ตุ่นดึงหมวกไอ้โม่งลงมาปิดบังใบหน้าไว้ทั้งหมดแล้วเริ่มเคลื่อนที่ไปด้านหน้า หัวใจของทุกคนสูบฉีดอย่างแรงแม้กระทั่งคนที่ถูกพันธนาการไว้ด้านในธนาคาร นี่เป็นครั้งแรกที่จะมีคนออกไปจากธนาคารนับตั้งแต่ถูกปล้น เป็นครั้งแรกในช่วงเวลาเกือบห้าชั่วโมงเลยทีเดียว
เมื่อประตูกระจกขยับ หัสยุทธซึ่งยังคงนั่งอยู่ในรถที่เปิดกระจกไว้กว้างประมาณห้าเซนติเมตรก็เริ่มขยับตัวเช่นกัน เขากำลังรอให้ฝั่งคนร้ายทำตามสิ่งที่ได้ให้สัญญาไว้ นี่ยังเป็นการประวิงเวลาให้หน่วยจู่โจมสามารถหาช่องทางที่จะเข้าประชิดตัวคนร้ายและตัวประกันอีกด้วย ขณะนี้ความกังวลยังมีอยู่หลายทาง เมื่อตัวประกันบางส่วนติดค้างอยู่ด้านในและตำรวจไม่รู้ว่าคนร้ายมีอาวุธอื่นอีกหรือไม่นอกจากปืนประดิษฐ์เอง
ประตูไม่ได้ถูกผลักให้เปิดกว้างทั้งบาน มันแค่ถูกเปิดแง้มๆ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที รปภ. คนเจ็บ และแม่บ้านก็ตามกันออกมา ยังไม่หมดแค่นั้นเมื่อชายร่างอ้วนซึ่งอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวก็ปรากฏกายขึ้นด้วย หัสยุทธไม่รู้จักผู้ชายคนนั้น แต่เขามั่นใจว่าคนคนนี้ไม่ใช่โจรปล้นธนาคารแน่ ตรงหัวไหล่ข้างซ้ายของชายร่างอ้วนมีมือของใครคนหนึ่งตรึงไว้ หัสยุทธรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนร้าย พวกมันกำลังจะใช้ตัวประกันเป็นโล่
หัสยุทธตัดสินใจเปิดประตูรถแล้วก้าวขาลงทีละข้าง การขยับของตำรวจทำให้เกิดเสียงโต้ตอบจากฝั่งธนาคารขึ้น
“ยะ…อย่ายิงครับ ผมเป็นผู้จัดการสาขา” ชายคนนั้นร้องบอกตำรวจเสียงสั่น “มะ…มันสั่งให้คุณตำรวจลงจากรถแล้วถอยไปให้ไกลๆ ถ้าไม่ทำตาม มันจะไม่ออกไป”
หัสยุทธยืนขึ้นเต็มตัวแล้วพยักหน้า เขาไม่ละสายตาจากร่างของวิรุฬแม้แต่วินาทีเดียว หากแต่ไม่ได้มองแค่ผู้จัดการร่างอ้วน เขากำลังมองลึกเข้าไปถึงข้างใน นายตำรวจรู้ดีว่าคนด้านในก็กำลังจับจ้องเขาอยู่ หัสยุทธก้าวให้พ้นรัศมีการเหวี่ยงของประตูรถแล้วผลักบานประตูให้ปิด โดยที่ไม่ได้หันไปมองแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเขาไม่มีอาวุธ
“ให้คนเจ็บมาที่รถพยาบาลก่อน” หัสยุทธเริ่มการต่อรองอีกครั้ง “นายสัญญาแล้ว แลกคนเจ็บกับรถ”
หลังจากเสียงของหัสยุทธเงียบไปไม่นาน กลุ่มคนหน้าธนาคารก็เริ่มขยับ แสงจากป้ายหน้าอาคารพาณิชย์แต่ละห้องให้ความสว่างเพียงพอที่หน่วยจู่โจมจะหาเป้าหมายของพวกเขาได้อย่างแม่นยำ แต่ตอนนี้ทุกคนถูกสั่งให้พรางตัวเพื่อให้คนร้ายวางใจพอที่จะก้าวออกมาด้านนอก ขณะนี้สายตาทุกคู่จดจ้องมาที่ฝ่ามือของหัสยุทธซึ่งหากขยับเป็นสัญญาณเพียงนิด ทุกคนก็พร้อมจะเข้าจู่โจม แต่ตอนนี้ทุกอย่างยังคงถูกปล่อยให้ดำเนินต่อไปอย่างเงียบๆ
“ถอยไปอีกครับ มันให้คุณตำรวจถอยห่างจากรถมากกว่านี้” ยังคงเป็นเสียงของวิรุฬที่สั่งกลับมา
“โอเค ผมจะถอยพร้อมกับที่ทั้งสามคนเดินมาที่รถพยาบาล”
หัสยุทธเห็นวิรุฬพยักหน้า เขาจึงเริ่มเดินถอยหลังทีละก้าวช้าๆ คนกลุ่มเล็กๆ ก็เริ่มขยับเช่นกัน เมื่อนายตำรวจหนุ่มถอยพ้นท้ายรถกระบะมาแล้ว เหลือก็เพียงหัวของรถพยาบาล สายตาของเขายังคงจดจ้องไปที่วิรุฬ นายตำรวจเห็นการเคลื่อนไหวของฝ่ายนั้นได้ชัดเจนว่าคนที่ยืนซ้อนหลังผู้จัดการสาขานั้นกำลังขยับตัว แต่เขาต้องการให้มันออกจากประตูมากกว่านี้ เขาต้องการความมั่นใจว่าคนร้ายไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งคน
แล้วตุ่นก็เคลื่อนตัวออกมาจากประตูในที่สุด มันผลักหลังวิรุฬให้เดินนำหน้า ส่วนตัวเองก้มศีรษะซุกด้านหลังชายร่างอ้วนจนมิด ไม่มีมุมที่หน่วยจู่โจมซึ่งอยู่ด้านหน้าธนาคารจะสามารถมองผ่านลำกล้องไปได้ แต่คนที่อยู่บนดาดฟ้าของอาคารพาณิชย์ซึ่งขึ้นไปรออยู่แล้วนั้นจะสามารถทำได้
หัสยุทธเบี่ยงตัวหลบหลังรถตู้ทันทีที่พ้นมุม เขาแอบอยู่ข้างรถพยาบาลโดยที่ลอบมองผ่านกระจกรถไปยังเป้าหมายเป็นระยะ อาสดาเริ่มรายงานให้ได้ยินเบาๆ