หมอจากไปแล้ว ลู่เหิงก็บีบนิ้วมือ พลันรู้สึกว่าเรื่องราวชักน่าสนใจขึ้นมาเสียแล้ว น้องสาวของฟู่ถิงโจวตกอยู่ในกำมือเขา ประจวบเหมาะกับนางที่สูญเสียความทรงจำในเวลานี้ ลู่เหิงเป็นคนไม่เชื่อพระไม่เชื่อเจ้า แต่เวลานี้กลับรู้สึกว่าสวรรค์กำลังช่วยเขา
ลู่เหิงขบคิดวางแผนในหัว เปิดฝาถ้วยและดื่มชา เขาจิบไปได้สองอึก สาวใช้หลิงซีก็รีบร้อนวิ่งออกมาจากห้องกลาง แล้วคำนับลู่เหิง “ผู้บัญชาการ”
ลู่เหิงวางถ้วยชาพลางถาม “ถามได้ความหรือยัง นางยังจดจำอะไรได้บ้าง”
“แม่นางหวังถามอะไรก็ตอบไม่ได้สักอย่าง กระทั่งชื่อแซ่ของตนเองยังไม่รู้ แต่กลับจำได้ว่าตนเองมีพี่รองคนหนึ่งที่สนิทสนมกับนางมากเจ้าค่ะ”
ลู่เหิงจุปากเบาๆ ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเช่นนี้ แม้แต่เขาฟังแล้วยังประทับใจ น่าเสียดายฟู่ถิงโจวผู้นั้นกำลังจะแต่งภรรยาเอก ความรักลึกซึ้งของหวังเหยียนชิงคงต้องเอาไปป้อนสุนัขกินเสียแล้ว
ลู่เหิงพูด “กลับไปหยั่งเชิงอีกครั้ง ในเมื่อนางจำได้ว่าตนเองมีพี่รองคนหนึ่ง เช่นนั้นก็ต้องจดจำเรื่องราวระหว่างกันได้บ้าง”
หลิงซีลังเล สีหน้าแปลกประหลาดอยู่บ้าง ลู่เหิงรู้สึกได้จึงถามอย่างเรียบเฉย “เป็นอะไร”
หลิงซีทำท่าจะพูดแต่เงียบไป สุดท้ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงยากจะอธิบาย “ผู้บัญชาการ แม่นางหวังท่านนี้…ไม่ค่อยปกตินัก นางอ่านสีหน้าของพวกเราได้ บ่าวคิดว่าตนเองปกปิดได้ดีมากแล้ว แต่นางมองปราดเดียวก็รู้ว่าบ่าวกำลังโกหก”
หลิงซีมิใช่สาวใช้ธรรมดาทั่วไป นางเคยได้รับการฝึกฝนในหน่วยองครักษ์เสื้อแพร นับเป็นสายสืบหญิงครึ่งตัว สุดท้ายยังไม่ทันได้ประมือก็ถูกหวังเหยียนชิงโพล่งออกมาต่อหน้าว่า ‘เจ้ากำลังโกหก’ ทำเอาหลิงซีและหลิงหลวนตกใจอย่างยิ่ง
หลิงซีและหลิงหลวนรู้ว่าเรื่องนี้ยุ่งยากเสียแล้ว หลิงหลวนอยู่ในห้องปลอบประโลมหวังเหยียนชิงต่อ ส่วนหลิงซีรีบออกมารายงานผู้บัญชาการ ลู่เหิงรู้ความสามารถของหลิงซีและหลิงหลวนดี ต่อให้พวกนางสองคนไม่เอาไหนเพียงใดก็ไม่ถึงขั้นที่จะถูกคนธรรมดาทั่วไปอ่านสีหน้าท่าทางออก แม้แต่พวกนางสองคนยังพูดเช่นนี้ เห็นทีน้องสาวบุญธรรมของฟู่ถิงโจวผู้นี้จะร้ายกาจอยู่บ้างจริงๆ
ลู่เหิงบังเกิดความสนใจนึกอยากจะพบปะคนผู้นี้ด้วยตนเองอย่างหาได้ยาก เขาปัดแขนเสื้อ ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก ตอนออกจากประตูเขาชะงักครู่หนึ่ง แล้วหันกลับมาถาม “นางบอกว่านางจำได้เพียงตนเองมีพี่รองคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ”
สีหน้าของผู้บัญชาการดูเหมือนจะแฝงความนัยลึกล้ำอยู่บ้าง หลิงซีไม่เข้าใจจึงตอบอย่างระมัดระวัง “เจ้าค่ะ”
ลู่เหิงยืนอยู่หน้าประตู แสงแดดข้างนอกส่องลงบนชุดเฟยอวี๋เกิดเป็นประกายระยับวับวาวทิ่มแทงตา ชายหนุ่มยืนนิ่งครู่หนึ่ง กดหว่างคิ้วกะทันหัน ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
พี่รอง…
เบื้องบนของลู่เหิงมีพี่ใหญ่คนหนึ่ง ตอนนี้อยู่บ้านเกิดที่อันลู่ไว้ทุกข์ให้บิดา เขาอยู่ในบ้านก็เป็นทายาทลำดับที่สองเหมือนกัน
นี่มิใช่เรื่องบังเอิญหรือไร