นางยืดหลังตรงพร้อมกับเงยหน้ามองไปยังต้นไม้ด้านหนึ่ง ภายในป่าไม่มีลมเลยสักนิด ยอดไม้นั้นก็กลับไปนิ่งสงบนานแล้ว หลินฟางโจวลูบคางพลางพูดคนเดียว “เด็กน้อยมาจากที่ใดกัน ไม่มีทางที่เขาจะใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้นี้หรอกกระมัง”
หากไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้ เช่นนั้นก็ต้องตกลงมาจากที่อื่น มีหน้าผาแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ไปไม่ไกล เด็กคนนี้คงเล่นอยู่ข้างบนแล้วไม่ทันระวังจนลื่นตกหน้าผาลงมาเป็นแน่
ถือว่าเขายังโชคดีที่ตกลงมาบนยอดไม้นี้พอดี ทำให้มีกิ่งไม้ช่วยลดแรงกระแทกให้เขาหลายหน ท้ายที่สุดก็ไม่ตกลงมากระแทกกับพื้นโดยตรง
นางสังเกตว่าเด็กคนนี้สวมอาภรณ์ค่อนข้างแปลกตา ตลอดทั้งร่างของเขาเป็นชุดทหารและยังสวมเกราะพร้อมด้วยหมวก เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีสงครามเกิดขึ้น ทว่าที่แห่งนี้ไม่ได้มีป้อมปราการตั้งอยู่ อีกทั้งสงครามคงไม่ต้องการทหารอายุน้อยเช่นนี้ไปสู้ศึกกระมัง หากให้เขาไปตีกระต่ายยังนับว่าพอได้
หลินฟางโจวไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน ชั่วขณะหนึ่งจึงยังนึกอะไรไม่ออก มือหนึ่งของนางหนีบจิ้งหรีดไว้ อีกมือหนึ่งก็เขย่าเขาเบาๆ พลางเอ่ย “วันนี้ข้าจะทำความดีด้วยการช่วยชีวิตเจ้าสักชีวิตหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยชีวิตเจ้าไว้ได้หรือไม่ หากช่วยไม่ได้ เจ้าก็อย่าถือโทษกันเลย อายุขัยของทุกคนล้วนแต่ถูกกำหนดไว้แล้ว พอเจ้าไปถึงยมโลก ไม่อนุญาตให้เจ้าพูดถึงข้าในทางไม่ดีนะ”
ขณะที่พูดหลินฟางโจวก็ดึงเขาไปด้วย ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ยอมทิ้งจิ้งหรีดจึงใช้มือเพียงข้างเดียวที่ว่างอยู่ดึงเขา ทว่านางที่ตัวเล็กเพียงแค่นี้จะใช้มือข้างเดียวดึงเด็กชายคนหนึ่งไหวได้อย่างไรกัน นางออกแรงทั้งหมดจนสุดกำลังพลางกัดฟันแน่น
ฮึบ!
แม้ตัวคนจะถูกนางดึงขึ้นมาได้จริง ทว่า…
“อ๊ากกก! มารดาเจ้าสิ! จิ้งหรีดของข้า เทพสวรรค์ พระโพธิสัตว์ เจ้าตัวเล็ก อ๊ากๆๆๆ!”
มือข้างที่หลินฟางโจวจับจิ้งหรีดอยู่เผลอออกแรงตามมืออีกข้างไปด้วย นางไม่ทันระวังเผลอหนีบจิ้งหรีดที่เพิ่งจับมาได้เมื่อครู่นี้ตายไปเสียแล้ว
หลินฟางโจวเกือบจะปล่อยเด็กคนนี้ทิ้งลงพื้นไปแล้ว แต่สุดท้ายนางก็เกิดขลาดกลัวขึ้นมา กังวลว่าตนเองจะกลายเป็นผู้ร้ายทางอ้อม นางจึงแบกเขาขึ้นบนหลังพลางพูดอย่างโกรธเคือง “เพื่อช่วยเจ้าแล้วข้าต้องสูญเสียกระทั่งแม่ทัพใหญ่แห่งเขาเจิ้นซานของข้าไป เจ้าเป็นปีศาจมาจากที่ใดกัน ช่างเก่งกล้าสามารถยิ่งนัก!”
นางถึงกับตั้งชื่อให้จิ้งหรีดไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
‘ปีศาจ’ นอนคว่ำอยู่บนหลังหลินฟางโจวโดยไม่ขยับเขยื้อน
หลินฟางโจวเดินไปพลางสบถด่าเขาไปพลาง ด่าไปได้สักพักความคิดใหม่ก็แวบเข้ามาในสมอง เด็กคนนี้ตกลงมาจากหน้าผา เกรงว่าคนที่บ้านเขาต้องเป็นห่วงมากแน่ ตอนนี้นางช่วยชีวิตเขาแล้ว อย่างไรก็ต้องเรียกค่าตอบแทนสักหน่อย ถึงตอนนั้นนางจะได้เอาเงินไปซื้อแม่ทัพใหญ่แห่งเขาเจิ้นซานสักสิบตัวในคราวเดียวเลย ตัวหนึ่งใช้สู้ศึกที่อำเภอหย่งโจว ส่วนอีกเก้าตัวที่เหลือก็นำมาย่างแกล้มกับสุรา ช่างน่ายินดีอะไรอย่างนี้
หึๆๆ ฮ่าๆๆ…พอคิดเช่นนี้แล้วอารมณ์ของนางก็ดีขึ้นมาในทันที