ฟู่ถิงโจวเป็นเจ้านายเพียงคนเดียวในขบวนที่เป็นบุรุษ ทั้งยังเป็นว่าที่บุตรเขยของจวนหย่งผิงโหว เขาออกหน้าย่อมชอบด้วยเหตุผล ตอนนี้เวลาไม่เอื้ออำนวย ฟู่ถิงโจวสะกดคำพูดในใจไว้ บอกนางผ่านม่าน “เส้นทางช่วงนี้อันตราย เจ้ารออยู่ในรถม้าอย่าไปที่ใด ข้าจะไปดูข้างหน้าหน่อย”
ฟู่ถิงโจวรอแล้วรอเล่าก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากข้างใน ม่านรถไม่ขยับสักนิด ผู้ติดตามเร่งเขาอยู่ข้างหน้าแล้ว ชายหนุ่มจึงได้แต่ทิ้งนางไว้ชั่วคราว ลงจากม้าแล้วจากไป
ที่นี่เป็นทางแคบสายหนึ่ง ด้านข้างเป็นหน้าผา เวลาเดินทางต้องระมัดระวังอย่างยิ่งยวด ฟู่ถิงโจวรุดไปถึงด้านหน้าพบว่าเพลารถของหงหว่านฉิงชำรุด ความสงสัยวาบขึ้นในใจเขาโดยเร็ว รถม้าของเหล่าสตรีที่ออกจากจวน จวนหย่งผิงโหวไม่มีทางไม่ตรวจสอบ ขามายังปกติดี ไฉนยามอยู่บนเส้นทางช่วงที่อันตรายที่สุดเพลารถจึงชำรุดอย่างเหมาะเจาะพอดีเช่นนี้
ชายหนุ่มตระหนักถึงความผิดปกติได้ในทันใด เวลาเดียวกันนี้เองก็มีเสียงแหวกอากาศลอยมาจากข้างหลัง ลูกธนูที่มาพร้อมประกายเยียบเย็นพร้อมใจกันพุ่งมาหาฟู่ถิงโจว การถูกตีในวัยเยาว์ของฟู่ถิงโจวไม่นับว่าเสียเปล่า เขาตอบสนองเร็วยิ่ง เบี่ยงตัวหลบทันที ลูกธนูยิงไม่ถูกตัวฟู่ถิงโจว แต่กลับทำให้ม้าด้านข้างตกใจ ม้าแผดเสียงร้องยกกีบเท้าพุ่งทะยานออกไปอย่างไร้ทิศทาง ทว่าล้อข้างหนึ่งของรถม้ายังคงชำรุด หงหว่านฉิงที่อยู่ในรถไม่ทันตั้งตัว ศีรษะด้านหลังของนางกระแทกผนังรถอย่างแรงจนคนล้มหงาย กระเด็นออกจากตัวรถอย่างอเนจอนาถ
ครั้นเห็นหงหว่านฉิงกำลังจะตกจากหน้าผา ฟู่ถิงโจวสีหน้าเคร่งขรึม ปราดเข้าไปทันใด รับตัวหงหว่านฉิงไว้ได้ทันการณ์ ลูกธนูเบื้องหลังคล้ายมีดวงตากระนั้น ฉวยโอกาสนี้จู่โจมแผ่นหลังของเขา หงหว่านฉิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก คว้าเสื้อเขาไว้ไม่ยอมปล่อย การเคลื่อนไหวของฟู่ถิงโจวถูกจำกัด จังหวะที่ลูกธนูแหลมคมกำลังจะปักร่าง แรงผลักขุมหนึ่งพลันถูกส่งมาจากข้างกายอย่างฉับพลัน
ฟู่ถิงโจวถูกผลักจนเซไปสองก้าว หลบพ้นการจู่โจมไปได้อย่างฉิวเฉียด แขนเพียงถูกลูกธนูถากเป็นแผลเท่านั้น เขาหันกลับไปมอง ครั้นเห็นเงาร่างของคนข้างหลังชัดเจนแล้ว ใบหน้าพลันถอดสี
“ชิงชิง ระวัง…”
หวังเหยียนชิงผลักฟู่ถิงโจวออก แต่กลับทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย เพื่อหลบลูกธนูนางจำต้องถอยไปข้างหลัง เท้าพลันลื่นไถล แผ่นหลังลอยอยู่กลางอากาศ
ก่อนที่หวังเหยียนชิงจะพลัดตกลงไป นางเห็นฟู่ถิงโจวผลักหงหว่านฉิงไปข้างหลังและโผเข้ามาหานาง ชายหนุ่มยื่นแขนออกมาสุดกำลัง แต่ปลายนิ้วของเขาเฉียดผ่านมือของนางไป เขาออกแรงกำนิ้วมือแน่น ทว่ากลับคว้าไว้ได้เพียงอากาศ
หวังเหยียนชิงตกจากหน้าผาไปต่อหน้าต่อตาเขา
ตอนหวังเหยียนชิงผลักฟู่ถิงโจวออกไปนางไม่ได้คิดอะไรมาก ความจริงด้วยความสามารถของเขา หากมิใช่เพราะหงหว่านฉิง เขาก็ไม่มีทางจนมุมเพราะลูกธนู เขาสามารถเอาชีวิตตนเองไปปกป้องสตรีอีกคน แต่หวังเหยียนชิงกลับไม่อาจเห็นเขาตายไปต่อหน้าต่อตาได้ นางสละชีวิตช่วยฟู่ถิงโจวทำให้ตนเองพลัดตกจากหน้าผา
ตอนที่ตกลงไปนางกระแทกต้นไม้แห้งหลายต้น แม้จะช่วยลดแรงปะทะให้นางได้ แต่ศีรษะด้านหลังก็ชนกับหินผาโดยบังเอิญ หัวสมองของนางเกิดเสียงดังอื้ออึง เบื้องหน้าเห็นแต่สีขาวโพลนเป็นระลอก ไม่นานแผ่นหลังของนางก็สัมผัสกับบางสิ่งที่คล้ายตาข่าย นางถูกตาข่ายผืนหนึ่งรวบตัวไว้ นับว่าตกถึงพื้นอย่างมั่นคง
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ยามสัมผัสพื้นดินนางยังคงเจ็บระบมไปทั้งตัว อวัยวะภายในเหมือนจะโยกย้ายเปลี่ยนที่ นางนอนอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง กระทั่งจะขยับนิ้วมือยังไม่มีแรง
รอบด้านเหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้า สติรับรู้ของนางพร่าเลือนลงทุกที ก่อนหลับตาลงนางมองเห็นชายอาภรณ์อี้ส่าน สีแดงสด สีแดงบนนั้นฉูดฉาด ปักเป็นลายเฟยอวี๋ สี่เล็บที่ดูอหังการ
รองเท้าหุ้มแข้งสีดำพื้นขาวสะอาดคู่หนึ่งหยุดอยู่ข้างกายนาง
หวังเหยียนชิงไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะลืมตาได้อีก ลำคอนางเอนไปด้านข้าง หมดสติไปโดยสมบูรณ์