“กว่าเหรินไม่เป็นไร” ฉู่หวังพูดจาช้ากว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่อ่อนแรง สีหน้าของเขาออกจะซีด แต่ดวงตาทั้งสองดูมีกำลังฮึกเหิม “พวกท่านไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ยังคงทำตามแผนที่ตกลงกันไว้ พรุ่งนี้ถอนค่ายออกเดินทาง ยกทัพไปปราบยง!”
ทุกคนได้ยินฉู่หวังตรัสเช่นนี้ก็พากันรับคำ
ฉู่หวังโบกๆ มือ ทุกคนต่างไม่กล้ารั้งอยู่ต่อ พากันล่าถอยออกไป
โต้วเจียวยังอยากจะพูดอะไรอีก เสี่ยวเฉินฝูก้าวออกมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “ซือหม่า ต้าหวังติดโรคไข้จับสั่น ยังต้องทำการรักษา ซือหม่ายังคง…” เขาเน้นย้ำคำว่าไข้จับสั่นเล็กน้อย โต้วเจียวสีหน้าแปรเปลี่ยน มองฉู่หวังแวบหนึ่งแล้วหมุนตัวเดินออกไป
ในที่สุดในห้องก็เงียบสงบลง เชียนโม่ประคองฉู่หวังกลับลงนอนอีกครั้ง
เมื่อครู่เห็นชัดว่าเขาแข็งใจประคองตัวไว้ หลังจากนอนลงก็กลับไปอยู่ในสภาพอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเช่นก่อนหน้านี้ทันที เชียนโม่คลำๆ หน้าผากของเขา ยังคงร้อนแทบลวกมือ
เพิงที่พักทางด้านโน้นยังมียาน้ำอยู่ ซื่อเหรินฉวีไปแบ่งเอามา เชียนโม่ให้เสี่ยวเฉินฝูยกศีรษะฉู่หวังขึ้นเล็กน้อยแล้วป้อนยาไปที่ปากของเขา
“ต้าหวัง เสวยพระโอสถ” เสี่ยวเฉินฝูเอ่ยเสียงนุ่มนวลอยู่ด้านข้าง
ฉู่หวังลืมตาขึ้นมา สายตากลับจับนิ่งอยู่ที่ใบหน้าเชียนโม่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่า…ที่กว่าเหรินล้มป่วยอยู่นี้ ติดมาจากถงซานหรือ” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว
เชียนโม่แปลกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะถามเรื่องนี้ “ใช่เพคะ”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร”
เชียนโม่พูดไม่ออก ตอนอยู่โรงเรียน ชมรมที่เธอเป็นสมาชิกเคยจัดให้มีการฝึกอบรมหัวข้อพิเศษเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของชุมชนหลายครั้ง ไข้มาลาเรียเป็นโรคที่พบได้บ่อย ความรู้พื้นฐานทั่วไปเธอยังมีอยู่บ้าง ตอนนั้นข้อแนะนำของอาจารย์ที่มาอบรมก็คือเมื่อได้รับเชื้อไข้มาลาเรียให้รีบส่งโรงพยาบาล แต่อยู่ที่นี่ก็คงได้แต่ใช้ตำรายาของคุณย่ามารักษา
เรื่องเหล่านี้เธอจนปัญญาจะอธิบายให้ฉู่หวังเข้าใจได้ ได้แต่บอกว่า “โรคนี้ก็เป็นเช่นนี้ คนที่ถ่ายทอดตำรายาให้ข้าเป็นคนบอก”
ฉู่หวังมองนาง ไม่ได้พูดอะไรอีก ครู่หนึ่งก็ประคองถ้วยดื่มยาลงไป
“ขม…” เพิ่งดื่มได้สองคำ ฉู่หวังก็นิ่วหน้า เบือนหน้าหนี
เชียนโม่จนปัญญา จำต้องเติมน้ำลงไปเล็กน้อยแล้วป้อนต่อ
กว่าฉู่หวังจะดื่มยาหมดแล้วกลับนอนลงไป เชียนโม่เองก็เหงื่อท่วมตัว ซื่อเหรินฉวีหยิบเสื้อผ้าแห้งมา เปลี่ยนเสื้อที่ชื้นไปด้วยเหงื่อให้ฉู่หวังแล้วห่มผ้าห่มให้ใหม่ รอจนจัดการทุกอย่างเสร็จ เชียนโม่ก็กลับเข้ามา เอาผ้าที่ชุบน้ำเย็นบิดหมาดมาวางไว้บนหน้าผากให้เขา
ฉู่หวังคล้ายรู้สึกสบายขึ้นแล้ว ใบหน้าดูสงบขึ้น ไม่นานก็หลับไป
เชียนโม่นั่งอยู่ข้างๆ มองเขา แต่ร่างกายก็เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าเต็มที
เวลาดึกโขแล้ว เสี่ยวเฉินฝูเดินเข้ามา “แรงงานหญิงโม่ คืนนี้เจ้า…”
“ข้าจะเฝ้าอยู่ที่นี่” เชียนโม่เอ่ยเสียงเรียบ
สีหน้าของเสี่ยวเฉินฝูดูผ่อนคลายลง มองนางแวบหนึ่ง แล้วหันไปจัดสรรผู้ติดตามให้เฝ้าเวรยาม