จังหวะนั้นเองเสียงฝีเท้าพลันดังขึ้นในตรอก หญิงฐานะดีที่ถูกขโมยกระเป๋าเงินวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพลางส่งเสียงร้อง “กระเป๋าเงินของข้า…”
“อยู่นี่!” อวี้ฉีหลินล้วงกระเป๋าจากในอกเสื้อมาแกว่งไปมาตรงหน้าอีกฝ่าย
“ค่อยยังชั่ว!” หญิงนางนั้นเอื้อมมือไปหากระเป๋า แต่อวี้ฉีหลินกลับชูกระเป๋าขึ้นสูงกว่าเดิมจนนางเอื้อมไม่ถึง
“เจ้า!” นางแหวอย่างเดือดดาล
“แม่คนปากจัด ทีหน้าทีหลังหัดพูดกับคนอื่นให้ดีกว่านี้หน่อย มาเอาไปเองสิ” อวี้ฉีหลินเหวี่ยงมือขึ้นไป กระเป๋าเงินใบนั้นวาดเส้นโค้งครึ่งวงกลมกลางอากาศ ก่อนจะตกลงไปในถังเศษอาหารที่ตั้งอยู่ข้างทางดัง ‘ต๋อม’
“จะ…จะ…เจ้า…” หญิงฐานะดีถูกด่าจนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ยังไม่ทันได้คิดคำตอบโต้ กระเป๋าเงินก็ตกลงไปในถังสกปรกต่อหน้าต่อตา เล่นเอานางโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
“หึๆ…” จินหยวนเป่ามองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนุกสนานจนอดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ ขอทานน้อยคนนี้ช่างร้ายจริง
“คุณชาย! คุณชาย ในที่สุดก็หาเจอเสียที…” เสียงแสบแก้วหูคล้ายเสียงเป็ดตัวผู้ดังขึ้นในตรอก
แค่ได้ยินเสียง ยอดมือปราบคนเก่งก็ขมวดคิ้วทันที ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองผู้มาใหม่ “อาฝู มาทำไม มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ”
อาฝูอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นคราบสกปรกบนเสื้อผ้าผู้เป็นนาย ก่อนจะละล่ำละลักบอก “คุณชาย! รีบกลับจวนกับบ่าวเร็วเข้าเถิดขอรับ ที่จวนเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
จินหยวนเป่าทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน “ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นจะมีเรื่องอะไรสักครั้ง ร้อนรนอะไรของเจ้า”
“ป้ายทองคำลายพระหัตถ์ไทเฮาถูกส่งไปที่จวนแล้ว ฮูหยินร้อนใจดังไฟลนเมื่อทราบว่าท่านไม่อยู่ หากท่านยังไม่กลับไปอีก ไม่รู้ว่าฮูหยินจะร้อนใจจนถึงขั้นไหน”
“ป้ายหน้าจวนแม่ทัพไม่ใช่กระดาษถึงจะบุบสลายได้ง่ายๆ ต่อให้เรื่องใหญ่กว่านี้ ท่านแม่ของข้าก็เคยผ่านมาหมดแล้ว!” จินหยวนเป่ากระพือพัดช้าๆ “ข้ายังมีคดีต้องสอบสวน เดี๋ยวค่อยกลับจวนแล้วกัน”
อาฝูได้ยินเช่นนั้นก็ลนลานหนัก รีบดึงชายแขนเสื้อเจ้านายไว้พลางถาม “คุณชายจะไปไหนขอรับ”
“หึๆ…” จินหยวนเป่าโบกพัดก้าวเท้าเนิบๆ เดินไปทางปากตรอกโดยไม่หันมามอง “หอเชียนเจียว!”
ร่างสูงเดินออกจากตรอกเล็กแล้วเหลือบไปเห็นคนที่กำลังนั่งยองๆ กัดแทะซาลาเปาอย่างตายอดตายอยากเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าน่าสงสารของขอทานน้อยผุดขึ้นในสมอง พร้อมกับประโยคที่แสนน่าเวทนา ‘ไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว’
“เฮ้อ…ข้านี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ เลยน้า!” เขาเอ่ยชมตัวเอง ก่อนจะล้วงก้อนเงินหันไปโยนให้ ก้อนเงินนั้นหล่นลงบนหัวอวี้ฉีหลินพอดิบพอดี
เงินที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าทำให้อวี้ฉีหลินนิ่งตะลึงเป็นอันดับแรก แล้วมองเห็นคนโยนแทบจะในทันที! นางเก็บก้อนเงินบนพื้นดินขึ้นมาทำท่าจะโยนกลับไปอย่างมีน้ำโห “เจ้า! นึกว่าข้าเป็นขอทานจริงๆ หรือไร!”
แหม รักศักดิ์ศรีเสียด้วย หากไม่ใช่ขอทาน เจ้ายังเป็นอะไรได้ แม้จะคิดเช่นนั้นจินหยวนเป่าก็ไม่ได้พูดออกมา เพียงแค่แค่นหัวเราะเหยียดๆ “นี่เป็นรางวัลสำหรับการผดุงคุณธรรม กองปราบกำหนดไว้ ขอทานสกปรกอย่างเจ้าทำเสื้อแพรของข้าเลอะ ข้าไม่เอาความก็ถือว่าเมตตามากแล้ว นี่ยังตกรางวัลให้เจ้าอีกนะ!”
อวี้ฉีหลินเลิกคิ้วอย่างกระหยิ่มใจ “รางวัลของกองปราบหรือ ไม่เอาก็เสียของเปล่าหมดสิ!” พูดจบก็รีบเก็บเงินเข้าอกเสื้อ
อาฝูส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ชินเสียแล้วกับเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ยังไม่วายบ่นงึมงำ “เป็นครั้งที่เท่าไรของปีแล้วนะ เฮ้อ! คุณชายควักเนื้อตัวเองตกรางวัลอีกแล้ว! ตัวเองเป็นคนดี จิตใจอ่อนโยนแท้ๆ แต่กลับชอบทำปากคอเราะรายเหมือนพวกนิสัยไม่ดี!”
คนดีของอาฝูเดินลิ่วๆ จากไปโดยไม่เหลียวหลัง ไม่ทันไรก็ทิ้งช่วงไปไกลลิบ
อาฝูรีบเร่งฝีเท้าตามพลางตะโกนบอก “คุณชาย รีบกลับจวนเร็วเข้าเถิดขอรับ คุณหนูเจียงมาถึงนอกเมืองหลวงแล้วนะ!”
ตรอกเล็กเหลือเพียงความเงียบสงบ
อวี้ฉีหลินล้วงก้อนเงินออกมาเดาะเล่นอยู่ในมือก่อนจะเก็บใส่อกเสื้ออีกครั้ง ดวงตาสุกใสจ้องมองปากตรอกอย่างครุ่นคิด ครู่หนึ่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นตรงมุมปาก “หอเชียนเจียว?”
โปรดติดตามตอนต่อไป…