“ได้ข่าวว่าเตาหลอมก็ถูกทำลายแล้ว สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ฉู่หวังก็ไม่พูดมาก มองแผ่นไม้ไผ่ที่บันทึกจำนวนคนที่หลบหนี สีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก
กงอิ่นกล่าว “พ่ะย่ะค่ะ วันนี้มีสายฟ้าฟาดลงมาทั้งที่ไม่มีฝน ผ่าเตาหลอมพังไปสามลูก กระหม่อมพาคนไปดู คิดไม่ถึงว่า…” พูดแล้วเขาก็รีบชี้แจง “แรงงานทาสพวกนั้นเจ้าเล่ห์มาก ขุดอุโมงค์ใต้ภูเขาจนทะลุ หาโอกาสหลบหนีไป! ต้าหวังโปรดวางพระทัย กระหม่อมได้ส่งกองทหารไปไล่โจมตีแล้ว จะต้องกำราบ…”
คำพูดยังพูดไม่ทันจบ ทหารราชองครักษ์ก็เดินเข้ามารายงานว่า “ต้าหวัง พวกกระหม่อมพบสิ่งเหล่านี้บนศพคนที่ถูกสังหารที่ริมฝั่งแม่น้ำ” พูดจบก็เอาหัวลูกศรหลายดอกขึ้นถวายฉู่หวัง
ฉู่หวังหยิบขึ้นมาดูดอกหนึ่ง เห็นรูปร่างลักษณะไม่ใช่ของแคว้นฉู่ก็ย่นหัวคิ้วแล้วว่า “คนซู”
“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารราชองครักษ์กล่าว “กระหม่อมได้ตรวจสอบซักถามมาแน่ชัดแล้ว แรงงานทาสที่หลบหนีเหล่านี้มีคนผู้หนึ่งเป็นหัวหน้า คนผู้นี้มีชื่อว่าหมาง เป็นเชลยทาสที่ถูกจับตัวมาในสมัยอดีตหวังไปปราบปรามซู คนผู้นี้พูดได้หลายภาษา ทั้งรู้หนังสือ เป็นหัวหน้าในหมู่แรงงานทาส นอกจากนี้ในหมู่ผู้คุมมีสองคนที่หลังจากแรงงานทาสหลบหนีก็หายตัวไปไร้ร่องรอย”
แววตาของฉู่หวังยิ่งดูล้ำลึก ชำเลืองมองไปที่กงอิ่นประจำถงซาน
กงอิ่นตัวสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่ รีบคุกเข่าหมอบลงกับพื้น “ต้าหวัง! กระหม่อมไม่ทราบเรื่องจริงๆ! ก่อนหน้าที่กระหม่อมจะมาอยู่ที่ถงซาน คนเหล่านี้ก็อยู่ที่นี่แล้ว คนชื่อหมางผู้นั้นปกติก็เป็นเชลยทาสธรรมดา…”
“เชลยทาสธรรมดามีปัญญาสมคบกับคนภายนอกได้หรือ” ฉู่หวังกล่าวเสียงเย็น “ถงซานเป็นสถานที่สำคัญ เจ้าเป็นกงอิ่น ละเลยต่อหน้าที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติ ยากจะหลีกพ้นความผิดได้!” พูดจบก็ให้คนเอาตัวกงอิ่นที่ตัวสั่นงันงกออกไปแล้วมีบัญชา “มอบตัวให้กรมอาญา แล้วให้จั่วถู* เฉิงฉงมารับตำแหน่งกงอิ่นประจำถงซานแทน”
เสี่ยวเฉินฝูเห็นฉู่หวังพิโรธหนัก สีหน้าพลันซีดเผือด ได้แต่มองญาติผู้น้องถูกพาตัวไป ไม่กล้าปริปาก
ฉู่หวังมองจำนวนคนที่เขียนอยู่บนแผ่นไม้ไผ่ หนึ่งพันสามร้อยห้าสิบสองคน ในใจอดกลัดกลุ้มไม่ได้
ปีนี้ทางใต้แห้งแล้งอดอยาก ภัยพิบัติมาก ฉู่หวังมีบัญชาให้เปิดยุ้งฉางทุกแห่ง ไม่ปิดกั้นลานล่าสัตว์ของราชวงศ์ พยายามบรรเทาทุกข์ให้ประชาชน สถานการณ์เพิ่งจะเริ่มดีขึ้น คิดไม่ถึงว่าชนเผ่าหรง ชนเผ่าอี๋ และชนเผ่าอื่นๆ ที่อยู่รอบด้านกลับเอาใจออกห่าง พากันรุกรานแคว้นฉู่ ฉู่หวังมีคำสั่งให้ปิดประตูเมืองจย่า เมืองซีสองแห่งเพื่อป้องกันแคว้นต่างๆ ในจงหยวนจะถือโอกาสพลอยผสมโรงไปด้วย ในแคว้นเองก็เตรียมทำสงครามจัดการกับเผ่าต่างๆ อย่างเต็มที่
การกรีธาทัพออกรบ อาวุธยุทโธปกรณ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาสิ่งสำคัญ ถงซานก็คือรากฐาน หากไม่เพราะเขาคิดจะสอบถามเรื่องทองแดงที่จะใช้ในการออกรบและย้อนกลับมาด้วยตัวเอง ถงซานแห่งนี้ยังไม่รู้จะเกิดเรื่องวุ่นวายถึงขั้นไหน
“ต้าหวัง” ราชองครักษ์เอ่ย “แรงงานทาสอีกกลุ่มที่หลบหนีไปเหล่านั้น จะสั่งให้ทหารไล่โจมตีอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้อง” ฉู่หวังกล่าว “ให้ทุกแห่งทางตะวันออกเฉียงใต้เตรียมการป้องกันอย่างเข้มงวด แล้วสืบข่าวมาให้แน่ชัด คนซูที่ชื่อหมางผู้นั้นมีฐานะเช่นไร”
ราชองครักษ์รับคำ กำลังจะล่าถอยออกไป พลันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
“ต้าหวัง” เขาลังเลอยู่ชั่วขณะ “เมื่อครู่กระหม่อมได้ตรวจสอบเตาหลอมที่ถูกทำลาย ดูเหมือนจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล”
* จั่วถู เป็นขุนนางในสำนักราชวัง หน้าที่ภายในคือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกิจการงานเมืองแก่กษัตริย์ หน้าที่ภายนอกคือรับรองแขกบ้านแขกเมือง