ทดลองอ่านนิยาย โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 1 บทที่ 7-บทที่ 8 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่านนิยาย โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 1 บทที่ 7-บทที่ 8

ลมหนาวเย็นเยือก กุยหวั่นรู้สึกว่าหูของนางเจ็บเล็กน้อย ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นหลินรุ่ยเอินหมุนตัวเดินไปอีกด้านหนึ่ง ลมถูกร่างของเขาบดบังไว้ทำให้เบาบางลงมากในทันที นางรู้สึกตกใจ เขาจงใจทำเช่นนี้อย่างนั้นหรือ ความอบอุ่นใจบางๆ เกิดขึ้นในใจ

เมื่อเห็นว่าข้างกายไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว กุยหวั่นจึงเลือกเรื่องสำคัญมาอธิบายสถานการณ์

ฟังเรื่องเล่าของกุยหวั่นแล้ว หลินรุ่ยเอินก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นว่ากุยหวั่นจงใจตัดรายละเอียดมากมายออกไป เขาไม่ได้ถามลึก รู้ดีว่าเรื่องนี้มาถึงขั้นที่รอช้าไม่ได้แล้ว หลินรุ่ยเอินจึงเรียกทหารมาสั่งการ “จูงม้าของข้าออกมา”

ได้ยินคำนี้แล้วกุยหวั่นก็สงบใจลงได้ ขอเพียงหลินรุ่ยเอินรีบรุดไป สถานการณ์คงจะแตกต่างจากที่นางกังวลใจไปมาก

หลินรุ่ยเอินสั่งการบางอย่างกับทหารด้วยเสียงเบา จากนั้นก็หันมาพูดกับกุยหวั่น “ระหว่างทางจากวัดฮู่กั๋วถึงวังหลวงมีเนินหนึ่งชื่อเนินเฟิ่งซี เป็นสถานที่อันตราย หากจะลงมือ เป็นไปได้มากว่าจะเลือกที่นั่น ข้าสั่งการลงไปแล้ว ให้ส่งกองกำลังรักษาวังไป ตอนนี้ข้าก็จะรีบไปที่นั่น เจ้าวางใจเถอะ” น้ำเสียงราบเรียบทรงพลัง มีพลังบางอย่างที่สะกดใจคนได้

นางพูดเสียงเบา “เนินเฟิ่งซี?” ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันใด เห็นทหารจูงม้าเดินเข้ามา หลินรุ่ยเอินก็พลิกตัวขึ้นควบม้า นางจึงรีบเดินเข้าไปดึงอานม้า สายตานางประสานเข้ากับสายตาตกใจของหลินรุ่ยเอินแล้วพูดว่า “ท่านแม่ทัพ พาข้าไปด้วยได้หรือไม่”

หญิงผู้นี้มักจะทำให้เขาตกใจได้เสมอ เห็นใบหน้างดงามของนางแฝงความกังวล แต่ในแววตากลับมีความมุ่งมั่นที่ไม่อาจสั่นคลอน หลินรุ่ยเอินนิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วถอนหายใจเบาๆ จนแทบจะไม่ได้ยินออกมา จากนั้นก็โน้มตัวลงมาประสานสายตาของกุยหวั่น ก่อนจะพูดเบาๆ ว่า “โหลวฮูหยิน ต้องเสียมารยาทแล้ว”

กุยหวั่นยังไม่ทันเข้าใจความหมายในคำพูดของเขา เอวบางก็ถูกโอบรัดแน่น ตัวเบาหวิวถูกหลินรุ่ยเอินอุ้มขึ้นหลังม้ามาเสียแล้ว

ในระหว่างที่ตกใจ กุยหวั่นนิ่งงันไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด

หลินรุ่ยเอินมือหนึ่งจับกุยหวั่นไว้แน่นตรงด้านหน้า อีกมือหนึ่งดึงเชือกบังคับม้า เมื่อเขาออกแรงสะบัด ม้าก็วิ่งทะยานออกไปเร็วปานธนู

ม้าของหลินรุ่ยเอินเป็นม้าศึกชั้นเลิศอย่างแท้จริง สูงกว่าและวิ่งเร็วกว่าม้าทั่วไปมาก ชั่วขณะที่ม้ายกเท้า กุยหวั่นรู้สึกวิงเวียนในทันที เทียบกับการกระเทือนของรถม้าเมื่อครู่ ม้าศึกจะมั่นคงกว่าเล็กน้อย แต่มีความเร็วมากกว่า กุยหวั่นซึ่งไม่เคยนั่งม้าศึกมาก่อนหัวสมองว่างเปล่า หลับตาแน่น ได้ยินเพียงเสียงลมผ่านข้างหู ช่วงเวลานี้เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ลมหนาวพัดเข้ามาตรงคอเสื้อของนาง นางรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเทา

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com