ไลฟ์สไตล์
10 แง่คิดกระแทกใจที่ได้จากการอ่านนิยายรัก
สารภาพมาซะดีๆ ว่าใครอ่านนิยายแล้วแอบอินกับชีวิตจริงของตัวเองบ้าง เพราะก็ต้องมีแหละที่บางเหตุการณ์แอบตรงกับชีวิตจริงของตัวเอง อาจจะเรื่องแฟน เรื่องเพื่อน หรือเรื่องครอบครัว และแน่นอนว่า ถึงแม้บทสรุปของนิยายในแต่ละเรื่องจะแตกต่างกันไปตามเนื้อหาในเล่มนั้นๆ แต่ยังไงก็ต้องให้แง่คิดอะไรบางอย่างที่กระแทกใจเราได้เสมอ ว่าแล้วก็ลองมาส่อง 10 แง่คิดกระแทกใจที่ได้จากการอ่านนิยายรักกันเลยดีกว่า งานนี้จะตรงใจกับที่เพื่อนๆ รู้สึกกันอยู่บ้างมั้ยนะ
ลองเปิดใจให้คนที่รักเรา
เวลาแอบรักใคร ในนิยายรักมักจะมอบทางเลือกให้ด้วยความไม่สมหวัง แต่ก็ไม่เคยใจร้ายจนเกินไป เพราะก็ยังใส่ตัวละครที่แอบรักคนที่ผิดหวังอยู่เช่นกัน และนั่นก็ทำให้เห็นได้ว่า ไม่จำเป็นเสมอไปที่เมื่อเรารักอีกฝ่ายแล้วเขาจะรักตอบ และก็ไม่จำเป็นอีกเสมอไปว่าถ้ามีคนมารักเรา แล้วจะไม่รักตอบ เพราะถ้าเราเห็นแล้วว่าความผิดหวังมันเป็นเช่นไร การลองเปิดใจและให้โอกาสคนที่รักเราอย่างแท้จริงได้เข้าหาเรา บทสรุปสุดท้ายอาจจะพบกับความสมหวังก็ได้นะเออ
ต้องรักตัวเองให้เป็น
ทำไมเวลาตัวละครอกหักหรือผิดหวังจากความรักจะต้องร้องไห้ฟูมฟายเยอะแยะมากมายต่อหน้าเพื่อนด้วยล่ะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกนะ ถ้าเราเสียใจแล้วเลือกที่จะระบายออกมา เพราะนั่นดีกว่าการที่เรานิ่งเงียบและเก็บตัวอยู่เดียว มันอาจจะทำให้เรากลายเป็นคนคิดมาก และอาจจะเผลอทำร้ายตัวเองโดยที่เราไม่รู้ตัวแต่ถ้าลองมานั่งทบทวนถึงปัญหาความรักที่เกิดขึ้นดูให้ดีๆ อาจจะพบบทเรียนหรือข้อผิดพลาดที่เกิดจากเราก็ได้ ฉะนั้น รักตัวเองให้มากๆ เข้าไว้ แล้วรีบกลับมาแข็งแรงให้ได้ไวๆ นะ
สนิทกันต้องกล้าสารภาพผิด
เคยมีเรื่องผิดใจกับเพื่อนมั้ยล่ะ ถ้าในนิยายรักน่ะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาเรื่องที่เพื่อนสองคนแอบชอบผู้ชายคนเดียวกันอยู่ แล้วทำไมไม่รู้นะ คนที่แอบชอบอยู่ก่อนมักจะนกอยู่ร่ำไป ส่วนคนที่อยู่เฉยๆ กลับได้ผู้ชายไปครอบครอง แน่นอนว่าถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่คนที่สมหวังกลับต้องคอยคบกับอีกฝ่ายแบบหลบๆ ซ่อนๆ นั่นก็เพราะกลัวเพื่อนจะโกรธ แต่ยิ่งปล่อยนานไปก็ยิ่งมีแต่เจ็บมากขึ้นทุกฝ่าย ฉะนั้นไหนๆ ก็สนิทกันแล้ว ต้องกล้าสารความจริงสิ แม้จะรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนเสียใจ แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจขึ้นนะ
ใส่ใจกันแม้เป็นเรื่องเล็กน้อย
เวลาอ่านนิยายรัก มักจะเจอเหตุการณ์ที่พระเอกนางเอกผิดใจกัน ไม่ก็เพื่อนทะเลาะกัน นั่นก็เพราะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกัน ซึ่งถ้าลองสังเกตดีๆ มักจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก แต่เราต้องอย่าลืมว่าเรื่องเล็กน้อยในสายตาเรา เขาอาจมองว่ามันคือเรื่องใหญ่ที่กระทบกระเทือนจิตใจได้เต็มๆ ฉะนั้น ถ้าหันมาใส่ใจกันให้มากขึ้น โดยไม่มองว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ลองมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ บางทีปัญหาที่เพิ่งเกิด ก็อาจจะคลี่คลายได้โดยไวเพราะเราเข้าใจกันมากขึ้นยังไงล่ะ
หัวร้อนง่ายไม่ทำให้มีความสุข
นิสัยของพวกตัวร้าย เด่นๆ ก็คงเป็นเรื่องที่โกรธง่าย เจออะไรไม่พอใจก็ฉุนเฉียวอยู่ตลอด พอนานวันเข้าก็กลายเป็นภาพลักษณ์ให้คนจดจำ หรือคนอ่านอย่างเราก็ต้องไม่ชอบคาแร็กเตอร์นี้ไปเลย เห็นได้ชัดเลยแหละว่าการเป็นคนหัวร้อนง่ายน่ะ นอกจากจะทำให้ชีวิตไม่มีความสุขแล้ว บทสรุปยังอาจจะได้เจอเรื่องทุกข์หนักๆ ให้ต้องนึกย้อนหรือสำนึกได้เอาภายหลังว่า ที่ผ่านมาเราควรมีสติและความอดทนอดกลั้นให้มากกว่านี้ยังไงล่ะ
ย้ำว่าต้องมีสติทุกครั้ง
แน่นอนอย่างที่บอกไป หากมีสติ การจะทำอะไรในแต่ละครั้งย่อมผ่านความคิดที่เราตระหนักและไตร่ตรองแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งก็จะช่วยให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือเรื่องไม่สบายใจตามมา เช่น ถ้าเกิดเรามีเรื่องทะเลาะกับเพื่อน การนิ่งและเลือกที่จะไม่ตอบโต้ ย่อมทำให้เรื่องไม่บานปลาย เพราะในนิยายก็ไม่ได้มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเราได้ทันตลอด เหมือนในชีวิตจริงนั่นแหละ การเซฟตัวเองด้วยการมีสติ จะสามารถทำให้ทุกปัญหาผ่านพ้นไปได้อย่างสมูธจนลืมเรื่องหงุดหงิดแน่นอน
ควรมีความเชื่อใจกันเสมอ
อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ตัวละครในนิยายผิดใจกันได้ง่ายที่สุด ก็คือการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เชื่อใจกันยังไงล่ะ นั่นจึงเป็นที่มาของการจับผิดกัน ถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าจะสงสัยอะไรในตัวอีกฝ่าย อย่างน้อยก็ควรมีความเชื่อใจ ถามตัวเองให้ดีๆ ก่อนว่าถ้าเราโดนใครมาซักหรือจับผิดบ้าง เราจะรู้สึกยังไง จริงอยู่ว่าเราอาจจะไม่สบายใจได้หากไม่ได้คำตอบชัดเจนจากอีกฝ่าย แต่ถ้าสิ่งที่เราสงสัยมันเป็นแค่สิ่งที่เราคิดไปเองทั้งนั้น เราก็ต้องใช้หลักเชื่อใจไว้ก่อน เพื่อลดความตึงเครียดน่าจะดีที่สุด และหยุดปัญหาที่จะเกิดตามมายังไงล่ะ
จริงใจ ไม่เสแสร้ง
ตัวละครฝ่ายร้าย มักจะมีนิสัยที่โดดเด่นเลยคือความไม่จริงใจ และเสแสร้ง อาจจะชอบแกล้งทำดี แต่ลึกๆ คือพร้อมหาเรื่องเปิดศึกได้ทุกเมื่อ ยิ่งถ้ามาในรูปแบบคนดีแล้วนะ พอถึงเวลาที่ลืมตัวเผลอทำอะไรร้ายๆ ออกมา ขนาดเราเป็นคนอ่านยังนึกรังเกียจเลย ก็เหมือนในชีวิตจริง ถ้าเรามีความจริงใจให้กับใครอย่างแท้จริง รับรองว่าเราจะได้รับความจริงใจกลับมาอย่างเต็มเปี่ยม และทุกๆ การกระทำของเราก็จะไม่ดูเสแสร้งในสายตาคนอื่นแน่นอน ฉะนั้น อย่าทำตัวเป็นนางร้ายในชีวิตจริงเลย
ไม่ทำตัวอ่อนแอเกินไป
นางเอกสู้คนเป็นเทรนด์ฮิตของนิยายยุคนี้เลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเล่มไหนนางเอกอ่อนแอล่ะก็ จะต้องล่อไปช่วงท้ายๆ ถึงจะเจอตอนที่นางเอกลุกขึ้นมาเอาคืน แน่นอนว่าหลายคนจะโดนใจและสะใจมาก เวลาเห็นนางเอกทำในสิ่งที่เราอยากเห็น อาจจะไม่ต้องลุกขึ้นมาร้ายตาม แค่อย่าทำตัวอ่อนแอเกินไป หรือเจ้าน้ำตาไปซะทุกเรื่องก็พอแล้ว จำไว้เลยว่ายุคสมัยนี้เราต้องแข็งแกร่งเข้าไว้ เพราะมันจะเหมือนเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เราถูกรังแกเอาง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่ทำตัวแข็งกร้าวจนเกินพอดีล่ะ
แค่รู้จักให้อภัยก็ชนะแล้ว
มีนิยายส่วนน้อยที่เลือกจบปัญหาระหว่างฝ่ายดีกับฝ่ายร้ายด้วยการให้ฝ่ายร้ายได้รับบทเรียนสุดเจ็บปวด และฝ่ายดีก็เลือกที่จะไม่ให้อภัยเพราะเข็ดขยาดแล้ว แต่ก็ยังมีนิยายส่วนมากที่หาทางออกให้กับความบาดหมางทั้งหมด ด้วยการเลือกให้ฝ่ายดีให้อภัยฝ่ายร้าย ซึ่งเอาจริงๆ หลายคนอาจจะไม่ชอบตรงที่ตัวร้าย ร้ายมาแค่ไหนสุดท้ายก็ลอยตัว แต่เชื่อเถอะว่า ตัวร้ายน่ะได้บทเรียนอย่างสาสมแล้วล่ะ แน่นอนว่าหากเรารู้จักการอภัย อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ต้องสำนึกผิดและคิดได้ว่าไม่ควรคิดร้ายกับเราตั้งแต่แรกนั่นเอง