ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม บทที่ 10 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม บทที่ 10

สวีหรูไม่ชอบวัดเสียงอวิ๋น ที่นั่นสกปรกแล้วก็เสียงดัง ทั้งยังเต็มไปด้วยคนชั้นต่ำ ทำให้นางแปดเปื้อน โดยเฉพาะกลิ่นหอมฉุนที่กระจายอยู่ทั่ววัด ทำให้นางยากจะทนไหวมากที่สุด แต่เพราะท่านพ่อบอกนางว่าหลีจวินจะคุ้มกันไปส่ง ทำให้นางอยากใช้โอกาสนี้เข้าใกล้ทำตัวสนิทสนมกับเขา นางจึงยอมทำตาม หนำซ้ำยังตั้งใจแต่งตัวมาเป็นพิเศษ

“เจ้ากับคุณชายหลีรู้จักกันมาก่อนจริงหรือ” ทว่าทุกอย่างกลับไม่เหมือนที่นางคาดเอาไว้ ระหว่างทางหลีจวินไม่ได้มาดูแลนางแม้แต่น้อย ทำให้สวีหรูผิดหวังมาก นางมองหน้ามู่หวั่นชิวที่หลับตาครุ่นคิดสงบนิ่งราวกับผืนน้ำอยู่ข้างกาย ก็ไล่ถาม “ทำไมเขาไม่มาพูดคุยกับพวกเราเลย” จากนั้นจึงพลิกเปิดมุมม่านรถ แอบมองรถม้าคันหน้าที่เคลื่อนไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เสียงเอี๊ยดอ๊าดฟังเสนาะหู แล้วหันไปสั่งมู่หวั่นชิว “เจ้าไปตามเขามาที”

มู่หวั่นชิวขยับหัวคิ้ว แต่ไม่ได้พูดจา

“เจ้า…”

มานั่งรถม้าคันเดียวกับตนได้ ถือว่านางลดตัวให้มากแล้ว ก็แค่คนชั้นต่ำที่มีอาคมคาถาคนหนึ่ง กล้าไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเช่นนี้หรือ!

เผชิญหน้ากับมู่หวั่นชิวที่นิ่งเงียบไม่พูดจา สวีหรูพลันสีหน้าแดงก่ำในทันที

ถลึงตามองด้วยความโกรธอยู่นาน นางจึงยกมือฟาดออกไป…

มือนั้นชะงักอยู่ตรงระยะห่างหนึ่งนิ้วจากแก้มของมู่หวั่นชิว ความรู้สึกที่ถูกห้านิ้วราวคีมเหล็กของมู่หวั่นชิวบีบอยู่นั้นยังคงปรากฏตรงหน้า นางถลึงตามองมู่หวั่นชิวด้วยความโกรธ พลางเม้มริมฝีปากแน่น

มู่หวั่นชิวลืมตาขึ้นในเวลาเดียวกัน สี่ตาสบประสาน มู่หวั่นชิวกวาดตามองมือของสวีหรูอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง สวีหรูจึงรีบดึงมือตัวเองไปซ่อนไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว

มู่หวั่นชิวจึงค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง ไม่ได้สนใจสวีหรูอีก

“เจ้าพูดบ้างสิ” คิดถึงคนในรถม้าข้างหน้าแล้ว สวีหรูพลันรู้สึกว้าวุ่นใจ นางทนไม่ไหวกับความเงียบอันไร้ขอบเขตภายในรถม้านี้ นั่งนิ่งได้ไม่ถึงครึ่งเค่อ ก็ส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณหนูพูดหนวกหูเกินไปแล้ว” มู่หวั่นชิวไม่ได้ขยับเปลือกตา

“เจ้า!” สวีหรูมองนางหน้าแดงก่ำ แต่ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างทันที “เจ้าแอบรักเขาไปก็ไร้ประโยชน์ ท่านพ่อข้าบอกแล้วว่าอีกสักระยะจะพูดเรื่องแต่งงานของข้า จะให้ข้าแต่งงานกับเขา” สวีหรูพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

ท่านพ่อนางเป็นเจ้าเมือง เป็นขุนนางที่ใหญ่เทียมฟ้า ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้

มุมปากขยับเล็กน้อย มู่หวั่นชิวพลางยิ้มเยาะในใจ การแต่งงานของเขาใช่ว่าจะขึ้นอยู่กับพ่อของเจ้าสักหน่อย…

“ข้าขอบอกเจ้า พอข้าแต่งเข้าบ้านแล้ว จะไม่ยอมให้เขาได้มีอนุเด็ดขาด!” ถลึงตามองมู่หวั่นชิวที่นิ่งไม่ไหวติงแล้ว สวีหรูก็พูดอย่างดุดัน

ในสายตานาง หญิงสาวผู้นี้ที่คิดหาทุกหนทางเพื่อแสดงฝีมือการเล่นพิณต่อหน้าหลีจวินในคืนนั้น ก็เพราะอยากปีนขึ้นเตียงของเขา อยากเป็นอนุของเขาเป็นแน่ สวีหรูคิดว่า มู่หวั่นชิวมีฐานะต่ำต้อยเช่นนี้ ตำแหน่งภรรยาเอกคงไม่กล้าคิดถึง

“ยินดีกับบุพเพมงคลของคุณหนูกับเขาด้วย” มู่หวั่นชิวพูดเสียงเรียบ เหมือนกับน้ำที่ไม่อุ่นไม่เย็น

เดิมเป็นคำอวยพรประโยคหนึ่ง แต่เพราะพูดอย่างสงบนิ่งเกินไป สวีหรูฟังแล้วจึงรู้สึกเสียดแทงหูอย่างยิ่ง ไม่รู้เพราะเหตุใด ทั้งที่คนตรงหน้าเป็นเพียงคนชั้นต่ำคนหนึ่ง เป็นหญิงสาวที่ทั้งดำและผอม ไม่อาจเทียบกับนางที่สูงศักดิ์กว่าได้เลย นางที่มีฐานะสูงไม่จำเป็นต้องใส่ใจแม้แต่น้อย ทว่านางกลับถูกความสงบนิ่งราวกับมองเห็นทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ และความไม่แยแสเหนือคนธรรมดาทั่วไปของอีกฝ่ายนั้นกระตุ้นให้นางรู้สึกโมโหขึ้นมา

นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ที่แท้ความสงบนิ่งถึงขีดสุดนั้นก็เป็นการอวดอ้างอย่างหนึ่ง

เหตุใดมู่หวั่นชิวจึงไม่เหมือนคนข้างกายนางเหล่านั้นที่ยอมศิโรราบให้ ทั้งยังเชื่อฟังคำทุกอย่าง…

หรือเพราะมู่หวั่นชิวมีเงินมหาศาล?

ความคิดแล่นผ่านในหัว สวีหรูพลันคิดถึงคำสั่งของบิดาก่อนที่จะออกมา นางจึงหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าอย่าได้ใจไป ท่านพ่อข้าบอกว่า…”

จู่ๆ เสียงพูดก็หยุดลง

บิดานางบอกว่าหลังจากส่งคุณชายหลีไปแล้ว ก็จะรับไป๋ชิวเป็นอนุ จึงอยากให้นางคอยจับตาดูมู่หวั่นชิวไว้ตลอดทาง แต่พอคำพูดมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก สวีหรูจึงนึกถึงคำสั่งของบิดาได้ว่า… ‘จะให้ความลับรั่วออกไปมิได้’

หลังจากกลืนคำพูดลงท้องไปแล้ว สวีหรูก็ยังรู้สึกไม่สาแก่ใจ นางคิดถึงภาพเรือนด้านหลังจวนว่าการเจ้าเมือง ชีวิตรันทดของอนุที่บิดาของนางเบื่อแล้วก็กำหมัดแน่น แอบคิดในใจว่า ปล่อยให้เจ้าได้ใจไปก่อนเถอะ รอจนเจ้าไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว จะคอยดูว่าอย่างเจ้าน่ะหรือจะไม่มาคุกเข่าขอร้องข้า!

พอรับรู้ถึงความเย็นยะเยือก มู่หวั่นชิวจึงลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ ภาพที่สวีหรูกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันก็ปรากฏแก่สายตา จึงแอบคิดในใจว่า…เห็นที ใต้เท้าสวีไม่คิดจะปล่อยข้าไปจริงๆ!

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com