หลังจากอาบน้ำ เปลี่ยนมาสวมเสื้อเนื้อบางที่ใส่แล้วสบายตัว เอินชินอ๋องก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งมาอ่านใต้แสงไฟ
มีเสียงเคาะประตูดังลอยมา
เอินชินอ๋องไม่ได้เงยหน้าขึ้น เพียงตะโกนไปว่า “เข้ามา!”
จ้าวซิ่นองครักษ์ประจำกายผลักประตูเดินเข้ามา “ท่านอ๋อง…”
“เป็นอย่างไร จวนว่าการเจ้าเมืองมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่”
“ระหว่างทางที่ใต้เท้าจั่วส่งตัวแม่นางหลิ่วมาที่นี่ถูกใต้เท้าหร่วนชิงตัวคนกลับไปพ่ะย่ะค่ะ”
“ชิงตัวกลับไปหรือ” เอินชินอ๋องวางหนังสือลงแล้วเงยหน้าขึ้น
เขาสวมเสื้อเนื้อบางสีขาวนวล หางคิ้วยกสูง สันจมูกสูงโด่ง สายตาลึกล้ำราวกับเหยี่ยวยามค่ำคืน เพียงแค่กวาดมองเล็กน้อยก็ฉายพลังอันน่ากลัวออกมารางๆ จะเหลือความรื่นเริงเหมือนตอนที่อยู่บนโต๊ะสุราตอนกลางวันอีกได้อย่างไร
จ้าวซิ่นพยักหน้า “หลังใต้เท้าจั่วส่งพระองค์กลับมาก็ไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิ่วต่อ อยู่ที่นั่นเกือบหนึ่งชั่วยาม ราวปลายยามโหย่วก็เอารถม้าพาแม่นางหลิ่วมาที่นี่ ไม่รู้ว่าถูกใต้เท้าหร่วนผู้บัญชาการกองรถศึกรู้เรื่องเข้าได้อย่างไร เขารีบควบม้าตามมาแล้วนำตัวแม่นางหลิ่วกลับไปด้วยท่าทีแข็งกร้าว เพราะไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป กระหม่อมจึงฟังไม่ชัดว่าพวกเขาพูดอะไรกัน เห็นเพียงสีหน้าของใต้เท้าจั่วโมโหจนดำคล้ำ”
“รู้แล้ว…” เอินชินอ๋องเหมือนจะโล่งอก
ท่านอ๋องเหมือนจะไม่โกรธ?
จ้าวซิ่นกะพริบตา เขาไม่ได้มองผิดไปกระมัง สตรีที่หมายตาถูกคนชิงตัวไปเช่นนี้ ท่านอ๋องก็ยังเบิกบานใจได้อีกหรือ
จ้าวซิ่นกำลังสงสัยอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เป็นองครักษ์เฝ้าประตูที่เดินเข้ามาคำนับแล้วพูดว่า “ทูลท่านอ๋อง ใต้เท้าจั่วส่งนางขับร้องสิบคนมาให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
นางขับร้องสิบคน?
เอินชินอ๋องขมวดคิ้ว เขาพักที่นี่แค่หนึ่งคืน จั่วเฟิงก็ส่งสาวงามมาสิบคนแล้ว อีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นตาแก่ลามกที่แรงไม่ตกหรือ!
นี่หากถูกคนมีใจไม่ดีเอาไปเล่นงาน ส่งข่าวกลับแคว้นเฉินว่าเขาเอินชินอ๋องอยู่ข้างนอกทำตัวไม่เหมาะสมเช่นนี้ เสด็จพี่คงถลกหนังของเขาแน่!
“ส่งกลับไปให้หมด” น้ำเสียงเอินชินอ๋องแฝงความโกรธที่ยากจะได้เห็น
“ท่านอ๋อง…” จ้าวซิ่นพูดเสียงเบา “ใต้เท้าจั่วทำด้วยความจริงใจ”
เดินทางมาแคว้นต้าโจวครั้งนี้ เมืองต้าเยี่ยต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ส่งสาวงามมาก็ด้วยความรู้สึกดี หากหักหน้าใต้เท้าจั่วเช่นนี้จะดูไม่ค่อยดีเอาได้
“ความจริงใจอะไร!” เอินชินอ๋องแค่นเสียงสบถเย็นชา “เจ้าบอกเขา ถ้าจริงใจก็ส่งแม่นางหลิ่วมา ข้ากำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อรอเครื่องหอมอยู่!”
เห็นเอินชินอ๋องโมโหจริงๆ แล้ว จ้าวซิ่นจะกล้าพูดอีกได้อย่างไร เพียงรีบก้มหน้าถอยออกไป
เอินชินอ๋องหยิบหนังสือขึ้นมา แต่จะมีอารมณ์อ่านต่อได้อีกหรือ เขาเพิ่งพลิกเปิดไปได้หนึ่งหน้าก็ปิดปังดังเดิม กำลังจะเอ่ยปากเรียกคน ร่างนั้นก็ชะงักไป เขาหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ผ่านไปครู่ใหญ่จึงเงยหน้าขึ้นช้าๆ
ราวกับเจอภูตผี ไม่รู้ว่าที่กลางห้องนั้นมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนตั้งแต่เมื่อใด คนผู้นั้นสวมชุดทะมัดทะแมงสีดำ ท่ามกลางแสงเทียนวูบไหว ใบหน้าขาวหมดจดสะท้อนแสงจนดูน่าหลงใหล คนผู้นั้นยืนอย่างสง่าอยู่ตรงนั้น ในท่าทางสบายอารมณ์กลับฉายความลึกลับและเยือกเย็นออกมาหลายส่วน
* ตลับก้นหีบ เดิมหมายถึงตลับดินเผาขนาดไม่เกินฝ่ามือ โดยมากทำเป็นรูปผลไม้ ภายในบรรจุตุ๊กตาชายหญิงกำลังร่วมรักกัน สมัยโบราณผู้ใหญ่ในบ้านจะมอบให้ลูกสาวใช้เป็นอุปกรณ์สาธิตเมื่อจะออกเรือน ในที่นี้อาจหมายถึงการเก็บซ่อนของสำคัญให้มิดชิด
** ใบเฟิง หมายถึงใบเมเปิ้ล
*** ชินอ๋อง เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์ชายลำดับที่หนึ่ง โดยมากผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้จะเป็นพระโอรส พระเชษฐา หรือพระอนุชาขององค์จักรพรรดิ
* ฝ่าบาทไม่ร้อนใจ ขันทีร้อนใจแทน เป็นสำนวน หมายถึงเดือดเนื้อร้อนใจในเรื่องของคนอื่น ทั้งที่ตัวเจ้าของเรื่องยังไม่ใส่ใจ
(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 25 กุมภาพันธ์ค่ะ)