การตำหนิอย่างตรงไปตรงมานั้นทำให้พัฒน์นรีพูดไม่ออก เธอเม้มปากเพื่อระงับอารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่กดดันอยู่ภายใน มันเป็นความรู้สึกคล้ายถูกผู้ใหญ่ตำหนิยามเมื่อพูดอะไรไม่เข้าท่าและต้องหุบไปเลยเดี๋ยวนั้น
“ค่ะ”
“แล้วอีกข้อที่ผมคงต้องบอกให้คุณเข้าใจ” พิชญ์คิดว่าพูดแล้วก็ต้องพูดให้จบ พัฒน์นรีทำงานดี เขาไม่อยากปล่อยให้เธอทำอะไรที่อาจจะทำให้เขาต้องเลิกจ้างเธอเหมือนกับที่เคยเลิกจ้างปรัญดา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นซ้ำรอย อย่างน้อย…ก็กันไว้ดีกว่าแก้ “ผมไม่อยากให้คุณคิดอะไรเกินเลย…มากไปกว่าเรื่องงาน”
ดวงตากลมที่หลุบต่ำลงในคราแรกตวัดมองคนพูด เธอฉลาดพอที่จะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะบอกในทันที หรือไม่ก็เป็นเพราะเธอมีชะนักติดหลังอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
จริงอยู่ว่าเธอไม่ได้มองพิชญ์เป็นเพียงเจ้านายคนหนึ่ง แต่ชื่นชอบเขาเป็นการส่วนตัวเพราะความหล่อมีเสน่ห์เกินห้ามใจ แต่เธอก็รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไม่เคยคิดหวังอะไรลมๆ แล้งๆ อย่างที่เขากล่าวหาเลยสักนิด
“ฉันเข้าใจค่ะ แต่ขออธิบายเจตนาให้ท่านทราบก่อนที่จะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้นะคะ” เป็นธรรมดาที่ความโกรธมักจะนำมาซึ่งความกล้าอย่างไม่เคยมีมาก่อน อยู่ๆ เธอก็ไม่เห็นว่าเขาเป็นเจ้านายหนุ่มผู้น่าเกรงขามอีกต่อไป “ที่ฉันถามไปแบบนั้นเพราะเห็นว่าคุณวริษฐ์ทำหน้าที่นี้เมื่อท่านต้องออกไปติดต่องานข้างนอก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะท่านเห็นว่าฉันยังใหม่หรือเพราะว่าฉันเป็นผู้หญิงเลยมองว่าเชื่องช้าเกะกะเป็นภาระ ท่านจึงไม่เรียกใช้ในเรื่องนี้ ฉันก็แค่อยากแสดงให้ท่านเห็นว่าฉันสามารถทำหน้าที่เลขาฯ ได้ทุกอย่างเหมือนที่คุณวริษฐ์เคยทำ มันอาจจะไม่ได้ดีเท่า แต่ก็จะพยายาม เพราะไม่อยากรู้สึกว่าทำงานไม่คุ้มเงินเดือน ถ้าหากมันกลายเป็นว่าทำให้ท่านไม่พอใจก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ”
พัฒน์นรีโค้งศีรษะให้เขา ถึงแม้จะอยากสะบัดหน้าหนีออกจากห้อง แต่เพราะคำว่าเจ้านายกับลูกจ้างค้ำคออยู่ เธอจึงรอแค่ว่าเขาจะพูดอะไรอีก แต่ทุกอย่างกลับมีแต่ความเงียบงัน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวนะคะ” พัฒน์นรีเดินออกจากห้องไปโดยไม่มองหน้าพิชญ์อีก
คนอะไร มองโลกในแง่ลบ ไม่เคยเห็นใครดีเลย
ได้! ไม่อยากให้ติดสอยห้อยตามไปเหมือนเลขาฯ คู่ใจก็ดี เราจะได้สบาย เอาเวลาไปเดินเล่นใช้เงินให้สะใจไปเลย
“ที่มานั่งทำหน้าบูดแบบนี้เพราะเสียใจที่ท่านรองฯ ไม่หิ้วแกไปไหนมาไหนด้วยอย่างที่หวังไว้ใช่มั้ย”
เหมยลี่ใช้ตะเกียบชี้หน้าเพื่อนสาวที่เพิ่งบ่นเจ้านายให้ฟังพร้อมกับคำสรรเสริญเป็นชุด
“ผิดหวังบ้าอะไรล่ะฮะ ฉันโกรธจนควันแทบจะออกหูอยู่แล้ว อุตส่าห์ปลื้มมาเป็นปีๆ นี่แหละนะคนเรา ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเห็นธาตุแท้ ฉันไม่ชอบเขาแล้ว พอ เลิก”
“โอ้โห! แม่นาง ตัดพ้อเขาได้นะ เขาเป็นเจ้านายนะยะ แล้วแกเองก็เป็นพนักงานธรรมดาที่ฟลุกได้เป็นเลขาฯ ไม่รู้จะได้เป็นสักกี่เดือน เดี๋ยวคนของเขากลับมา แกก็ต้องระเห็จออกมาเป็นคนอื่นคนไกลเหมือนเดิม อย่าให้มันมากไป”
พัฒน์นรีทำหน้าคว่ำ ถึงเธอจะชอบพิชญ์มาก แต่ก็เป็นการชอบแบบแฟนคลับหลงรักดารา ไม่ได้ชอบที่ตัวตนของเขาหรือหวังอะไรมากไปกว่านั้น พอถูกเขามองในแง่ร้ายมันก็อดที่จะโกรธไม่ได้จริงๆ
“ฉันรู้น่า ไม่ต้องมาพูดตอกย้ำความต่ำต้อยของฉันได้มั้ย” จากที่โกรธแค่เจ้านายก็แทบจะพานโกรธเพื่อนอีกคน
แต่พอเริ่มมีสติคิดตามที่เพื่อนพูด เธอคิดว่าก็มีส่วนจริง เธอจะโกรธพิชญ์เป็นฟืนเป็นไฟด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ถูก แม้แต่ที่แสดงกิริยาออกไปต่อหน้าเขาแบบนั้นก็ด้วย เขาเป็นเจ้านาย เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เธอ เธอไม่มีสิทธิ์พูดประชดประชันหรือใช้อารมณ์อย่างที่แสดงออกไปวันนี้ เขาไม่ไล่เธอออกจากบริษัทก็ดีตั้งเท่าไหร่