ตามกฎของอาณาจักรต้าหมิง บิดาล่วงลับ ทรัพย์สินทั้งหมดและยศตำแหน่งล้วนให้บุตรชายคนโตเป็นผู้สืบทอด บุตรชายคนโตค่อยสืบทอดต่อให้หลานชายคนโต ทว่าต้าหมิงดำรงอยู่มาร้อยปีแล้ว กฎหมายที่กำหนดขึ้นเมื่อครั้งก่อตั้งบ้านเมือง ในทางปฏิบัติได้เปลี่ยนแปลงไปนานแล้ว ตัวอย่างล่าสุดคือเจิ้นหย่วนโหวฟู่เยวี่ยข้ามบุตรชาย ยกตำแหน่งโหวให้หลานชายแทน ผู้ช่วยผู้บัญชาการลู่ซงก็ข้ามบุตรชายคนโต ยกตำแหน่งขุนนางขององครักษ์เสื้อแพรที่สืบทอดทางสายโลหิตให้กับบุตรคนรองลู่เหิง
ฟู่ถิงโจวกับลู่เหิงนับเป็นกรณีที่ความสามารถส่วนบุคคลโดดเด่นจึงได้สืบทอดตำแหน่งเป็นกรณีพิเศษ แต่โลกนี้คนธรรมดามีมากยิ่งกว่า ในด้านสติปัญญาและความสามารถมิได้แตกต่างกันนัก เช่นครอบครัวของเหลียงเว่ย ตามธรรมเนียมควรให้บุตรชายคนโตสืบทอดตำแหน่งหัวหน้ากองพัน แต่หากจะใช้เรื่องความสามารถอันโดดเด่นเป็นเหตุผลให้บุตรชายคนรองสืบทอดตำแหน่งขุนนาง ในความเป็นจริงก็สามารถกระทำได้
ใบหน้าของหวังเหยียนชิงเผยแววเข้าใจ นางขุ่นเคืองเล็กน้อย “เช่นนี้ก็สมเหตุสมผล กระดูกของเหลียงเว่ยยังไม่ทันจะเย็น เหลียงเหวินซื่อกลับบีบให้บุตรสาวคนโตของภรรยาคนก่อนต้องตาย ไม่ห่วงแม้กระทั่งชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เกินครึ่งจะต้องมีจุดประสงค์แอบแฝงแน่นอน คดีนี้ต้องไม่ใช่คดีลักลอบพบบุรุษเป็นแน่”
พอหวังเหยียนชิงพูด ลู่เหิงก็นิ่งฟัง รอนางพูดจบเขาก็ทอดถอนใจ “ชิงชิงช่างฉลาดเฉียบแหลมโดยแท้ เก่งกว่าขุนนางข้างนอกพวกนั้นมาก”
หวังเหยียนชิงจับความไม่ชอบมาพากลในคำพูดนี้ได้ เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีทันใด “คงมิใช่ว่าคดีนี้ถูกตัดสินแล้วกระมัง”
“มิผิด” ลู่เหิงน้ำเสียงเหนื่อยล้าคล้ายถอนหายใจก็ไม่เชิง ยืนยันการคาดเดาของนาง “คดีได้ข้อสรุปแล้ว ผู้บัญชาการสูงสุดเฉินเห็นชอบกับผลลัพธ์นี้ น่ากลัวว่าอีกไม่นานคุณหนูเหลียงผู้นั้นคงถูกตัดสินประหารชีวิตโทษฐานลักลอบพบบุรุษ”
หวังเหยียนชิงถามเลียบเคียง “ผู้บัญชาการสูงสุดเฉินคือ…”
“ใต้เท้าเฉิน เฉินอิ๋น” ดวงตาของลู่เหิงจับจ้องหวังเหยียนชิง ประกายในนั้นลึกล้ำคล้ายมีกระแสธารไหลอยู่ข้างใต้ “ผู้บัญชาการสูงสุดตำแหน่งขุนนางลำดับหลักขั้นสอง ดูแลองครักษ์เสื้อแพร ทั้งยังเป็นผู้บังคับบัญชาของข้า”
หวังเหยียนชิงเงียบไปทันใด คดีที่ผู้บังคับบัญชาของลู่เหิงสรุปสำนวนแล้ว เช่นนี้…
แวดวงขุนนางเป็นเช่นนี้เอง โดยเฉพาะสกุลลู่ที่เป็นทหาร ทหารถือลำดับขั้นและความอาวุโสสำคัญเป็นที่สุด ขุนนางผู้ใหญ่เห็นว่านี่เป็นการลักลอบพบบุรุษสมควรตัดสินโทษตาย เบื้องล่างต่อให้พบข้อสงสัยก็ต้องปฏิบัติตาม
หวังเหยียนชิงหลุบตา ขบคิดครู่หนึ่ง ยังคงโมโหไม่หาย “แต่นั่นเป็นชีวิตของคนคนหนึ่งเชียวนะ สตรีที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่งถูกตัดสินโทษตายฐานลักลอบพบบุรุษ หากนางถูกปรักปรำจะทำอย่างไร”
ลู่เหิงถอนหายใจ มองหวังเหยียนชิงอย่างลึกซึ้ง นัยน์ตาสีอำพันคู่นั้นทอประกายระยิบระยับ ในนั้นมีความผิดหวัง มีแววทอดถอน มีการวิงวอน คล้ายสุราชั้นเลิศที่หมักบ่มมานานปีไหหนึ่ง แทบจะไหลล่วงเข้ามาในหัวใจของหวังเหยียนชิง “นี่ก็เป็นจุดที่ข้าทนไม่ได้ ต่อต้านผู้บังคับบัญชาเป็นความผิดร้ายแรง ชิงชิง เจ้ายินดีช่วยเหลือข้าหรือไม่”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 ก.ค. 66 เวลา 12.00 น.