เธอได้ยินว่าการออกเดินทางครั้งนี้ก็จะไปปราบปรามแคว้นยงแล้ว แคว้นยงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ นั่นก็หมายความว่าอีกไม่นานกองทัพของทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องประจันหน้ากัน เรื่องเข้าสนามรบไม่ได้อยู่ในแผนการของเชียนโม่ อาการป่วยของฉู่หวังไม่เป็นไรแล้ว เธอไม่น่าจะต้องติดตามไปด้วยแล้วกระมัง เดิมทีเธอคิดว่าเธอทำหน้าที่ของตนเสร็จสิ้นแล้ว วันนี้ก็จะบอกฉู่หวังขอแยกจากไป…
“แรงงานหญิงโม่!” เสียงซื่อเหรินฉวีดังขึ้น เขาหันมากวักมือให้ “เจ้ายืนอยู่ตรงนั้นทำอะไร ต้าหวังจะขึ้นรถแล้ว รีบไปเตรียมตัว!”
เชียนโม่รับคำ จำต้องเดินเข้าไป
ฉู่หวังแม้จะดีขึ้นแล้ว จะอย่างไรก็ล้มป่วยหนัก ร่างกายยังอ่อนแอ การออกเดินทางในครั้งนี้เขาไม่นั่งราชรถที่ดูมีสง่าน่าเกรงขามอีก หากแต่เปลี่ยนมานั่งรถอัน* ที่สี่ด้านปิดมิดชิด นั่งได้นอนได้ บรรดาซื่อเหรินได้เอาผ้าห่มหนาๆ มาปูไว้ในรถ เพื่อฉู่หวังจะได้พักผ่อนได้สะดวก ทั้งเอายาที่เคี่ยวเสร็จแล้วใส่ไว้ในโถทองแดง เตรียมไว้ดื่มระหว่างทาง
ทุกสิ่งจัดเตรียมพร้อมสรรพ เมื่อฉู่หวังมาถึง มองๆ การจัดวางภายในรถแล้วก็เหยียดมุมปากออกอย่างน้อยครั้งจะได้เห็น
ว่ากันตามสัตย์จริง การล้มป่วยในครั้งนี้ทำให้ปณิธานความมุ่งมั่นของเขาหดหายไปมาก เขากรีธาทัพมาด้วยตนเองก็เพื่อสร้างอานุภาพ รวบรวมจิตใจผู้คน เขาปรารถนาจะเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นที่มีความเข้มแข็งเด็ดขาด บุกไปทางไหนข้าศึกก็แหลกราบไปทางนั้นในสายตาของทุกคน ทว่าคนคำนวณจะอย่างไรก็ไม่สู้ฟ้าลิขิต เขาถึงกับเกือบจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว
“ต้าหวัง เชิญเสด็จขึ้นรถพ่ะย่ะค่ะ” คนขับรถประสานมือแล้วเอ่ยขึ้น
ฉู่หวังขึ้นนั่งบนรถ กวาดตามองไปรอบด้าน เห็นในอ่างเคลือบที่มุมหนึ่งมีผ้าเปียกวางอยู่ ความทรงจำเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมา แววตาของเขาสั่นไหว
ก็ใช่จะเลวร้ายไปเสียทั้งหมด…ในใจมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“แรงงานหญิงโม่…” ในเวลานี้เองมีเสียงคนทักทายกันดังมาจากด้านนอก ฉู่หวังรีบหันหน้าไปทันที
เชียนโม่เดินเข้ามาพลางมองฉู่หวัง
“ต้าหวัง ข้ามีเรื่องจะกราบทูล” เชียนโม่กล่าว ในดวงตามีแววกังวลใจรำไร
ฉู่หวังประหลาดใจ สีหน้าอ่อนโยนอย่างน้อยครั้งจะได้เห็น “เรื่องอันใด”
“ก่อนหน้านี้ต้าหวังเคยให้คำมั่นกับข้า หากข้ารักษาโรคไข้จับสั่นได้ก็จะส่งข้ากับพวกอีกสิบหกคนกลับซู” เชียนโม่เม้มปาก พยายามทำให้ตนเองดูเป็นมิตรและมีความสามารถในการเกลี้ยกล่อม “บัดนี้ข้ารักษาโรคไข้จับสั่นเรียบร้อยแล้ว ต้าหวังโปรดปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้วย”
สายตาของฉู่หวังมองจ้องเขม็ง
“เจ้าจะจากไป?” เสียงของเขาแยกไม่ออกว่าพอใจหรือไม่พอใจ
เชียนโม่ผงกศีรษะ
“กว่าเหรินไม่อนุญาต!”
หัวใจของเชียนโม่จมดิ่ง “เพราะเหตุใด”
“กว่าเหรินยังไม่หายดี”
* รถในสมัยโบราณมีทั้งแบบนั่งและแบบยืน รถอันเป็นรถนั่งขนาดเล็กสำหรับขุนนางและสตรีชนชั้นสูง โดยทั่วไปใช้ม้าลากตัวเดียว หากมียศสูงจะใช้ม้าลากสี่ตัว