ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 5 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม เล่ม 6 ตอนที่ 5

“อะไรนะ!” อ่านเอกสารที่หร่วนอวี้ยื่นมาให้จนจบ จั่วเฟิงเจ้าเมืองคนใหม่ก็ลุกพรวดขึ้นยืน “เฮยมู่เป็นเหลียนจวิ้นอ๋องของแคว้นเฉินหรือ!” เขาอ่านอีกรอบ “เป็นไปได้อย่างไร เขาเป็นคนแคว้นเฉินหรือ!”

“มารดาของเฮยมู่เป็นพี่น้องที่รักกันมากของไทเฮาแคว้นเฉินองค์ปัจจุบัน หนึ่งปีก่อนการแย่งชิงราชบัลลังก์แคว้นเฉินดุเดือด เพื่อเหลือเส้นทางไว้ด้านหลัง เฮยมู่จึงรับคำสั่งจากฮ่องเต้แคว้นเฉินซึ่งตอนนั้นยังเป็นองค์รัชทายาทมาเปิดโรงธูปไป่เยี่ยที่ต้าโจวและทำกิจการมากมาย เพราะกลัวจะถูกทางการของศัตรูพบพิรุธจึงไม่กล้าเปิดเผยฐานะ จนกระทั่งหนึ่งเดือนก่อนฮ่องเต้แคว้นเฉินขึ้นครองราชย์…” เลียนแบบคำพูดของมู่หวั่นชิวหนึ่งรอบ หร่วนอวี้ก็ขมวดคิ้วพลางพูดต่อ “ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อ แต่เหตุการณ์สำคัญหนึ่งปีในแคว้นเฉินที่แม่นางไป๋พูดมานั้นเหมือนกับข่าวที่สายลับสืบมาได้ และยังละเอียดกว่าอีกด้วย”

ไม่ใช่คนในราชวงศ์ คงไม่มีทางรู้ความลับมากมายอย่างนี้

“มิน่าเล่าเขาจึงไม่ออกหน้าในการปรุงเครื่องหอมขององค์หญิงหมิงอวี้ ที่แท้เขาก็เป็นคนแคว้นเฉิน” ได้ฟังคำพูดของหร่วนอวี้ และเห็นเอกสารในมือที่ประทับตราแคว้นเฉินจริงๆ จั่วเฟิงก็เชื่อว่าที่เฮยมู่เป็นคนแคว้นเฉินนั้นเป็นเรื่องจริง

“เบื้องหลังที่หนักแน่นอย่างนี้ จะแตะต้องโรงธูปไป่เยี่ยส่งเดชไม่ได้แล้ว” หร่วนอวี้น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล

เฮยมู่มีศักดิ์สูงเป็นถึงเหลียนจวิ้นอ๋องแห่งแคว้นเฉิน หากทางการต้าโจวไปแตะต้องกิจการของเขา ก็เท่ากับเป็นปรปักษ์กับแคว้นเฉิน ดีไม่ดีอาจกลายเป็นชนวนให้สองแคว้นต้องต่อสู้กัน

อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้จะเป็นอิงอ๋อง หากไม่มีข้ออ้างที่เพียงพอก็ไม่กล้าไปกดดันโรงธูปไป่เยี่ยอย่างที่เคยทำอีกแน่

จั่วเฟิงถอนหายใจ “เฮยมู่กับตระกูลหวงผู่และตระกูลหลีล้วนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน พวกเราแยกไม่ออกจริงๆ ว่าเขาเป็นศัตรูหรือมิตร…”

หร่วนอวี้พูดอย่างจนใจ “สำหรับเฮยมู่ ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงดึงมาเป็นพวกแล้ว”

จั่วเฟิงพยักหน้า “ข้าจะร่างหนังสือถึงอิงอ๋องทันที รอดูความเห็นของเขา”

หน้าที่ติดต่อกับอิงอ๋องปกติจะเป็นงานของหร่วนอวี้ พอได้ฟังคำพูดนี้แล้ว สายตาของเขาก็ฉายความดุร้ายทันที แต่แล้วก็พยักหน้า “ใต้เท้าจั่วลำบากแล้ว”

จั่วเฟิงคืนเอกสารทะเบียนเรือนของเฮยมู่ให้หร่วนอวี้ “เอาเอกสารสัญญาที่ยึดไว้คืนให้โรงธูปไป่เยี่ยและบ่อนพนันเหล่านั้นด้วย…” น้ำเสียงแฝงความจนใจอยู่หลายส่วน

หร่วนอวี้พยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน” เขาเปลี่ยนประเด็นพูดไป “ข้าได้ยินว่าเพราะมีอากรสร้างคุณูปการเพิ่มอีกหนึ่งข้อ น้ำหอมสังสารวัฏและขี้ผึ้งเหลวกลิ่นดอกไม้ของตระกูลหลีจึงหยุดทำไปแล้ว”

“ข้าต้องการให้เขาหยุดทำเอง!” จั่วเฟิงแค่นเสียงสบถเย็นชา “ตอนนี้ตระกูลหลีก็อาศัยน้ำหอมสังสารวัฏกับขี้ผึ้งเหลวกลิ่นดอกไม้มาคอยหนุน ตอนนี้ถูกบังคับให้หยุดทำไป ตระกูลหลีคงอยู่ไม่ไกลจากการล่มสลายแล้ว!” คิดถึงที่หร่วนอวี้มาเมืองต้าเยี่ยหนึ่งปียังไม่มีอะไรก้าวหน้า ส่วนตัวเองมาแค่เพียงครึ่งเดือนก็ทำให้สถานการณ์พลิกผันได้แล้ว บนใบหน้าจั่วเฟิงจึงปรากฏความได้ใจเพิ่มขึ้น

หลีจวินไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่ายอย่างที่ท่านคิด!

หร่วนอวี้ริมฝีปากขยับ คิดจะเตือนสติแต่ก็ปิดปากลงอีกครั้งก่อนจะยืนขึ้น “ใต้เท้าจั่วไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

จั่วเฟิงกำลังจะลุกยืน พลันนึกอะไรขึ้นได้ เขาจึงพูดอีกว่า “ได้ยินว่าใต้เท้าหร่วนกับแม่นางหลิ่วหมั้นหมายกันแล้วหรือ”

“งานแต่งงานกำหนดเป็นวันที่สิบแปดเดือนสิบ” หร่วนอวี้พูดพลางจับจ้องสองตาของจั่วเฟิงไม่วางตา แอบคิดในใจว่าเขาถามเรื่องนี้ด้วยเหตุใด

“ดี!” จั่วเฟิงปรบมือ “ข้ากำลังกลุ้มใจไม่รู้ว่าจะพูดกล่อมแม่นางหลิ่วอย่างไรอยู่พอดี”

พูดกล่อมนาง?

หร่วนอวี้กะพริบตาอย่างสงสัย “ใต้เท้าจะทำอะไรหรือ”

“ข้าเพิ่งได้รับรายงานลับ ฮ่องเต้แคว้นเฉินองค์ใหม่ได้ส่งทูตไปเยี่ยมเยือนขอบคุณทุกแคว้น” จั่วเฟิงหยิบสารลับฉบับหนึ่งจากบนโต๊ะออกมายื่นให้หร่วนอวี้ “ทูตที่จะมาต้าโจวนั้น อีกไม่กี่วันก็มาถึงแล้ว” เขาโน้มตัวไปพูดด้วยเสียงเบา “ได้ยินว่าทูตแคว้นเฉินมาในครั้งนี้ นอกจากขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว ยังมีคำสั่งลับอีกอย่าง ก็คือจะทำการคัดเลือกวาณิชนำเข้าสินค้าในระยะยาวให้แก่แคว้นเฉินด้วย!”

“วาณิชนำเข้าสินค้า?” หร่วนอวี้หมุนตัวกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ “แคว้นเฉินจะเปลี่ยนวาณิชนำเข้าเครื่องหอมหรือ” เขาได้รับรายงานลับว่าทูตแคว้นเฉินจะมาที่แคว้นต้าโจวเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้ด้วย

จั่วเฟิงพยักหน้า “ข่าวนี้จริงแท้แน่นอน การส่งออกวัตถุดิบเครื่องหอมไปยังแคว้นเฉินที่ผ่านมานั้นล้วนเป็นตระกูลหลีผูกขาด ตอนนี้มีข่าวนี้ลือออกมา อิงอ๋องทรงเดาว่าแคว้นเฉินคงได้ข่าวเรื่องการตายของกู่ฉินแล้ว จึงเสียความเชื่อมั่นในเครื่องหอมของตระกูลหลีไป อิงอ๋องอยากจะอาศัยช่วงที่ฮ่องเต้แคว้นใหม่ขึ้นครองราชย์นี้ ทำลายการผูกขาดตลาดเครื่องหอมในแคว้นเฉินของตระกูลหลี หวังว่าใต้เท้าหร่วนจะเกลี้ยกล่อมให้แม่นางหลิ่วเตรียมตัวให้พร้อม นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ต้องแย่งกิจการส่งออกของตระกูลหลีมาให้ได้!”

“อิงอ๋องทรงคาดเดา?” หร่วนอวี้สงสัย “ข่าวนี้เป็นรายงานลับของอิงอ๋องหรือ”

“ใช่แล้ว” จั่วเฟิงพยักหน้า “อิงอ๋องทรงมีคำสั่งลับให้พวกเรา ไม่ว่าอย่างไรต้องคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ให้ดี”

เป็นรายงานลับของอิงอ๋องจริง!

หร่วนอวี้รู้สึกเครียด อิงอ๋องทรงเริ่มไม่เชื่อใจเขาตั้งแต่เมื่อใด ข่าวสำคัญเช่นนี้กลับแจ้งให้แค่จั่วเฟิงรู้เท่านั้น

แท้จริงแล้วหร่วนอวี้กล่าวโทษอิงอ๋องผิดไป ครั้งนี้อิงอ๋องทรงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ถึงจะเสียอะไรไปบ้างก็ต้องชิงกิจการส่งออกแคว้นเฉินมาให้ได้ รวมถึงการเสียสละหลิ่วเฟิ่ง แต่เพราะเขาได้ยินว่าหร่วนอวี้หมั้นหมายหลิ่วเฟิ่งไว้แล้วและจะแต่งงานในอีกไม่กี่วัน จึงได้แจ้งรายงานลับให้จั่วเฟิงรู้เพียงคนเดียว ให้เขาคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมหร่วนอวี้ให้ยอมเสียสละหลิ่วเฟิ่ง

ในใจสับสน แต่สีหน้าหร่วนอวี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาพูดด้วยรอยยิ้มสดใสว่า “ข้าจะไปพบแม่นางหลิ่ว แจ้งเรื่องนี้ให้นางรู้”

“ถ้าแม่นางหลิ่วสามารถเกลี้ยกล่อมทูตแคว้นเฉินจนได้กิจการส่งออกไปยังแคว้นเฉินมาก็ถือเป็นความชอบอย่างหนึ่ง!” จั่วเฟิงพูดยั่วยุอยู่ตลอด “อิงอ๋องต้องพระราชทานรางวัลใหญ่อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นอนาคตของใต้เท้าหร่วนก็…” เสียงนั้นขาดห้วงไป จั่วเฟิงส่งสายตาเป็นเชิงว่าเจ้าก็คงรู้

ใบสั่งซื้อจากสำนักพระราชวังถูกส่งคืน ตลาดเครื่องหอมภายในแคว้นต้าโจวก็ถูกหลิ่วเฟิ่งแย่งไปกว่าครึ่ง ตอนนี้ยังมาตัดตลาดส่งออกไปอีก ตระกูลหลีคิดจะไม่ล่มสลายก็คงไม่ได้ จินตนาการว่าตนเองจะได้สร้างผลงานชิ้นเยี่ยมนี้ หลังจากอิงอ๋องขึ้นครองราชย์ตนเองก็จะเป็นคนที่อยู่ใต้คนผู้เดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น บนใบหน้าจั่วเฟิงก็ฉายความยินดี

ตอนนี้อย่าว่าแต่เสียสละหลิ่วเฟิ่งเพียงคนเดียวเลย ถึงแม้ต้องเสียสละมารดาตนเองก็คุ้มค่า

หร่วนอวี้กลับไม่คิดว่าความหมายเหนือคำพูดของจั่วเฟิงคือให้หลิ่วเฟิ่งเสียสละตัวเองไปหลอกล่อทูตแคว้นเฉิน ในความคิดของเขานั้นการจะได้ใบสั่งในการส่งออกมาล้วนต้องอาศัยคุณภาพเครื่องหอมและกลิ่นหอมที่ยอดเยี่ยม เขาจึงพยักหน้าตามไปด้วย “ใต้เท้าจั่ววางใจได้ ข้าจะพูดกล่อมให้แม่นางหลิ่วเอาวิชาในตลับก้นหีบ* ออกมาให้ได้!”

สำหรับฝีมือขั้นเทพของกู่ฉินนั้นหร่วนอวี้ยังมีความมั่นใจอยู่ ขอเพียงเขาควบคุมให้มู่หวั่นชิวไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ได้ก็พอ

วิชาในตลับก้นหีบน่ะหรือ

สำหรับหญิงสาวที่สันทัดในการติดต่อผู้คนแล้ว วิชาในตลับก้นหีบยังจะมีอะไรได้ สิ่งเหล่านี้ไม่พูดก็เข้าใจได้ เห็นหร่วนอวี้รับปากจะเสียสละหลิ่วเฟิ่งอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จั่วเฟิงก็รู้สึกยินดี พูดชมว่าดีไม่หยุดปาก “ดี บอกแม่นางหลิ่วว่าให้นางแย่งชิงมาอย่างกล้าหาญและวางใจเถิด ไม่ว่านางต้องการอะไรข้าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่!”

ทุกอย่างจบลงโดยไม่มีคำพูด ภายในห้องหนังสือมีเพียงเสียงหัวเราะที่ดังลอยมา

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com