อวิ๋นจ้าวยังไม่อยากเชื่อว่าสกุลอวิ๋นจะพ้นเคราะห์กรรมคราวนี้มาได้ จนกระทั่งเดินออกจากจวนโหว ประตูบานใหญ่ปิดไล่หลังอย่างดุดัน เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหวแล้ว นางถึงค่อยดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขา เอามือตบแก้มตนเองยืนยันว่านี่คือความจริง!
“เหตุใดเจ้าไม่มาหาข้า เจ้ายอมตายก็ไม่ยอมมาหาข้าหรือ”
เสียงของลู่อู๋เซิงไม่เรียบนิ่งเหมือนช่วงก่อนหน้านี้อีก อีกทั้งยามนี้ยังมีระลอกคลื่นสั่นไหว อวิ๋นจ้าวนิ่งอึ้ง ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าลืมไปน่ะ”
คำตอบนี้ทำให้ลู่อู๋เซิงประหลาดใจ จากนั้นจิตใจจึงหดหู่ลง “ลืมไป?…เจ้ากับข้าแยกกันแค่สิบวัน เจ้าก็ลืมแล้ว รู้จักกันมานานเป็นสิบปี เจ้ากลับใช้เวลาอันน้อยนิดแค่สิบวันลืมข้าไปหมดแล้ว?”
อวิ๋นจ้าวไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี ลู่อู๋เซิงย่อมไม่เข้าใจ พวกเขาแยกจากกันนานถึงสิบปีเต็มต่างหาก
นางก้มหน้าไม่ยอมตอบ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ขอบคุณ”
“เจ้าไม่ต้องมาขอบคุณข้า” สีหน้าลู่อู๋เซิงไม่แสดงความรู้สึกใด เขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดนางถึงต้องเหินห่างกับเขาถึงเพียงนี้ “อวิ๋นอวิ๋น ข้าไม่เคยข้องเกี่ยวกับสตรีนางไหนทั้งนั้น เชื่อข้าสิ อย่าทำตัวเหินห่างกับข้าเช่นนี้อีก”
“อืม” อวิ๋นจ้าวมองหน้าเขา เรื่องนี้นางย่อมเชื่อใจเขาแน่ วันนั้นเป็นเพราะนางไม่ให้โอกาสเขาอธิบาย ทั้งยังใช้ความตายบังคับให้เขาต้องยอมกลับไปอีก วันนี้นางไม่อาจเอาแต่ใจอย่างเก่าแล้ว “ประเดี๋ยวข้าจะไปรับท่านพ่อข้าที่คุก ส่วนเรื่องนี้…ข้าจะไปถามท่านให้รู้เรื่องแน่ ข้ายินดีจะฟังคำอธิบาย”
ลู่อู๋เซิงต้องประหลาดใจอีกครั้ง นางเคยมีนิสัยดื้อรั้นเป็นที่สุด ทว่าครั้งนี้กลับเหมือนเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว เขาตอบว่า “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”
อวิ๋นจ้าวไม่ปฏิเสธ มีเขาอยู่ข้างกาย ย่อมทำให้นางสบายใจอย่างแท้จริง
บันไดหินหน้าประตูจวนโหวทั้งกว้างและยาว พวกเขาสองคนจึงเดินเคียงข้างกันลงมา ต่างเงียบงันไร้วาจา ในโลกหล้ามีเพียงพายุหิมะส่งเสียงหวีดหวิวโหยหวน พัดพาจิตใจคนให้ปั่นป่วนยุ่งเหยิง
ท่ามกลางหิมะขาวพร่าเลือน มีเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งกะโผลกกะเผลกมา วิ่งไม่กี่ก้าวก็ล้มลงไปครั้งหนึ่ง ดูเหมือนนางจะหาคนที่ต้องการพบแล้วจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีกนิด เมื่อใกล้ถึงตัวอวิ๋นจ้าวก็ล้มลงอย่างแรงอีกครั้ง พร้อมกับร้องไห้โฮออกมา
อวิ๋นจ้าวมองนางอย่างตกตะลึง “สี่เชวี่ย!”
สี่เชวี่ยเนื้อตัวสั่นระริก ร้องไห้ไปพลางตอบว่า “คุณหนู ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ควรบอกเรื่องในคุกกับฮูหยินผู้เฒ่า ข้าผิดไปแล้ว…”
หัวใจของอวิ๋นจ้าวจมดิ่งในทันใด ได้ยินเพียงเสียงสี่เชวี่ยตะโกนบอกว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าจากไปแล้ว! ทั้งยังทิ้งจดหมายสั่งเสียเอาไว้ บอกว่าขอตายไปพร้อมกับฮูหยินติ้งเป่ยโหว และขอร้องให้ติ้งเป่ยโหวยอมปล่อยตัวนายท่านเจ้าค่ะ!”
ลู่อู๋เซิงตะลึงงัน พอหันมองคนข้างกายก็เห็นใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด ร่างทรุดฮวบลงไปกับพื้น เขาก้มลงประคองนางเข้าสู่อ้อมอก มองเห็นอวิ๋นจ้าวน้ำตาไหลพรั่งพรูดุจสายฝน น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยว่า “ท่านย่า…”
(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 3 ก.ย. 62)