ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม บทที่ 11
เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน มู่หวั่นชิวก็ได้หาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งไว้เพื่อพักผ่อน
หนีจากจวนว่าการเจ้าเมืองได้สำเร็จ ในคืนนี้มู่หวั่นชิวจึงหลับสบายอย่างมาก
เมื่อลืมตาตื่น ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นสูงแล้ว นางรีบลุกขึ้นมา คลำดูตั๋วเงินใต้หมอนและตำราวิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ยในอกเสื้อ เมื่อพบว่าทุกสิ่งล้วนยังอยู่ มู่หวั่นชิวจึงรู้สึกโล่งใจ ค่อยยิ้มออกมา ตั้งแต่ออกมาจากบ้านจู้จื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่หลับสนิทแบบนี้ ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
“คุณหนูตื่นเสียที…” โม่เสวี่ยยกน้ำอ่างหนึ่งเข้ามา ปรนนิบัติให้นางล้างหน้าแล้ว โม่เสวี่ยก็หยิบชุดที่นางใส่เมื่อวานออกมา ซึ่งเป็นชุดที่ซักจนซีดขาว “เหตุใดคุณหนูถึงชอบใส่เสื้อแบบนี้ล่ะเจ้าคะ” เห็นมู่หวั่นชิวหันมาอย่างประหลาดใจ จึงอธิบายว่า “บ่าวได้ยินท่านแม่บอกว่า ท่านเข้าไปในร้านป๋ออี้วันนั้น ก็สวมชุดแบบนี้”
รับเสื้อผ้ามาแล้ว มู่หวั่นชิวก็ยิ้มออก
นางชอบใส่ชุดเก่าขาดเสียที่ไหนกัน แต่ชุดนี้เป็นชุดที่เปลี่ยนกับหญิงสาวในวัดเมื่อวานคนนั้นต่างหาก ก่อนหน้านี้นางตัดชุดไว้แล้วหลายชุด ทว่าน่าเสียดาย เพราะเกรงว่าใต้เท้าสวีจะสงสัยจึงทิ้งไว้ที่จวนว่าการเจ้าเมืองทั้งหมด เมื่อวานนี้นอกจากตั๋วเงินและชุดที่เมียหม่าหย่งทำให้แล้ว นางก็ไม่ได้นำอะไรติดตัวมาเลย
“คุณหนูกินอาหารก่อนเถอะขอรับ ใกล้จะเย็นแล้ว…” เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ โม่อวี่ก็เคาะประตู ก่อนจะยกอาหารเดินเข้ามา “ท่านลุงหลี่เตรียมรถม้าเรียบร้อยแล้ว ถามว่าท่านจะออกเดินทางเมื่อใดขอรับ”
ท่านลุงหลี่คือคนบังคับรถม้าที่ท่านแม่ของโม่อวี่จ้างมาให้ มีชื่อว่าหลี่เฉิน
เดินมาที่หน้าต่าง เห็นรถม้าเตรียมเสร็จแล้ว หลี่เฉินคนบังคับรถกำลังนั่งดูดกระบอกยาสูบอยู่ข้างตัวรถ มู่หวั่นชิวคิดสักครู่ จึงหันมาสั่งโม่อวี่ “ไปบอกเขาว่า พวกเราจะไปเดินเล่นในตัวตำบลก่อน ให้เขาพักผ่อนเถอะ”
ในตัวมีเงินอยู่ มู่หวั่นชิวก็ไม่อยากทำให้ตัวเองลำบาก จึงพาโม่เสวี่ย โม่อวี่ มายังร้านผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดในตำบล เพื่อไม่ให้เป็นการโอ้อวดเหมือนในชาติก่อน นางจึงเลือกเสื้อผ้าหลายชุดที่สีค่อนข้างเรียบ แต่เนื้อผ้าและการตัดเย็บนั้นประณีตมาก และยังซื้อเสื้อผ้าให้โม่เสวี่ย โม่อวี่ คนละสองชุด ออกจากร้านผ้าไหมแล้ว มู่หวั่นชิวก็ไปที่ร้านขายเครื่องสำอางต่อ…
เดินเล่นวนรอบหนึ่ง ทั้งสามก็กินอาหารกันในตัวตำบล กลับถึงโรงเตี๊ยมก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว หลี่เฉินเดินเข้ามาหาอย่างนอบน้อม “วันนี้แม่นางไป๋ยังจะออกเดินทางอีกหรือ”
“ทำไมหรือ” เหตุใดวันนี้จะออกเดินทางไม่ได้…มู่หวั่นชิวรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
“ข้าน้อยถามดูแล้ว จากที่นี่เดินทางลงใต้ ยังมีอีกสามสิบกว่าลี้จึงจะพักกินอาหารที่ตำบลถัดไปได้ ถ้าเดินทางเดี๋ยวนี้ เกรงว่าฟ้ามืดแล้วจึงจะไปถึง”
“อ้อ…” ส่งเสียงตอบรับแล้ว มู่หวั่นชิวก็มองท้องฟ้า “เช่นนั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ” จากนั้นหันมาสั่งโม่อวี่ “ยกของขึ้นรถเลยก็แล้วกัน”
โม่อวี่รับคำอย่างรวดเร็ว
“เดินเล่นมาเกือบสองชั่วยาม คุณหนูคงเหนื่อยแล้ว พักที่นี่สักคืนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยเดินทางดีหรือไม่เจ้าคะ” โม่เสวี่ยเสนอความเห็น เดินเล่นมาตลอดเช้า คุณหนูคงจะเหนื่อยแล้ว
ที่สำคัญก็คือ โม่เสวี่ยอยากจะลองเสื้อใหม่ทันที
โม่อวี่ชะงักฝีเท้ามามองหน้ามู่หวั่นชิว
หลี่เฉินแววตาเปล่งประกาย มองนางอย่างรอคอยเช่นกัน
ของใช้ประจำวันเหล่านั้นล้วนจำเป็นต้องซื้อ นางจึงเสียเวลาไปบ้าง มาหยุดอยู่ในโรงเตี๊ยมแบบนี้ มู่หวั่นชิวก็กลัวว่าใต้เท้าสวีจะส่งคนไล่ตามทางมาจนทัน เมื่อเงยหน้ามองดวงตะวันแล้วจึงยืนยันคำเดิม “ไปกันเถอะ”
โชคดีที่เตรียมรถม้าไว้พร้อมแล้ว หลี่เฉินเร่งลงแส้ม้า ถึงตำบลถัดไปท้องฟ้าก็เพิ่งจะเริ่มมืด ยังพอเห็นเงาคนอยู่บ้าง คนทั้งหมดจึงหาโรงเตี๊ยมใหญ่แล้วเข้าพักทันที
หลังจากกินอาหารเย็นแล้ว มู่หวั่นชิวก็นั่งพิงเตียงใหญ่ในโรงเตี๊ยม มองดูโม่อวี่และโม่เสวี่ยลองเสื้อใหม่ด้วยรอยยิ้ม
“ลายดอกบนแขนเสื้อข้าสวยกว่าของเจ้าเสียอีก สีก็สวย!” โม่เสวี่ยดึงแขนเสื้อมาให้โม่อวี่ดู ใบหน้าเล็กแดงอมชมพู ไม่มีท่าทางเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย
เด็กครอบครัวยากจนไม่แบ่งแยกชายหญิง พวกเขาที่เป็นฝาแฝดจึงใส่ชุดเหมือนกันตั้งแต่เด็ก มู่หวั่นชิวเห็นพวกเขาโตแล้ว จึงตั้งใจซื้อแยกชุดชายหญิง เลือกซื้อเสื้อลายดอกให้โม่เสวี่ย สิ่งนี้ทำให้โม่เสวี่ยที่ต้องใส่เสื้อสีเทาตามพี่ชายมาตลอดดีใจเป็นอย่างมาก
“ชิ!” โม่อวี่ส่งเสียงไม่พอใจ “มีแต่สตรีจึงจะสวมชุดลายดอกแบบนี้” โม่อวี่ยืดอก รู้สึกว่าเสื้อบนตัวเขาดูสมชายชาตรีมากกว่า
“พี่ชาย!” ดวงตาดำของโม่เสวี่ยมีม่านน้ำในทันที นางเบือนหน้าหนี “ข้าก็เป็นเด็กหญิงอยู่แล้วนี่นา”
โม่อวี่ตกตะลึง เขามองน้องสาวอย่างงุนงง เพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางนั้นเป็นเด็กหญิง จึงเกาหัว แล้วดึงมือโม่เสวี่ยมาด้วยคิดจะเอ่ยปลอบ ปลายตาเหลือบไปเห็นมู่หวั่นชิวกำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม จึงรู้สึกขัดเขินขึ้นมา
“พอแล้วๆ” เห็นใบหน้าของโม่อวี่แดงขึ้นเช่นกัน มู่หวั่นชิวจึงเอ่ยปากพูด “เสื้อพวกเจ้าล้วนสวยทุกตัว” ก่อนเลื่อนสายตามองไปนอกหน้าต่าง “ดึกแล้ว รีบพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องเร่งเดินทางอีก”
ไปถึงเมืองซั่วหยางเร็วหน่อย นางก็สามารถหาที่อยู่ได้เร็วขึ้น
“บ่าวจะเก็บของเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” ตอบรับคำอย่างรวดเร็วแล้ว โม่เสวี่ยก็สะบัดมือโม่อวี่ออก แล้วปีนขึ้นเตียงไปปิดม่านหน้าต่าง