ไม่เพียงเท่านั้น เชียนโม่ยังเรียนรู้จากบทเรียนครั้งก่อน เธอเอาเสื้อแขนยาวผ่าหน้าที่สวมไว้ข้างนอกมาทำเป็นกระโปรง เอามาพันรอบเอวปิดช่วงล่างไว้ ให้การแต่งเนื้อแต่งตัวของตนมองดูแล้วกลมกลืนไปกับผู้อื่นอยู่บ้าง เธอยังตัดขากางเกงส่วนที่เลยข้อเท้าไปออกมา นำมาทำเป็นผ้าพันมือ เพื่อป้องกันไม่ให้มือของตนเป็นตุ่มพองเจ็บก่อนจะทันด้าน
บางครั้งเชียนโม่รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเป็นเรื่องที่น่าโศกเศร้าน่าเวทนาอย่างที่สุด แต่เมื่อมองดูผู้คนที่อยู่รอบข้าง จิตใจของเธอก็รู้สึกดีขึ้น
พวกอาหมู่ถูกปล้นสะดมพาตัวมาที่นี่ พลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอน หลายต่อหลายคนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่ง ส่วนเชียนโม่ไม่เพียงมีเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว ยังมีรองเท้าคู่หนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นคนรวยคนหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เธอจึงพยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่น นอบน้อมถ่อมตน ไม่เคยซักเสื้อผ้า และปล่อยให้โคลนเลนเกาะติดรองเท้าเป็นชั้นๆ
กงอิ่นประจำถงซานเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้หนึ่งปี มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ครั้งก่อนจู่ๆ ฉู่หวังก็เสด็จมา ประทับอยู่สองวันก็เสด็จกลับ แม้เขาจะปรนนิบัติดูแลเอาใจใส่อย่างดี แต่ก็ยังคงรู้สึกว่าไม่พอ
ค่ายบัญชาการในเหมืองแร่แม้จะไม่เลว แต่ฉู่หวังอยู่ที่นครอิ่งตูมีชีวิตอยู่ดีกินดี ที่นี่กระทั่งคนขับร้องดีดสีตีเป่าสร้างความครึกครื้นในงานเลี้ยงสักคนก็ยังไม่มี เปรียบเทียบกันแล้วช่างลำบากยากแค้นนัก กงอิ่นไม่อยากพลาดโอกาสที่จะเอาอกเอาใจฉู่หวัง จึงออกจะร้อนใจ
โชคดีที่เสี่ยวเฉินฝู* ญาติผู้พี่ของเขาเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดของฉู่หวัง กงอิ่นจึงเอ่ยถึงเรื่องนี้กับเสี่ยวเฉินฝู คิดจะให้เขาหาหญิงขับร้องร่ายรำจากเมืองหลวงมาให้
คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวเฉินฝูกลับด่าว่าเขาพักใหญ่
“เจ้าเข้าใจว่าอยู่ในวังหรืออย่างไร ฉู่หวังหาได้เลอะเลือน ถงซานสถานที่สำคัญเช่นนี้ ในค่ายบัญชาการถึงกับมีหญิงให้ความสำราญ ไยมิใช่หาเรื่องตาย”
กงอิ่นตื่นตระหนก แต่ก็รู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจ “แต่เช่นนี้ก็เท่ากับไม่มีหนทางแล้วหรือ”
“ใช้สมองหน่อย” เสี่ยวเฉินฝูยิ้มๆ “แม้ต้าหวังจะคาดเดาอารมณ์ยาก แต่อย่างไรก็เป็นคนหนุ่ม ข้าได้ยินมาว่าระยะนี้ที่หนองน้ำใกล้เคียงมีจระเข้ดุร้าย ชาวบ้านต่างร่ำร้องให้จัดการจระเข้ รอต้าหวังมาแล้ว เจ้าก็กราบทูลให้ทรงทราบ…หือ?”
ดวงตาของกงอิ่นเปล่งประกาย
ล่าจระเข้ ฉู่หวังจิตใจฮึกเหิมเลือดร้อน ชอบล่าสัตว์ และเมืองเอ้อก็มีจระเข้มาก นี่เป็นความคิดที่ดี
คิดได้ดังนี้เขาก็รีบกล่าวคำขอบคุณแล้วกลับไปเตรียมการด้วยความดีใจ
เช้าตรู่ เชียนโม่ถูกคนทำให้ตกใจตื่นจากความฝัน
เธอขยี้หูขยี้ตา มองออกไปข้างนอก ท้องฟ้าใกล้สว่างแล้ว ผู้คุมกำลังร้องเร่งเสียงดัง ทาสทั้งหลายไม่กล้าชักช้า รับอุปกรณ์และอาหารแห้ง รีบเร่งออกไปทำงาน
ตอนมารับอาหารแห้ง เชียนโม่มาช้าไปหน่อย พอเวียนมาถึงเธอก็เหลือแต่เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว
เชียนโม่พยายามกอบให้เต็มมือแล้วยัดลงท้องให้หมด จะหลบหนีต้องมีเรี่ยวแรง อย่างน้อยเธอก็เรียนรู้ที่จะไม่เลือกกินแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น หลายวันมานี้เธอสะสมอาหารแห้งไว้วันละเล็กละน้อย ซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง
* เสี่ยวเฉิน เป็นตำแหน่งขันทีในวังหลวง