‘คืนนี้เจ้ารั้งอยู่ที่นี่’ เสียงทุ้มต่ำในคืนวันนั้นของเขาคล้ายยังดังอยู่ข้างหู
เชียนโม่เหยียดมุมปาก คิดในใจ หากจะบอกว่าเขาเจ้าชู้รักความสำราญ กลับถูกต้องอย่างมาก!
หลังจากฉู่หวังออกไปแล้ว ก็ไม่ได้มาที่ห้องพักในเรือของเชียนโม่อีก
ผ่านไปสองวัน อาการบาดเจ็บของเชียนโม่ดีขึ้นมากแล้ว เธอรู้สึกว่าตนอยู่แต่ในห้องพักจนตัวแทบจะขึ้นราแล้ว จึงบอกซังว่าเธออยากออกไปเดินเล่น ซังดูบาดแผลของเธอแล้วก็ไม่ได้คัดค้าน หยิบเสื้อผ้ามาชุดหนึ่งให้เธอสวมใส่
เสื้อผ้าในยุคสมัยนี้ทั้งกว้างทั้งยาว ชายเสื้อต้องพันรอบตัวสองทบ แทบจะระพื้น ทำอย่างไรเชียนโม่ก็ไม่ค่อยเคยชิน ตอนเดินออกจากประตูห้องที่ต่ำเตี้ยก็ให้รู้สึกพันมือพันเท้าไปหมด เมื่อออกจากห้องพัก ลมแม่น้ำก็พัดโชยมา ชายเสื้อของเธอปลิวสะบัดขึ้น ปานประหนึ่งว่าวที่พร้อมจะลอยขึ้นทุกเมื่อ
เชียนโม่เคยเห็นเรือยนต์ขนาดใหญ่ในสมัยปัจจุบันมาแล้ว เรือลำนี้ในสายตาของเธอไม่นับว่าใหญ่มาก เธอเดินไปที่ข้างกราบเรือ เงยหน้ามองไป เพียงเห็นเนินเขาทอดยาวสูงๆ ต่ำๆ ติดกันเป็นลูกคลื่น ป่าไม้เขียวชอุ่ม ความรู้ด้านภูมิศาสตร์ของเชียนโม่ไม่นับว่าแย่ ความรู้สึกในการแยกแยะทิศทางก็ไม่เลว หลังออกจากถงซานมา เรือก็น่าจะแล่นมาตามแม่น้ำฉางเจียงไปทางตะวันตก ตอนนี้มาถึงไหนแล้ว
“ซย่า” ซังบอกเธอ
เชียนโม่งุนงง คิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอจำไม่ได้ว่ามีชื่อสถานที่เช่นนี้
ขณะกำลังเบิ่งตามองอยู่นั้นพลันมีเสียงพูดคุยดังมาจากด้านหลัง เธอหันหน้าไป พอเห็นเป็นฉู่หวังก็ตะลึงงัน
เขาสวมชุดปกติธรรมดา ดูอ่อนโยนน่าใกล้ชิดขึ้นบ้าง แต่ยังคงมีกลิ่นอายน่าเกรงขามแผ่ออกมา
ดวงตาทั้งสี่สบประสานกัน เชียนโม่มองเขา ยามกะทันหันไม่รู้ควรทำเช่นใด
“รีบทำความเคารพ!” ซังรีบดึงเสื้อเธอแล้วเอ่ยเสียงต่ำ
เชียนโม่ได้สติ ทำตามอย่างซัง ก้มหน้าคุกเข่าลง
“ไม่ต้องแล้ว” ฉู่หวังสีหน้าราบเรียบ มองเชียนโม่แวบหนึ่ง “อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง”
เชียนโม่คุกเข่าลงไปได้ครึ่งหนึ่ง จำต้องยืดตัวกลับ “ไม่เป็นไรมากแล้วเพคะ”
“เดิมทีก็ไม่เป็นไรมากอยู่แล้ว” ฉู่หวังกล่าวต่อ “อีกไม่กี่วันเมื่อถึงนครอิ่งตูแล้วก็จะต้องกรีธาทัพ เดินทางไหวหรือไม่”
เชียนโม่แอบค้อนอยู่ในใจ
“ไหวเพคะ”
ฉู่หวังส่งเสียงอืมออกมาคำหนึ่ง
เชียนโม่ยืนก้มหน้าอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าฉู่หวังไม่มีทีท่าว่าจะพูดต่อไปอีก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเดินจากไปเช่นกัน
เธอช้อนตาขึ้นเล็กน้อย พบว่าเขาก็เอามือจับกราบเรือมองทิวทัศน์อยู่ ไม่ต่างอะไรกับท่าทางเมื่อครู่ของเธอ
เชียนโม่รู้สึกอึดอัดใจ สภาพการณ์ในตอนนี้นับว่าอย่างไร เธอก็อยากชมทิวทัศน์เช่นกัน เขายืนอยู่ตรงนี้ เธอจะดูได้อย่างไร หรือจะให้เธอยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆ เช่นนี้ไปตลอด
เชียนโม่ชำเลืองไปทางซัง กลับเห็นนางยืนอย่างสงบนิ่ง คล้ายเคยชินแล้ว เชียนโม่ย่นหัวคิ้ว เธอไม่อยากยืนคอยปรนนิบัติฉู่หวังเหมือนสาวใช้คนหนึ่ง หาไม่ก็หาข้ออ้างอะไรสักอย่างแล้วไปจากที่นี่เสียก็แล้วกัน…