ทดลองอ่าน
ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่มห้า บทที่หก
“อีกอย่าง!” อิงอ๋องสั่งการต่ออีก “ส่งคนออกไปอีกสองสามเส้นทางช่วยเหลือหร่วนอวี้กับฉางหมิ่น ไม่ว่าอย่างไรต้องสืบที่อยู่ซ่งเสียงให้ได้ สืบได้แล้วก็ฆ่าอย่าให้เหลือ…” อิงอ๋องสีหน้าเคร่งขรึม สั่งการทีละคำอย่างชัดเจน “จำไว้ว่าภารกิจนี้เป็นความลับ ต้องตัดรากถอนโคน ยอมฆ่าคนผิด แต่จะปล่อยคนที่รู้เรื่องนี้หนีรอดไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว!”
“พ่ะย่ะค่ะ…” จูชุนยืดอกขึ้นทันใด
“ส่งสารให้ฉางหมิ่น ให้เขาระวังตัวหน่อย…” น้ำเสียงอิงอ๋องผ่อนคลายลง ก่อนจะพูดอีกว่า “ปิดโรงผลิตอาวุธทหาร แล้วขนอาวุธที่ผลิตเสร็จแล้วออกไปทันที”
“วิธีการนี้ของท่านอ๋องยอดเยี่ยมมาก…” ชุยเจี๋ยพยักหน้าหงึกๆ พูดยกยอต่ออีก “ซ่งเสียงถูกช่วยไปเช่นนี้ คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือหลีจวิน แต่คิดจะจัดการกับตระกูลหลีไม่ใช่เรื่องง่ายภายในวันสองวัน ให้ฉางหมิ่นเตรียมการไว้ดีที่สุด เช่นนี้แล้วแม้เรื่องจวนหม่าหนิงจะแดงออกมา แต่หากตรวจสอบแล้วไม่มีหลักฐานใดๆ ท่านอ๋องก็สามารถกล่าวหากลับไปว่าเขาใส่ร้ายได้!”
สื่อเหวินพยักหน้าตามไปด้วย “ท่านอ๋องทำเช่นนี้เยี่ยมมาก แต่ว่า…” เขาเปลี่ยนประเด็นพูดไป “หลีจวินฉลาดเกินใคร ความคิดเจ้าเล่ห์ ถ้าให้โอกาสเขาได้หายใจ ผลลัพธ์คงยากจะคาดคิด…” ในดวงตาของเขาฉายแววโหดร้าย “รับมือกับตระกูลหลี ท่านอ๋องจะทรงออมมือไม่ได้ หากใช้น้ำอุ่นต้มกบ* มิสู้ลงมือเช่นสายฟ้าฟาดดีกว่า!”
“ใครว่าไม่ใช่เล่า” อิงอ๋องพยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้า “อย่างไรเสียตระกูลหลีก็เป็นตระกูลดังมานาน ทั้งยังคอยควบคุมการค้าของต้าโจวไว้อยู่ ในสายตาเสด็จพ่อเสด็จแม่แล้วพวกเขามีบารมีสูงมาก ถ้าหากข้าทำอะไรตระกูลหลีมากเกินไป กระทั่งเสด็จพ่อทรงเห็นพิรุธเข้า…” คิดถึงที่พระบิดาทรงเกลียดการทำลายรากกำจัดฐานเช่นนี้ที่สุด อิงอ๋องจึงส่ายหน้าอีกครั้ง
หากเป็นพ่อค้าทั่วไปเขาคงกำจัดไปนานแล้ว เหตุใดต้องเสียเวลามากเช่นนี้ด้วย
ภายในห้องเงียบสงบลง ได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตกลงพื้น
“กระหม่อมได้ยินว่าที่ตระกูลหลียืนหยัดมาได้เป็นเวลานาน ก็เพราะคางคกหยกที่ถือเป็นสัตว์วิเศษโบราณตกไปอยู่ในตระกูลหลี ถูกวางเซ่นไหว้อยู่ในหอบรรพชนตระกูลหลี…” เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ สื่อเหวินจึงพูดทำลายความเงียบ “จะกำจัดตระกูลหลี เหตุใดท่านอ๋องจึงไม่ส่งคนไปขโมยคางคกหยกนี้ออกมาเล่า ทำลายหลักภูมิพยากรณ์การเงินของตระกูลหลีนี้เสีย…” ลือกันว่าคางคกหยกนี้เป็นหยกงามตามธรรมชาติก้อนหนึ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณ รูปร่างเหมือนกับคางคกแบกกลุ่มดาวกระบวยใหญ่เหยียบเงินอยู่ทั้งสองข้าง สามารถกักลมเก็บพลังได้ และสามารถเรียกทรัพย์ได้ดี
ที่ต้องการกำจัดตระกูลหลี สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะของล้ำค่านี้ ได้ฟังคำของสื่อเหวินแล้ว อิงอ๋องก็ส่ายหน้า “หร่วนอวี้เคยลอบเข้าไปในหอบรรพชนตระกูลหลี ไม่มีคางคกหยกอะไรเลย เหล่านั้นเป็นเพียงคำเล่าลือ” เห็นสื่อเหวินจะพูดต่อ อิงอ๋องจึงหันไปทางจูชุน “…รายงานลับบอกว่ายังมีเครื่องหอมอีกชุดหนึ่งอยู่ข้างนอก มีความคืบหน้าบ้างหรือยัง”
ของล้ำค่านี้ค่อยๆ หาไปก็ได้ แต่หากจะจัดการกับตระกูลหลีให้ได้โดยเร็ว งานพระราชพิธีอภิเษกขององค์หญิงหมิงอวี้ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญ และต้องสำเร็จเท่านั้น จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด!
“กระหม่อมกำลังเร่งตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ…” จูชุนปาดเหงื่อ
“เครื่องหอมที่ผู้บัญชาการหร่วนได้มา กระหม่อมได้ดูแล้วเหนือกว่าของร้านอี้เหอไม่ใช่น้อย…” พูดถึงตรงนี้ ชุยเจี๋ยก็พูดอย่างจริงจังว่า “ถ้าร้านอี้เหอใช้ชื่อของปรมาจารย์กู่ก็ว่าไปอย่าง แต่กลับใช้ชื่อหลิ่วเฟิ่งคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิ่วซึ่งไม่เป็นที่รู้จักในวงการปรุงเครื่องหอม เทียบกับอาจารย์ไป๋ที่ร้านหลีจี้ยกขึ้นมาแม้จะไม่มีชื่อเสียง แต่อย่างไรก็มีชื่อของร้านหลีจี้ค้ำอยู่ตรงนั้น” เขาเปลี่ยนประเด็นพูดไป “ไม่ต้องพูดถึงเครื่องหอมเหนือชั้นกว่า แค่พูดถึงเรื่องชื่อเสียง เมื่อเครื่องหอมร้านหลีจี้ชุดนั้นถูกนำขึ้นบนโต๊ะขององค์หญิง เกรงว่า…” เขาส่ายหน้า น้ำเสียงเคร่งเครียดเป็นพิเศษ “ความพยายามมานานหลายปีของท่านอ๋องคงต้องไหลลงสู่ทะเลอย่างสูญเปล่าแล้ว…”
สื่อเหวินพยักหน้าเห็นด้วย
“เศษสวะจริงๆ!” อิงอ๋องตบโต๊ะอย่างแรง คำพูดแสดงความไม่พอใจต่อหร่วนอวี้ “ข้าให้เขาไปที่เมืองต้าเยี่ย ต้องการเงินให้เงิน ต้องการคนให้คน หนึ่งปีมานี้ไม่มีอะไรเจริญงอกงามก็ไม่ว่า แต่ข้ากำชับแล้วกำชับอีกถึงความสำคัญในการคัดเลือกเครื่องหอมงานพระราชพิธีอภิเษกขององค์หญิงหมิงอวี้ครั้งนี้ ให้เขาประมาทไม่ได้เด็ดขาด แต่เขาก็ยังปล่อยให้เครื่องหอมของตระกูลหลีออกมาจากเมืองต้าเยี่ยได้อีก ทำให้ข้าต้องคอยตามเช็ดก้น!”
อันที่จริงหากพูดไปแล้วนี่จะโทษหร่วนอวี้ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เป็นเพราะคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเกินไป หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นไปเฝ้าเมืองต้าเยี่ย เกรงว่าเครื่องหอมตระกูลหลีคงจะขนมาถึงเมืองอันคังนานแล้ว เห็นอิงอ๋องก่นด่าหร่วนอวี้ไม่แบ่งดำขาวเช่นนี้ จูชุนริมฝีปากขยับ แต่มีหรือจะกล้าพูดแทนหร่วนอวี้ ทำได้เพียงก้มหัวต่ำติดคอ
“ท่านอ๋องอย่ากริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ…” ชุยเจี๋ยพูดเกลี้ยกล่อม “เรื่องสำคัญตอนนี้คือจะหาเครื่องหอมชุดนั้นเจอและยึดมาได้อย่างไร”
ใครว่าไม่ใช่เล่า!
แต่จากเมืองต้าเยี่ยมาถึงเมืองอันคังนั้นมีทั้งทางบกทางน้ำทางเล็กทางใหญ่ หนทางมากมายเช่นนี้ คิดจะยึดเม็ดหอมหลายหีบที่ตั้งใจปกปิดเอาไว้จะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร
ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว อิงอ๋องก็สีหน้าเคร่งเครียด ไม่ได้พูดอะไร