ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน อัตตา บทที่ 1-บทที่ 2 – หน้า 9 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน อัตตา บทที่ 1-บทที่ 2

9 of 9หน้าถัดไป

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จคนทั้งคู่ก็กลับมาที่คอนโดมิเนียมของบุษบงกชอีกครั้ง วันหยุดของพวกเขากลายเป็นวันเตรียมการจัดงานแต่งงานไปด้วย เนื่องจากคุณหมอกับสารวัตรต่างก็มีภารกิจรัดตัวด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นการวางแผนที่ดีจึงเป็นเรื่องจำเป็น หัสยุทธอาบน้ำเสร็จแล้วก็มาสมทบกับบุษบงกชที่โซฟาในห้องรับแขก อีวี่กำลังเดินไปมาทั่วพื้นห้อง แต่แขกร่างใหญ่ก็ดูเหมือนจะเริ่มคุ้นชินกับมันแล้ว นึกเสียว่าเป็นเจ้าเดือนเสี้ยวอีกตัวที่เขาต้องคอยระวังไม่เดินไปเหยียบมันเข้า

ว่าที่เจ้าสาวนุ่งกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืด เธอนั่งขัดสมาธิ กางสมุดบันทึกที่มีตารางนัดต่างๆ ไว้บนตัก มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือ ส่วนข้างตัวอีกฝั่งเป็นโน้ตบุ๊กที่เปิดเว็บไซต์เกี่ยวกับบริษัทจัดงานแต่งงานไว้ ตอนนี้ผมยาวของคุณหมอกึ่งเปียกกึ่งแห้งมันจึงดูฟูฟ่องกว่าที่เขาเคยเห็น ใบหน้าขาวกระจ่างไม่มีเครื่องสำอางหลากสีนอกจากครีมบำรุงผิว ริมฝีปากขมุบขมิบคล้ายกับกำลังท่องจำอะไรบางอย่าง หัสยุทธเดินมาหยุดหน้าโซฟาแล้วกอดอกมองเธอด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

“ยากกว่าผ่าศพไหม”

บุษบงกชหยุดสนใจงานในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนกวน “ยากกว่าค่ะ เพราะผ่าศพมีลูกมือ แต่งานนี้ต้องทำคนเดียว”

ปลายประโยคกดเสียงต่ำจนคนถามเสียวสันหลัง เขายิ้มเอาใจแล้วพยายามหาที่นั่งข้างตัวเธอจนสำเร็จ

“ผมไม่รู้จะช่วยยังไงนี่นา คอยตามใจอย่างเดียว อยากได้อะไรบอกเดี๋ยวจัดการให้ สั่งมาเลย”

คุณหมอทำปากยื่น แกล้งงอนแล้วหันไปสนใจแผนงานของตัวเองอีกครั้ง หัสยุทธรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวแถมยังไงชอบกล ระหว่างนั้นก็เอาแต่นั่งมองอีวี่วิ่งไปวิ่งมาทั่วห้อง เจ้าเครื่องดูดฝุ่นยังมีประโยชน์มากกว่าเขาเลย บุษบงกชพอจะจับความรู้สึกของเขาได้ เธอจึงวางสมุดบันทึกในมือลงแล้วหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาวางบนตักแทน

“งั้นเลือกชุดดีกว่า คุณชอบแบบไหน” เธอยิ้มหวานฉ่ำอย่างเอาใจ “ช่วยคิดหน่อยสิคะ”

ดวงตาใสแป๋วคู่นั้นมันทำให้คนอยู่ใกล้ใจสั่นขึ้นมาเสียดื้อๆ แล้วจู่ๆ หัสยุทธก็เอี้ยวตัวแล้วประคองใบหน้าของเธอด้วยมือใหญ่ทั้งสองข้างของเขาก่อนที่จะประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“อื้อ…”

คนถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวอุทธรณ์เล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยเลยตามเลยให้เขาจูบจนพอใจ รสจูบคราวนี้ไม่หวือหวา ร้อนแรง แต่กลับบรรจงอ้อยอิ่งคล้ายกับกำลังดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุข เมื่อหัสยุทธผละออกแล้วบุษบงกชก็เอาแต่จ้องมองเขานิ่งด้วยแววตาเป็นประกาย คนถูกมองกลับเป็นฝ่ายเขินซะเองที่ทำอะไรลงไปอย่างเมื่อครู่

“ฉันหมายถึง ‘think’ ค่ะ ไม่ใช่ ‘kiss’ ซะหน่อย”

“อ๋อเหรอ สงสัยจะฟังผิด” เขาแกล้งตีมึนแล้วยื่นมือไปหยิบโน้ตบุ๊กของเธอมาวางบนตักของตัวเอง “ไหนเอามาดูซิ”

บุษบงกชยิ้มขำกับท่าทางเหมือนเด็กโดนจับผิดของเขา เธอเคยชินกับการสัมผัสจากเขาแล้ว และทุกครั้งที่ทั้งคู่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมันยิ่งตอกย้ำให้เธอเชื่อมั่นว่าคนคนนี้คือคนที่จะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต

“ใส่สีดำจะหล่อมั้ย” หัสยุทธถามขึ้นมาลอยๆ

“ชัวร์…เสื้อยืดคอวีสีดำของคุณทำให้ฉันคลั่ง”

คุณหมอสารภาพแล้วเอียงศีรษะไปวางไว้ตรงบ่าของเขา หัสยุทธได้ยินแล้วก็หัวเราะในลำคอทันที

“ผมรู้…เลยใส่บ่อยๆ ไง”

คุณหมอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าด้านข้างของเขา “เจ้าเล่ห์…”

หัสยุทธหัวเราะ แต่บุษบงกชกลับขมวดคิ้ว

“นี่ฉันดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย บ้าจริง”

นายตำรวจหนุ่มใหญ่ก้มลงไปจูบที่หน้าผากของเธอเร็วๆ อย่างให้กำลังใจว่าถึงอย่างไรพวกเขาก็ลงเอยกันแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปกังวลกับการปล่อยไก่ของเธอในอดีตเลย

“แล้วคุณจะใส่ชุดไหน”

“ใส่แบบที่โป๊ๆ หน่อย”

“หืม…” คนฟังหันขวับมาด้วยสายตาสงสัยปนดุ “ไม่ได้ ไม่อนุญาต”

คุณหมอลอยหน้าลอยตาบอก “ไม่ได้ขออนุญาต”

“เดี๋ยวๆๆ มาตกลงกันก่อน ทำไมจู่ๆ เกิดอยากจะแต่งตัวโป๊ ปกติก็ปิดมิดชิดดี”

“หวงเหรอ”

“มากกกกกกก…”

“ใครอยากจะดูผู้หญิงวัยสามสิบเศษแต่งตัววับๆ แวมๆ”

“ผมไง”

บุษบงกชหัวเราะแล้วหันหน้าจอโน้ตบุ๊กมาฝั่งตน ก่อนที่จะเปิดภาพชุดแต่งงานภาพหนึ่งซึ่งได้บันทึกไว้ก่อนหน้าให้ว่าที่เจ้าบ่าวตรวจสอบ มันเป็นชุดแต่งงานสีงาช้างที่ด้านหน้าชายกระโปรงอยู่แค่ช่วงเข่าแต่มีหางยาวระพื้นเป็นเมตร ส่วนตัวเสื้อด้านหน้าเป็นคอวีลากลึกเกือบถึงสะดือ มีผ้าโปร่งบางๆ ปิดระหว่างร่องอก แขนเสื้อเป็นผ้าชนิดเดียวกันยาวถึงข้อมือ ส่วนด้านหลังก็คว้านลึกจนแทบจะเปลือยแผ่นหลัง ทั้งชุดนั้นปักด้วยคริสตัลเม็ดเล็กจนดูพริบพราวไปหมด หัสยุทธเห็นแล้วก็ส่ายหน้าเร็วๆ จนว่าที่เจ้าสาวหน้างอ

“ทำไมคะ สวยออก”

“ถ้าอยากใส่จริงก็ใส่ให้ผมดูคนเดียวพอ”

เธอหัวเราะคิก “ซื้อชุดเจ้าสาวมาใส่ให้เจ้าบ่าวดูคนเดียวเนี่ยนะคะ”

“ใช่ แล้วใส่ชุดอื่นที่ไม่โป๊ไปในงานแทน คุณสวยใส่อะไรก็สวย ไม่จำเป็นต้องโป๊เลย อีกอย่างถ้าใส่ชุดนี้นะผมต้องเร่งให้งานพิธีการจบลงไวๆ แน่ หรือไม่ก็ไม่ต้องลงไปเลี้ยงฉลองอะไรทั้งนั้น อยู่มันแต่บนห้องนี่แหละ”

คราวนี้คุณหมอขำจนตัวโยน “หื่น”

“รู้ก็ดี จะได้ไม่ยั่วผม ไม่งั้นตัวคุณนั่นแหละที่จะลำบากเอง”

บุษบงกชมองค้อนเพราะเขินจัด จากนั้นก็เลื่อนภาพชุดแต่งงานชุดอื่นขึ้นมาให้ว่าที่เจ้าบ่าวดูใหม่ “ชุดนี้ต่างหาก”

หัสยุทธยิ้มอย่างพอใจกับชุดกระโปรงสุ่มเหมือนเจ้าหญิงในนิทานฝรั่ง “อันนี้เลย ผมชอบ”

“อนุรักษนิยมมาก” บุษบงกชประชด

“จะบอกว่ารสนิยมของคนแก่ก็พูดมาเถอะ…ไม่เจ็บหรอก”

บุษบงกชหัวเราะเสียงดัง เธอชอบช่วงเวลาเช่นนี้มากที่สุด ได้พูดคุย หยอกล้อ แล้วก็หัวเราะไปด้วยกัน ยิ่งมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยเท่าไร ช่วงเวลานั้นก็ยิ่งมีค่ามากสำหรับเขาและเธอ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งรู้สึกผูกพันและรักเขามากขึ้นทุกวัน จนบางครั้งเธอเริ่มกลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับเขามากจนเกินไป จากที่เคยใช้ชีวิตอยู่ได้เพียงลำพัง เมื่อมีเขาเข้ามาความรู้สึกในใจเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอหลงใหลกลิ่นกายของเขา รักความอบอุ่นจากอ้อมแขนและอกแข็งแรง เธอไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้หายไป ยิ่งรู้สึกเป็นเจ้าของมากเท่าไรก็ยิ่งหวงและห่วงมากขึ้นเท่านั้น

“เอ่อ แล้วเรื่องที่อยู่…ตกลงคุณจะเอายังไง ผมอยากให้คุณเป็นคนตัดสินใจ”

เมื่อหัสยุทธเอ่ยถึงเรื่องนี้คนถูกถามก็นั่งตัวตรงทันที เธอเงียบไปอย่างคนใช้ความคิดจนนายตำรวจหนุ่มใหญ่รู้สึกว่าตัวเองกลั้นหายใจรอฟังนานเกินไปแล้ว เขาจึงถามซ้ำ

“พูดมาได้เลยนะ ผมอยากให้คุณสบายใจ”

“อืม ยังไงดี ความจริงฉันอยากให้คุณย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะมันสะดวกเวลาเราไปทำงานกันทั้งคู่ แต่…ฉันก็รู้ว่าคุณมีคุณป้าดาวอยู่ ถ้าทิ้งท่านไว้คนเดียว ฉันก็จะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวเกินไป”

หัสยุทธเข้าใจความรู้สึกของคนรัก เขาก็คิดถึงประเด็นนี้เหมือนกันกับเธอ

“ถ้าอย่างนั้นก็เห็นจะมีแค่ทางเดียวคือ ไปๆ มาๆ ระหว่างคอนโดฯ ของฉันกับบ้านของคุณ” บุษบงกชยิ้มอย่างเอาใจแต่มันก็ยังดูแห้งแล้ง

“แต่ถ้าเราคิดจะมีลูก แบบนั้นมันก็ดูจะไม่นิ่ง ไม่มั่นคงสำหรับลูกนะ นอนตรงนั้นทีตรงนี้ทีมันดูเหมือนพวกนกหลงรัง คุณคิดไหมว่าถ้าเราซื้อบ้านหลังใหม่แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกันสามคน…” หัสยุทธทิ้งท้ายคล้ายกับลองหยั่งเชิงบุษบงกช เมื่อเห็นเธอเอาแต่มองตาแป๋ว เขาจึงพูดต่อ “มันอาจจะดีกว่าแยกกันอยู่ อย่างน้อยก็จะได้ดูแลกัน”

“หรือเราจะจัดการเรื่องที่อยู่ก่อนแล้วค่อยแต่งงาน”

นายตำรวจร่างใหญ่ขมวดคิ้วทันที “ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย ก็แต่งก่อนนี่แหละ เรื่องบ้านค่อยขยับขยายก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากขายคอนโดฯ ผมจะขายบ้านเอง”

“อุ๊ย เดี๋ยวค่ะ นี่คุณคุยกับป้าดาวรึยัง อย่าด่วนผลีผลามตัดสินใจนะคะ ฉันไม่อยากให้ป้าดาวเข้าใจฉันผิดว่าเป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านกับชีวิตของคุณ”

“ก็ยังไม่ได้คุย แต่ป้าดาวเป็นคนที่เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต ถ้าเราคุยกับท่านด้วยเหตุผล ยังไงท่านก็จะเข้าใจ”

คุณหมอลอบถอนหายใจ ผู้ชายมักจะคิดว่าทุกอย่างง่ายไปซะหมด แต่ผู้หญิงอย่างเธอจำเป็นต้องคิดอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องของจิตใจ ละอองดาวเป็นคนเลี้ยงดูหัสยุทธมา ไม่ใช่แม่ก็เหมือนแม่ เธอไม่อยากผิดใจกับผู้มีพระคุณของคนที่เธอรักไม่ว่าจะด้วยเรื่องใดๆ ก็ตาม เธอไม่อยากให้เกิดสิ่งกระทบกระเทือนจิตใจของหญิงชรา คนทั้งคู่ต้องพยายามหาทางออกสำหรับเรื่องนี้

 

(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 7 ส.ค. 62)

9 of 9หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com