรือไม่”
หวังเหยียนชิงหัวใจหนาวเยือก นางรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้มิอาจเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว นางถูกทอดทิ้งโดยสิ้นเชิง
หญิงสาวนิ้วมือเย็นเฉียบ ผ่านไปครู่หนึ่งนางจึงตอบเสียงค่อย “ข้าเข้าใจ”
ใบหน้าของฟู่ถิงโจวปรากฏรอยยิ้ม เขารู้อยู่แล้ว สายสนกลในของเรื่องนี้ท่านย่ามารดาไม่เข้าใจ สาวใช้ในเรือนไม่เข้าใจ กระทั่งตัวคุณหนูสามสกุลหงเองก็ไม่เข้าใจ แต่หวังเหยียนชิงจะต้องเข้าใจแน่นอน
ส่วนเรื่องที่นางจะยินยอมหรือไม่ ฟู่ถิงโจวไม่อยากขบคิดให้ลึกซึ้ง
พูดมาถึงขั้นนี้ไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงฐานะของหวังเหยียนชิงอีกแล้ว ฟู่ถิงโจวรู้ว่าตนเองผิดต่อนางจริง แต่เขาไม่กลัว จิตใต้สำนึกเขามั่นใจ ไม่ว่าเขาจะทำสิ่งใดนางก็อภัยให้เขาเสมอ และจะรอเขาอยู่ที่เดิมตลอดไป
หาไม่แล้วนางยังจะไปที่ใดได้อีกเล่า ในนครหลวงแห่งนี้นางรู้จักแค่เขา แต่คนภายนอกที่รู้จักนางกลับมีไม่น้อยเลย อย่างไรเสียนางก็มีรูปโฉมงดงามอย่างแท้จริง ออกจะดึงดูดผู้คนมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
หลายปีมานี้มีคนสืบเรื่องของหวังเหยียนชิงไม่หยุด แต่ล้วนถูกฟู่ถิงโจวสกัดขัดขวาง ถึงขั้นมีคนหน้าหนาอาศัยเรื่องที่ชิงชิงเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขาบอกว่าอยากเป็นน้องเขยเขา ตอนนั้นฟู่ถิงโจวฉุนจนหัวเราะออกมา ช่างไม่รู้จักประมาณตน เพ้อฝันเหลวไหล ชิงชิงหมั้นหมายหรือยังเกี่ยวอันใดกับพวกเขาด้วย
จะอย่างไรฟู่เยวี่ยก็รู้ใจหลานชายของตนเองดี ตั้งแต่อายุสิบขวบฟู่ถิงโจวก็เห็นหวังเหยียนชิงเป็นสมบัติของตนเองแล้ว นี่คือของขวัญวันเกิดที่ท่านปู่มอบให้เขา นางปรากฏตัวในอาณาเขตของเขาในวันที่เขาอารมณ์ไม่ดีมากที่สุด เช่นนั้นนางก็ต้องเป็นคนของเขาตลอดไป คนอื่นๆ ที่คิดจะยุ่งเกี่ยวนั้น…ฝันไปเถอะ
ฟู่ถิงโจวรู้สึกได้ว่าปลายนิ้วขาวเนียนดุจต้นหอมในฝ่ามือเขาเย็นเฉียบปานหิมะ ในใจรู้สึกรักถนอมนางอย่างมากถึงกับยอมผิดต่อหลักการของตนอย่างหาได้ยากและปลอบโยนนาง “ชิงชิง เจ้าวางใจ ไม่ว่าในจวนจะมีคนเพิ่มมาหนึ่งคนหรือลดไปหนึ่งคนล้วนไม่ส่งผลใดๆ ต่อฐานะของเจ้า เจ้าทำใจให้สบายเถอะ”
สำหรับทายาทตระกูลสูงศักดิ์อย่างฟู่ถิงโจวแล้ว ภรรยาคือภรรยา คนรักคือคนรัก เป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง หลังจากแต่งคุณหนูสามสกุลหงผู้นั้นเข้าจวนมาแล้ว เขาจะมอบฐานะฮูหยินท่านโหวอันทรงเกียรติให้กับนาง พบเจอปัญหาจะออกหน้าแทนนาง แต่หวังเหยียนชิงกลับไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของฮูหยินท่านโหว
เขาหวังว่าคุณหนูสามผู้นั้นคงไม่โง่งมถึงขั้นแตะต้องหวังเหยียนชิง เขาแค่ต้องการธงทางการเมืองผืนหนึ่ง หาได้อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหวังเหยียนชิง
ครั้งนี้หวังเหยียนชิงมิได้ตอบอะไรอีก ฟู่ถิงโจวก็ไม่ร้อนใจ ชิงชิงเป็นคนฉลาด นางจะต้องขบคิดจนเข้าใจแน่ เนื่องจากเมื่อครู่เอ่ยถึงคนผู้หนึ่งทำให้ฟู่ถิงโจวจำต้องคิดถึงเรื่องกวนใจบางอย่าง สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาขณะพูด “หมู่นี้เจ้าระวังตัวให้มากหน่อย ไม่มีธุระใดอย่าออกจากจวนดีกว่า”
หวังเหยียนชิงรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของชายหนุ่มเปลี่ยนไปจึงเอ่ยถาม “มีอะไรหรือ”
ฟู่ถิงโจวแค่นหัวเราะ นัยน์ตาหม่นขรึม “ไม่มีอะไร แค่ไปข้องเกี่ยวกับสุนัขบ้าตัวหนึ่งเท่านั้น”
สามารถกระตุ้นอารมณ์ของฟู่ถิงโจวได้มากเช่นนี้ หวังเหยียนชิงคาดเดาได้อย่างรวดเร็ว นางถามเขา “องครักษ์เสื้อแพรหรือ”
ชายหนุ่มถอนหายใจพลางยอมรับ “เป็นลู่เหิงจากกองกำลังทักษิณพิทักษ์นคราพอดีเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย ช่วงนี้เขาอาจจะมาหาเรื่องสกุลฟู่”