ทดลองอ่าน
ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่มห้า บทที่ห้า
ตรวจสอบทีละห่ออย่างละเอียดแล้ว หร่วนอวี้ก็หยิบขึ้นมาหนึ่งห่อ ลงมืออย่างชำนาญเพียงขยับไม่กี่ทีก็เปิดห่อได้แล้ว เม็ดหอมสีชมพูสิบเม็ดพลันปรากฏตรงหน้า ไม่ต้องดม เพียงแค่ดูก็พบว่าระดับความเนียนความเงาของผิวภายนอกนั้น แตกต่างกับตัวอย่างที่เขาได้มาราวฟ้ากับดิน
หร่วนอวี้ปิดหีบ แต่นิ้วมือกลับชะงักไป หยิบเม็ดหอมอีกเม็ดหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่วางใจ ห้านิ้วบีบเบาๆ ก็กลายเป็นผงในทันที ก่อนจะเลียนแบบวิธีของหลิ่วอู่เต๋อ เพียงชั่วครู่ก็มีควันดำลอยออกมาจากฝ่ามือ กลิ่นหอมสดชื่นจางๆ กระจายออกมา
กลิ่นจากเม็ดหอมเศร้าอาดูรของมู่หวั่นชิวถูกเขาจำฝังลึกลงในกระดูกแล้ว เพียงสูดหายใจหร่วนอวี้ก็รู้ว่าเม็ดหอมนี่ไม่ได้มาจากฝีมือของนางแน่นอน เขาคว่ำมือลง เรียกองครักษ์ให้หยิบเม็ดหอมเม็ดหนึ่งที่มีขนาดรูปร่างสีสันเหมือนกันทุกอย่างออกมาจากถุงใส่ของเติมเข้าไปแทน แล้วสั่งการโดยไม่สนสายตาตื่นตกใจของอู่ซูซิงว่า “ปิดผนึก…”
มีองครักษ์เปิดหีบอีกใบหนึ่งไว้แล้ว หร่วนอวี้ใช้วิธีการตรวจสอบเช่นเดียวกัน จากนั้นก็สั่งให้ปิดผนึกอีก
คนที่พาออกมาล้วนเป็นยอดฝีมือที่ชำนาญ ทำงานเรียบร้อย อู่ซูซิงตามไปดูอยู่ครู่ใหญ่ หีบที่ถูกปิดผนึกมองไม่ออกถึงร่องรอยว่าเคยถูกแตะต้องมาก่อน เขาจึงถอนหายใจยาว แอบเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
เพียงพริบตาก็แกะไปแล้วยี่สิบกว่าหีบ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีก ที่นี่ล้วนเป็นเม็ดหอมของหลี่หานปิง
หัวคิ้วของหร่วนอวี้ขมวดเป็นปม
หรือเขาจะเดาผิดอีกแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นเขาที่คิดมากไปเอง หลีจวินไม่ได้เจ้าเล่ห์ถึงเพียงนั้นหรือ…
“ใต้เท้ารีบมาดูสิขอรับ” หร่วนอวี้รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง กำลังคิดว่าจะหยุดมือดีหรือไม่ เสียงตื่นเต้นยินดีขององครักษ์ที่รับผิดชอบเปิดหีบก็ดังลอยมา
หร่วนอวี้หัวใจเต้นกระตุก ก้าวยาวเข้าไป พอสายตาตกกระทบบนห่อเม็ดหอม เขาก็ตื่นเต้นยินดีจนแทบส่งเสียงร้องออกมา
ไม่ต้องเปิดห่อดูเขาก็รู้ เพราะภายในหีบตรงหน้านี้มีของวางเรียงเป็นเป็นระเบียบไว้หนึ่งแถว บนมุมขวาบนเขียนอักษรบรรจงคำว่าไป๋เอาไว้
‘ไป๋’ ย่อมหมายถึง ‘ไป๋ชิว’ ไม่มีข้อสงสัยใดอีกแล้ว กล่องนี้มาจากฝีมือมู่หวั่นชิวนั่นเอง
หลีจวินสอดเครื่องหอมตัวอย่างจริงไว้ในเครื่องหอมชุดนี้จริงดังคาด! หร่วนอวี้คิดอย่างตื่นเต้น
แม้จะควบคุมสติได้หลังจากที่พิสูจน์การคาดเดาของตนเองได้สำเร็จแล้ว นิ้วมือของหร่วนอวี้ก็ยังสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาลงมือเปิดห่อหนึ่งทันที แม้เม็ดหอมจะมีขนาดเท่ากัน แต่สิบเม็ดนี้กลับมีสีสันงดงามกว่า มีความเนียนเงาราวกระดาษไข ไม่ต้องจุดไฟหร่วนอวี้ก็รู้ว่านี่ต้องมาจากฝีมือของมู่หวั่นชิวแน่นอน!
มีเพียงนางจึงจะสามารถทำเม็ดหอมที่เนียนเงาเช่นนี้ได้
แม้แต่กู่ฉินก็ยังทำไม่ได้
หัวใจที่ตื่นเต้นแทบเด้งกระดอนออกมา เขาปิดงับหีบลงทันที
“ยึดไว้…” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น ฟังไม่ออกว่าเสียใจหรือดีใจ
องครักษ์เดินเข้าไปลงมือจัดการทันที
“ใต้เท้า หีบนี้มีชั้นเดียวขอรับ…” องครักษ์เก็บได้เพียงหนึ่งชั้นก็เจอแผ่นไม้เสียแล้ว จึงพูดขึ้นด้วยความตกใจ
ตรวจสอบไปยี่สิบกว่าหีบ หร่วนอวี้เข้าใจดีว่าหีบใบนี้ใส่ได้สิบชั้น แต่ละชั้นบรรจุทั้งหมดยี่สิบห่อ รวมทั้งหมดสองร้อยห่อ มองดูภายนอกขนาดของหีบใบนี้กับใบอื่นๆ ก็ดูไม่ต่างกัน แล้วเหตุใดเพียงชั้นเดียวก็เจอก้นหีบเสียแล้วเล่า
ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว หร่วนอวี้ก็ตกตะลึง ก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้ง
ความเป็นจริงดูจากภายนอกหีบนี้ลึกมาก แต่กลับมีเพียงชั้นเดียว มองดูแผ่นไม้แดงที่มีสีเหมือนด้านนอกทุกอย่าง หร่วนอวี้จึงเลิกคิ้วขึ้น
“รื้อออก…” เขาสั่งการ
ทหารที่รื้อเปิดหีบเดินเข้าไป ไม่นานก็รื้อแผ่นไม้ออก ชั้นที่อยู่ด้านใต้นั้นยังมีเม็ดหอมวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ แต่ว่าตรงมุมขวาบนของห่อล้วนเป็นอักษรคำว่าไป๋
“ชั้นแทรก!”
ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน
ด้วยเหตุนี้เพราะกลัวจะทำแถบปิดผนึกเสียจนถูกตระกูลหลีเห็นพิรุธเข้า หร่วนอวี้จึงเปิดใต้กล่อง ชั้นแทรกนี้จึงถูกค้นเจอ แต่ว่าหากทำตามวิธีการทั่วไป เปิดฝาบน ข้างบนที่เรียงสินค้าลึกแปดเก้าชั้น หากไม่ตรวจโดยละเอียดเป็นใครก็คงไม่เห็นว่าชั้นล่างหีบนี้มีชั้นแทรกอยู่อีกหนึ่งชั้น และแอบใส่ตัวอย่างของจริงเอาไว้
ลงมือพลิกดูเม็ดหอมที่วางนอกชั้นแทรก หร่วนอวี้ก็หัวเราะออกมา “หลีจวินเจ้าเล่ห์จริง!”
การตรวจสอบสินค้าตระกูลหลีชุดนี้ หร่วนอวี้เตรียมการมาก่อนแล้ว ก่อนมาเขาสั่งให้คนไปขโมยเม็ดหอมเศร้าอาดูรที่หลี่หานปิงเป็นคนทำมาจำนวนมาก ตอนนี้ทุกคนลงมือพร้อมกัน ไม่นานก็สับเปลี่ยนเม็ดหอมยี่สิบห่อที่มุมขวาบนประทับอักษรคำว่าไป๋จนหมด แล้วห่อบรรจุใหม่อีกครั้ง
พลิกหีบดูแล้ว หร่วนอวี้ก็ตรวจดูอย่างละเอียดอีกรอบ เขาจึงพยักหน้าอย่างพอใจ จินตนาการถึงท่าทางหลังจากที่หลีจวินพบว่าเม็ดหอมชุดนี้ถูกสับเปลี่ยน เขายกมุมปากขึ้น เผยรอยยิ้มสดใสออกมา
“ใต้เท้า เรื่องนี้…” เห็นเขาอารมณ์ดีมาก อู่ซูซิงจึงรวบรวมความกล้าเอ่ยถาม “เช่นนี้จะได้แน่หรือ”
ถ้าตระกูลหลีพบว่าสินค้าชุดนี้ถูกเปลี่ยนของไป มิดึงเอ็นถลกหนังเขาหรอกหรือ!
“เหตุใดจะไม่ได้” หร่วนอวี้พูดอย่างอารมณ์ดีซึ่งเห็นได้ยากยิ่ง “ตระกูลหลีกล้าแจ้งความก็ให้เขาไปหาข้า!” เขาไม่สนใจอู่ซูซิง เพียงหันไปโบกมือให้เหล่าองครักษ์ “ทำต่อไป…”
ลงมืออย่างชำนาญ ไม่นานก็เจอเม็ดหอมที่ปิดผนึกด้วยอักษรไป๋อีกแปดสิบห่อในหลายกล่องที่เหลือ เมื่อเปลี่ยนแทนที่จนหมดแล้ว หร่วนอวี้จึงสั่งการว่า “ปิดผนึกให้ดี แล้วให้คนตระกูลหลีมารับสินค้า…”
หร่วนอวี้กำลังพูดอยู่ก็มีทหารรีบเดินมารายงานว่า “คุณชายหลีมาแล้วขอรับ”
“เอ่อ…” อู่ซูซิงสีหน้าซีดขาวในทันที มองหน้าหร่วนอวี้อย่างทำอะไรไม่ถูก
“มาเร็วจริง!” หร่วนอวี้แค่นเสียงเย็นชา มองดูหีบสุดท้ายที่ยังไม่ได้ปิดผนึกแล้วสั่งการว่า “ขวางเขาไว้!”
หร่วนซีรับคำ แล้วหมุนตัววิ่งออกไป
หร่วนอวี้หันไปสั่งการคนทั้งหมด “เอาหีบซ้อนให้ดี ลงมือเร็วหน่อย!” แล้วชี้ไปยังเม็ดหอมที่เปลี่ยนออกมาแล้ว “เก็บซ่อนให้ดี…”
เขารู้กำลังของหลีจวิน เกรงว่าหร่วนซีเพียงคนเดียวคงขวางไว้ได้ไม่นานเท่าใด…