หลินฟางโจวรู้สึกว่าวังเถี่ยติงหัวอ่อนไม่ทันคน เขาไม่มีความคิดเป็นของตนเองและยังคล้อยตามผู้อื่นได้ง่ายถึงเพียงนี้ นางส่ายหน้าและพูดต่อคำพูดของเขา “ที่จริงข้าก็ไม่ค่อยต่างกันนักหรอก แม้ลูกกระเดือกข้าจะไม่ใหญ่เหมือนกับคนอื่น ทว่ายามอยู่บนเตียงข้าก็สามารถทำให้สาวน้อยร้องครวญครางถึงบิดามารดาได้ เห็นได้ชัดว่าการจะสรุปว่าคนผู้หนึ่งเป็นครึ่งชายครึ่งหญิงจากการมีลูกกระเดือกเล็กใหญ่เช่นนี้…ช่างไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย”
วังเถี่ยติงเริ่มสนใจ “เจ้ายังไม่ได้แต่งงานเลยด้วยซ้ำ จะไปทำให้สาวน้อยที่ไหนร้องครวญครางถึงบิดามารดาได้เล่า”
หลินฟางโจวยิ้มอย่างมีเลศนัย “สตรีสูงส่งน่ะ…ไม่อาจบอกชื่อกับเจ้าได้ อาจเป็นการทำลายชื่อเสียงคนอื่น”
“ฮ่าๆๆๆ” วังเถี่ยติงหัวเราะไม่หยุด
หลินฟางโจวจึงแต่งเรื่องคุยกับวังเถี่ยติงอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองฝ่ายต่างก็โอ้อวดเรื่องพละกำลังของตนเองกับสตรีที่ปล่อยกาย…
จริงๆ แล้วหลินฟางโจวรู้สึกเบื่อหน่ายยิ่งนัก หลังจากพูดคุยได้ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ทำให้วังเถี่ยติงเชื่อว่านางหาใช่ครึ่งชายครึ่งหญิงและไม่ใช่คนที่ชมชอบเพศเดียวกัน
ตอนบ่ายพอเลิกงานหลินฟางโจวก็เดินไปพลางคิดไปพลาง นับจากนี้นางไม่เพียงต้องขยันเข้าร่วมพูดคุยเรื่องชายหญิงพวกนั้น ทั้งยังต้องพูดโอ้อวดและพูดเรื่อยเปื่อยให้มากเข้าไว้ ยามที่นางเดินไปตามถนนก็ต้องส่งสายตาหยาดเยิ้มให้กับสตรี หลังจากนี้นางต้องสร้าง ‘หลินฟางโจวจอมลามก’ ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง อย่าให้คนคิดว่านางเป็นชายบำเรอได้เป็นอันขาด มิเช่นนั้นหากโชคไม่ดีมีคนรักร่วมเพศที่ไม่รู้จักอายเข้ามาในชีวิตสักคน นางคงได้มีเรื่องยุ่งยากเพิ่มมากขึ้นเป็นแน่
ขณะที่คิดเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นหลินฟางโจวก็บังเอิญพบกับหวังต้าเตา เขากำลังรีบร้อนพาคนหลายคนเดินออกไป ข้างกายมีอีกคนหนึ่งติดตามอยู่ ดูจากรูปร่างและการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นอาจารย์ที่สำนักศึกษา หลินฟางโจวเกิดความสงสัยเล็กน้อยจึงเอ่ยถาม “หัวหน้ามือปราบหวัง ท่านรีบร้อนเช่นนี้ไปทำไมกัน”
“ที่สำนักศึกษาเกิดเรื่องแล้ว” หวังต้าเตาเห็นเป็นคนในที่ว่าการ เขาจึงไม่คิดปิดบังอะไร ทั้งยังตอบกลับมา “วิวาทกันกลุ่มใหญ่ มีเลือดออกด้วย มีคนหนึ่งถูกหามออกไปแล้ว เป็นตายยังไม่แน่ชัด”
“คนเรียนหนังสือก็ทะเลาะกันด้วยหรือ” หลินฟางโจวหมดคำจะพูด นางเอ่ยอย่างทอดถอนใจ “ทั้งยังหามออกไปแล้วด้วย น่ากลัวจริงเชียว!”
“ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าก็เรียนอยู่ที่สำนักศึกษามิใช่หรือ เจ้าจะไปดูกับพวกข้าด้วยหรือไม่”
หลินฟางโจวส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มเอ่ย “ข้าไม่ไปหรอก เสี่ยวหยวนเป่าของข้าเชื่อฟังข้ามาก ข้ากลับบ้านไปทำอาหารรอเขากลับมาดีกว่า”
“อืม เช่นนั้นข้าพาพี่น้องพวกนี้ไปดูก่อนแล้วกัน” หวังต้าเตาพูดแล้วบอกลานาง เขาเดินไปด้วยพูดกับอาจารย์ที่อยู่ข้างกายไปด้วย หลินฟางโจวได้ยินเขาถามอาจารย์ว่า “มีกี่คน”
“เจ็ดแปดคน มีผู้ใหญ่แล้วก็มีเด็ก”
“คนที่นำการวิวาทนี้เป็นผู้ใด”
“หลินฟางซื”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 11 ธ.ค. 62