13 ตุลา… วันที่น้ำตาของชาวไทยทุกคนหลั่งริน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 ถือเป็นวันแห่งความเศร้าโศกเสียใจครั้งใหญ่ของประชาชนชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ

หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคตด้วยพระอาการสงบตอนเวลา 15 นาฬิกา 52 นาที นับจากวินาทีดังกล่าว คนไทยทุกคนก็พลันจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกที่เหมือนหัวใจสลาย น้ำตาแห่งความอาลัยของคนไทยต่างหลั่งรินออกมาพร้อมกัน นับเป็นวันที่คนไทยทุกคนต้องจดจำไปชั่วชีวิต

ความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง

โดยก่อนหน้านี้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประทับรักษาพระอาการประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช มาตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ประชาชนชาวไทยจำนวนมากต่างก็เดินทางไป ณ โรงพยาบาลศิริราชเพื่อร่วมลงนามถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร และยังพร้อมใจกันสวมเสื้อสีชมพูซึ่งเป็นสีเสริมดวงพระราชสมภพของพระองค์อีกด้วย แต่ในช่วงระยะหลังๆ พระอาการประชวรของพระองค์เริ่มทรุดลงเรื่อยๆ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคตในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงของปวงชนชาวไทย ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้ประกาศให้ประชาชนไว้ทุกข์ถวายความอาลัยเป็นเวลา 1 ปี ‘เรารักในหลวง’ กลายเป็นประโยคที่ฝังลึกอยู่ในใจคนไทยทุกคนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพราะนึกถึงพระองค์คราใด น้ำตาก็พลันไหลได้ทุกเมื่อจริงๆ

ร่วมถวายสักการะพระบรมศพ

สำหรับตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังมีมติประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตและวันหยุดราชการเพื่อให้ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และได้กำหนดให้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพขึ้นในวันที่ 25 – 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 รวมถึงได้ประกาศให้วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพเป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ

กษัตริย์ที่คนไทยรักมากที่สุด

ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชสมบัติ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีคำสอนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยสำหรับใช้ในการดำรงชีวิต ไม่แปลกใจเลยที่พระองค์จะทรงเป็นกษัตริย์ที่คนไทยรักมากที่สุด และการแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่คนไทยพึงมีต่อพระองค์ท่านมากที่สุด ก็คือการทำตามคำสอนของพ่อ และยึดมั่นในการทำความดี สิ่งเหล่านี้แหละที่จะทำให้เราใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงอยากเห็น นอกจากนี้ในสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งสื่อโทรทัศน์ สื่อเว็บไซต์ก็ได้มีการปรับภาพสีให้ลดความเข้มลง รวมถึงผู้ใช้งานในเฟซบุ๊กจำนวนมาก ก็ได้ปรับรูปโพรไฟล์เป็นสีขาวดำ และประดับริบบิ้นสีดำที่มุมของรูป เพื่อถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่านอีกด้วย

พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

จะมีขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยเวลา 7.00 น. จะมีพระราชพิธีเชิญพระบรมศพมายังท้องสนามหลวง ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของพระเมรุมาศ ทั้งนี้ประชาชนชาวไทยสามารถแต่งกายชุดดำสุภาพเพื่อเข้าร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ณ พระเมรุมาศจริง และเมรุมาศจำลอง 85 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ในเขตกรุงเทพมหานคร 113 แห่ง และวัดในเขตต่างๆ 50 เขต โดยในเวลา 22.00 น. จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kingrama9.th ซึ่งเป็นเว็บหลักของงานพระราชพิธีในครั้งนี้