บทที่ 1
ยามดึกสงัดในฤดูหนาว
หมู่ดาวพร่างพราวเต็มผืนฟ้ากว้างใหญ่ สาดส่องจากเหนือหมู่เมฆลงมายังคฤหาสน์สกุลอวิ๋น ลอดผ่านหน้าต่างไม้แกะสลักเข้าสู่ห้องนอนของคุณหนูอวิ๋น สะท้อนแสงสว่างไสวอยู่ตรงขอบหน้าต่าง
เด็กสาวอายุประมาณสิบสี่ปีคนหนึ่งยืนอยู่หน้าคันฉ่องที่สูงครึ่งผนังห้อง จ้องมองคนในคันฉ่องนั้นอย่างตะลึงงัน ประเดี๋ยวหยิกใบหน้า ประเดี๋ยวดึงหูตนเอง
เจ็บ
เจ็บมากเลย
ไม่ใช่ความฝัน?!
อวิ๋นจ้าวขยับถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะเอนร่างนอนบนเก้าอี้หวาย หลับตาลงแล้วพ่นลมหายใจพรืด สบถในใจออกมาประโยคหนึ่ง
นางย้อนกลับมาเป็นตัวเองในอดีตหรือนี่!
เรื่องการย้อนกลับมาอดีตนี้นางเคยเห็นจากในหนังสือมาก่อน หลังจากอยู่อย่างคับแค้นใจชาติหนึ่งก็จะได้โอกาสกลับมาแก้ไขอีกครั้ง
ที่ผ่านมานางไม่สนใจเรื่องพวกนี้ และไม่คิดว่าเรื่องที่นางไม่เคยสนใจนี้จะมาเกิดขึ้นกับตนเองได้
ทว่า…อวิ๋นจ้าวรู้สึกว่าจะต้องมีข้อผิดพลาดตรงที่ใดสักแห่งแน่ๆ
เพราะว่าชาติก่อน นางไม่เพียงไม่ได้อยู่อย่างคับแค้นใจ ทั้งยังใช้ชีวิตอย่างสง่างามยิ่ง!
นางเกิดในครอบครัวคหบดี ไม่เคยต้องกลัดกลุ้มเรื่องอาหารการกิน เด็กคนอื่นเล่นดีดก้อนหิน แต่นางดีดไข่มุกทองคำ เงินยาซุ่ย* ของเด็กคนอื่นเป็นเหรียญเงินแค่ไม่กี่เหรียญ ทว่าทุกปีเงินยาซุ่ยของนางจะเป็นร้านค้าทำเลดีเยี่ยมหนึ่งแห่ง หรือไม่ก็…
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ เพียงพูดถึงคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ นางก็ดูสูงส่งอย่างที่สุดแล้ว
อย่างเช่นบิดาของนางก็มีแต่มารดา ไม่มีอนุภรรยาหรือว่าน้องชายน้องสาวมาก่อความวุ่นวาย นางเป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัว ได้รับความรักใคร่เอ็นดูเต็มเปี่ยม ท่านปู่ท่านย่าไม่เคยรังเกียจ บิดามารดาไม่เคยละเลย นางได้เที่ยวเล่นและลิ้มรสอาหารชั้นเลิศอย่างสำราญใจเกินจะกล่าว
พอคิดเช่นนี้แล้ว อวิ๋นจ้าวพลันรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา
เพราะเหตุใดสวรรค์ถึงได้ถูกใจนาง จนส่งนางย้อนกลับมาอดีตเช่นนี้?
นางคิดทบทวนอยู่หลายตลบ ในที่สุดก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเจิดจ้าภายใต้แสงจันทร์ส่องประกายดั่งแสงจันทร์สุกสกาว นางคลายมือออกอย่างช้าๆ ไข่มุกราตรีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือเม็ดหนึ่งส่องสะท้อนกับแสงจันทร์
หรือว่า…เป็นเพราะเรื่องของลู่อู๋เซิงยังค้างคา?
เมื่อคิดถึงชื่อที่ฟังดูแสนห่างไกลนี้ ก็พาลคิดถึงเรื่องในอดีตระหว่างตนกับเขา อวิ๋นจ้าวพลันรู้สึกว่ามีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่เป็นไปได้
ลู่อู๋เซิงเป็นบุตรชายท่านแม่ทัพใหญ่ ซึ่งนางรู้จักและเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ผู้อาวุโสทั้งสองตระกูลต่างสนับสนุนให้พวกเขาครองคู่กัน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ…นางชอบเขา
ลู่อู๋เซิงชอบนางมากแค่ไหนนั้น อวิ๋นจ้าวไม่รู้หรอก ทว่ายามนั้นพวกเขาสองคนต้องแยกจากกันไปเพราะความเข้าใจผิด สิบปีต่อมาเมื่อพบหน้ากันอีกครั้ง นางและเขาต่างก็ยังไม่ได้แต่งงานกันทั้งคู่
วันที่ได้พบหน้ากันนั้น นางกำลังลังเลใจว่าจะถามเขาเรื่องความเข้าใจผิดในอดีตดีหรือไม่ ว่าแท้จริงแล้วเป็นเช่นไรกันแน่ ทว่าเขากลับตายไปเสียก่อน และในคืนที่เขาตายไปนั้น นางก็ย้อนกลับมาตอนสิบปีก่อนหน้านี้เอง
อวิ๋นจ้าวคิดใคร่ครวญ พลิกตัวเอามือกุมไข่มุกราตรีเม็ดเล็กที่เขามอบให้เมื่อยังเด็ก หัวคิ้วขมวดเป็นปมแน่น ขณะที่คิดถึงบุรุษผู้นั้น นางก็เริ่มรู้สึกง่วงงุนมากขึ้นทุกที
เมฆหมอกบนท้องฟ้าสลายหายไป ดวงจันทร์เสี้ยวสีเงินที่เคยซ่อนตัวอยู่หลังก้อนเมฆเผยให้เห็นลอยเด่นอยู่กลางอากาศ สะท้อนแสงคู่กับดวงดาวอย่างเกียจคร้าน