ภาษาและตัวอักษรที่เธอใช้มาจนเคยชินล้วนใช้ไม่ได้ในสถานที่แห่งนี้ เชียนโม่จะสอบถามเรื่องอะไรก็ทำไม่ได้ ด้วยความบังเอิญอย่างที่สุด เธอเห็นคนท่าทางคล้ายหัวหน้าคนหนึ่งถือสิ่งที่คล้ายแผ่นไม้ไผ่ม้วนหนึ่งกำลังอ่านอยู่ เชียนโม่เห็นตัวอักษรบนแผ่นไม้ไผ่นั้นแล้วก็อดตื่นตระหนกไม่ได้
ปู่ของเชียนโม่เป็นผู้ศึกษาอารยธรรมโบราณของแคว้นฉู่ เชียนโม่เห็นจนชินตามาตั้งแต่เล็ก และรู้จักตัวอักษรฉู่จำนวนไม่น้อย
แม้จะฟังภาษาเหล่านั้นไม่ออก แต่ตัวอักษรบนแผ่นไม้ไผ่นั้นเธอรู้จักทั้งหมด รูปแบบ โครงสร้างไม่ต่างจากตัวอักษรของแคว้นฉู่ เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ในฉับพลัน ลองใช้ตัวอักษรฉู่ที่ตนรู้จักสื่อสารกับหัวหน้าผู้นั้น แล้วก็ไม่ผิดจากที่คาด คนผู้นั้นมองตัวอักษรบนแผ่นไม้ไผ่แล้วมีท่าทางประหลาดใจยิ่ง
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า เชียนโม่อาศัยตัวอักษรค่อยๆ เรียนรู้ภาษาขึ้นมา ปริศนาก็ค่อยๆ คลี่คลาย สถานที่ที่เธออยู่ในเวลานี้เรียกว่า ‘ซู’ ค่ายบนภูเขาแห่งนี้เป็นเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่งของซู หัวหน้าเผ่าเคยไปแคว้นฉู่ เขาบอกเชียนโม่ว่าภาษาที่เธอเรียนตามตัวอักษรบนแผ่นไม้ไผ่ก็คือภาษาฉู่
แม้เชียนโม่จะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่หลังจากได้ทราบเรื่องเหล่านี้ก็ยังคงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ แต่ความเป็นจริงก็แบให้เห็นอยู่ตรงหน้า เพื่อจะทำความเข้าใจให้มากกว่านี้ จึงจำต้องเรียนรู้ภาษาฉู่และภาษาพื้นเมืองกับหัวหน้าเผ่าทุกวัน หวังว่าจะสามารถหาวิธีกลับไปได้
ทว่าผ่านไปไม่นานสงครามก็ปะทุขึ้น หัวหน้าเผ่าพาผู้ชายในค่ายออกไป เห็นว่าจะไปรวมตัวกับเผ่าอื่นเพื่อรับมือกับข้าศึก
แต่พวกเขาไม่ได้กลับมาอีก ถัดจากนั้นไม่กี่วันจู่ๆ ก็มีเรือใหญ่หลายลำปรากฏขึ้นที่ริมแม่น้ำ มีคนถือหอกยาว ถือธนูจำนวนมากกรูออกมา ผู้คนในค่ายบนภูเขาตื่นตระหนกตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน
เชียนโม่รู้ว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่นอน แต่อยู่บนภูเขารกร้างเช่นนี้ เธอวิ่งเร็วสู้คนอื่นไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกจับตัวได้
คนเหล่านั้นไม่ได้ทำร้ายเธอ เพียงจับเธอโยนเข้ามาในเรือลำนี้…เรือที่มีแต่คนอยู่เต็มลำ
เรือสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้งคล้ายกระทบฝั่ง ช่องทางออกเหนือศีรษะเปิดออกในฉับพลัน มีบันไดไม้ไผ่อันหนึ่งยื่นลงมา แล้วบุรุษผิวดำมะเมื่อมรูปร่างล่ำสันสองคนก็ไต่บันไดลงมาในห้อง ผู้คนต่างส่งเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกประหนึ่งฝูงแกะที่กำลังตื่นตกใจ พากันเบียดเสียดหลบไปอยู่ที่มุมหนึ่ง บุรุษท่าทางโหดร้ายดุดันส่งเสียงด่าอะไรบางอย่าง ตวัดแส้ที่อยู่ในมือฟาดออกไป ไล่คนที่อยู่ในท้องเรือให้ขึ้นไป
หลายคนส่งเสียงร้องไห้โอดโอย เชียนโม่ถูกเบียดให้ต้องปีนขึ้นไปบนบันไดไม้ไผ่ แสงอาทิตย์แรงกล้าเสียดแทงนัยน์ตา เรือโคลงเคลงไม่หยุด เธอเงยหน้าขึ้น บนเรือมีผู้คนอยู่ไม่น้อย ในมือถือหอกที่ทั้งคมทั้งยาวจ่อมาที่พวกตน ซึ่งก็เป็นคนกลุ่มเดียวกับที่จับพวกเธอมาจากค่ายบนภูเขาเมื่อสองวันก่อน
แม้จะเป็นคนที่มีอุปนิสัยสุขุมเยือกเย็น แต่เชียนโม่ก็ถูกภาพที่เห็นทำให้ตกตะลึงพรึงเพริด ได้แต่ทำเหมือนคนอื่นๆ ก้มหน้าถูกไล่ต้อนให้เดินไปข้างหน้า ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง เธออยากจะถามให้รู้แน่ชัดว่านี่มันเรื่องอะไรกันแต่ก็จนปัญญา ภาษาที่คนรอบข้างพูดอยู่เธอล้วนฟังไม่เข้าใจ ภาษาฉู่และภาษาพื้นเมืองที่ตนเรียนมาจากค่ายพักบนภูเขาล้วนใช้การไม่ได้