แต่พอเธอนึกถึงสภาพความเป็นอยู่ของตนในเวลานี้ ก็คิดว่าคุณปู่ยังคงอย่ามาที่นี่จะดีกว่า
คนที่ถูกจับตัวมาเช่นเดียวกับเธอส่วนใหญ่ก็หาได้ยินยอมพร้อมใจ ทุกวันก็จะมีคนคิดหนี แต่เหมืองแร่แห่งนี้ทั้งสี่ด้านล้วนมีภูเขาและกำแพงล้อมรอบ มือเปล่ายากจะปีนข้ามไปได้ เธอเคยเห็นคนผู้หนึ่งฉวยโอกาสตอนทหารที่เฝ้าอยู่เผลอปีนกำแพงหนี เมื่อถูกพบเห็นเข้า ทหารก็เอาหอกยาวขว้างไปจากที่ไกลเต็มแรง
เป็นครั้งแรกนับแต่เกิดมาที่เชียนโม่เห็นภาพการสังหารคนต่อหน้าต่อตา ปลายหอกยาวแทงทะลุหน้าอก คนผู้นั้นร่วงลงมา ชักกระตุกสองสามครั้งแล้วก็แน่นิ่งไป
ตกกลางคืน เชียนโม่ฝันร้าย แต่ก็ยิ่งตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะต้องหนี
เชียนโม่ไม่บุ่มบ่าม เธอกำลังพยายามมองหาโอกาสที่เหมาะสม
ไม่ถึงสองวัน โอกาสดีก็มาถึง ในเหมืองแร่มีคนมากเกินไป ไม่มีที่ให้พักอาศัย เจ้าหน้าที่เริ่มให้ทาสทั้งหลายลงมือสร้างบ้านพัก
กล่าวสำหรับเชียนโม่แล้ว บ้านพักเหล่านี้ต่อให้สร้างดีเพียงใดก็สู้บ้านคนเก็บขยะที่ชานเมืองไม่ได้ บ้านพักที่นี่เป็นเรือนแบบยกพื้นเตี้ย ใช้ไม้ไผ่ขัดตอกบุหญ้าคาทำเป็นผนัง หลังคาก็มุงด้วยหญ้าคา พอประทังไม่ให้ฝนรั่วเข้ามาได้
แต่…สร้างเรือนที่พักจำเป็นต้องใช้หญ้าคา และที่เก็บเกี่ยวหญ้าคาอยู่นอกเขตเหมืองแร่
เชียนโม่เดิมก็ทำหน้าที่ตัดหญ้าอยู่แล้ว ครั้งนี้จึงถูกจัดให้ไปอยู่ในกลุ่มที่ทำหน้าที่ตัดหญ้าคาโดยปริยาย
เธอสังเกตอย่างถี่ถ้วน สถานที่ตัดหญ้าคาอยู่บนเนินเขาแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากที่นั่นมีแม่น้ำสายหนึ่ง ยังมีป่าไม้อีกผืนหนึ่ง หากมีใจคิดจะหนี สถานที่แห่งนี้นับว่าไม่เลว เธอยังสังเกตเห็นว่าที่เสาต้นหนึ่งริมน้ำมีเรือเล็กเก่าๆ ลำหนึ่งผูกอยู่
กว่าจะสร้างกระท่อมเสร็จยังต้องใช้เวลาอีกหลายวัน เชียนโม่รอคอยจังหวะเหมาะ ตั้งแต่เล็กการว่ายน้ำก็เป็นสิ่งที่เธอเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ขอเพียงทหารเหล่านั้นคลายความระมัดระวังลงสักหน่อย เปิดโอกาสให้เธอได้ขยับเข้าไปใกล้ริมแม่น้ำ…
“โม่…” ในเวลานี้เองแขนของเชียนโม่ถูกคนกระตุก เธอหันหน้าไป อาหมู่กำลังมองเธอพลางชี้มือไปที่ใบหน้า
เชียนโม่เข้าใจทันที เมื่อครู่เหงื่อออก คันๆ ที่แก้ม เธอทนไม่ไหวจึงยกมือขึ้นเกา มองไปที่นิ้วมือดำๆ เป็นเถ้าเขม่าที่เช็ดออกมาจากใบหน้า เชียนโม่ก็ยิ้มอย่างขวยเขิน อาหมู่ไปเอาเถ้าเขม่าที่เตามาเติมใบหน้าให้เธอ
อาหมู่ก็คือหญิงกลางคนที่มาถึงเหมืองแร่พร้อมเชียนโม่ ลูกสาวของนางเรียกนางด้วยคำที่ออกเสียงคล้าย ‘อาหมู่’ เชียนโม่จึงเรียกอาหมู่ตามไปด้วย ชื่อของลูกสาวนางออกเสียงคล้ายคำว่า ‘อาหลี’ เชียนโม่จึงเรียกเด็กหญิงว่าอาหลีตามไปด้วย เชียนโม่บอกชื่อของตนกับพวกนาง แต่สอนลำบาก สุดท้ายจึงใช้วิธีพบกันครึ่งทาง ให้พวกนางเรียกตนว่า ‘โม่’
เชียนโม่กับสองแม่ลูกนับว่าเป็นเพื่อนที่คบกันในยามทุกข์ยาก พวกนางเองก็ช่วยดูแลเชียนโม่ดี
ในคืนที่มาถึงภูเขาเหมืองแร่ เชียนโม่ตามพวกสตรีไปล้างหน้าล้างตัวที่บ่อน้ำ เธอล้างคราบสกปรกบนใบหน้าจนสะอาดเอี่ยม พออาหมู่เห็นเข้าก็ดึงเธอไปทำมือทำไม้พูดอะไรอยู่เป็นนานสองนาน เชียนโม่ดูอยู่พักใหญ่จึงเข้าใจ นางกำลังบอกว่าไม่อาจล้างหน้าจนสะอาดสะอ้าน ไม่ปลอดภัย
เชียนโม่ผิวพรรณขาวนวลเนียน เดิมก็ดูต่างจากคนที่ทำงานหนักมาตลอดอยู่แล้ว อยู่ที่นี่สตรีมีจำนวนน้อยมาก ทาสหญิงที่ไม่มีฐานะใดๆ ให้เอ่ยถึง การมีรูปร่างหน้าตาดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่ใช่เรื่องดี ด้วยเหตุนี้พวกสตรีเพียงได้ยินเสียงนกเสียงลมก็หวาดผวา แม้แต่คนที่มีอายุแล้วยังเอาขี้เถ้าทาหน้าทุกวัน กลัวคนจะสนใจ