กงกงผู้ดูแลความเรียบร้อยคนหนึ่งรีบรุดจากด้านนอกสวนมาหยุดยืนที่ด้านข้างประตู เสียงตะโกนแหลมเล็กดังขึ้น “ฝ่าบาทเสด็จ!”
เสียงที่แหลมเล็กและไม่น่าฟังนี้ไม่เพียงทำให้ผีเสื้อสีสันสดใสที่กำลังโบยบินเหนือยอดเกสรดอกไม้ตกใจหนีไป แต่ยังทำให้เจ้าของกระโปรงสีสันละลานตาแตกตื่น บรรดาหญิงสาวลนลานไปชั่วขณะก่อนตะลีตะลานคุกเข่าดังเช่นสองครั้งที่ผ่านมา กล่าวตามหลิวหมัวมัวว่า “ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี!”
ในสวนที่เมื่อครู่ยังมีเสียงหัวเราะชื่นมื่นพลันเงียบสงัดจนได้ยินกระทั่งเสียงหัวใจกำลังเต้น จากนั้นเสียงฝีเท้าหนักแน่นมีกำลังขุมหนึ่งก็ดังลอยมาจากประตูสวน แต่ไม่ได้เดินตรงมาด้านนี้ทว่ากลับมุ่งไปทางศาลา คนทั้งหลายล้วนคุกเข่าเกร็งร่างอยู่กับพื้น จดจำวาจาของหลิวหมัวมัวขึ้นใจ ‘ต้องคุกเข่า ห้ามเงยหน้า!’
จวบจนเสียงฝีเท้าลับไปก็ยังไม่มีผู้ใดเรียกพวกนางลุกขึ้น ไป๋อวี้ฉีที่อยู่ข้างๆ เริ่มนวดหัวเข่าบ่อยครั้ง คล้ายร่างสูงส่งของนางไม่อาจคุกเข่าได้ ตรงกันข้ามไป๋เสวี่ยฝูที่ฝึกฝนวรยุทธ์มา ทั้งยังต้องคุกเข่าบนพื้นหินสีเขียวมาตั้งแต่เล็ก นางจึงไม่มีความรู้สึกอันใดเลยสักนิด
“ฝ่าบาททรงมีราชโองการ!” ยังคงเป็นเสียงกงกงคนเดิม เหล่าสาวงามไม่ขยับเขยื้อน ต่างรอคำประกาศราชโองการด้วยสีหน้าเคร่งเครียดร่างกายแข็งเกร็ง มีเพียงไป๋เสวี่ยฝูที่นับว่าอารมณ์สงบ สิ่งที่นางปรารถนามิใช่ชีวิตในตำหนักในแต่เป็นชีวิตที่มีอิสรเสรี!
ไป๋เสวี่ยฝูกลัวว่าจะถูกคัดเลือกแต่ก็ปรารถนาจะได้รับคัดเลือก นางเลือกที่จะละทิ้งชีวิตของตนเองได้แต่จะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของมารดาไม่ได้
“จากการตรวจสอบของกรมพิธีการ สาวงามในลำดับต่อไปนี้เฉลียวฉลาดมีคุณธรรม มีความรู้และมารยาท ฝ่าบาททรงมีราชโองการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ที่นี่ ณ บัดนี้ บันทึกพระนามลงหนังสือแต่งตั้งทองคำ!” สิ้นวาจากงกง บรรดาสาวงามทั้งตระหนกทั้งสงสัย แม้จะเฝ้ารอแต่ก็หวาดกลัวว่าหากกงกงประกาศต่อแล้วไม่ได้รับการคัดเลือก นับแต่นี้ก็จะหมดโอกาสอยู่ในวังหลวง เพราะสามปีข้างหน้ากว่าจะได้เข้าคัดเลือกอีกก็คงอายุเกินเสียแล้ว
“หลิวซื่อ* แม่ทัพหลิวมีคุณธรรมความดีความชอบ จงรักภักดีต่อราชสำนัก แต่งตั้งบุตรีหลิวฮุ่ยอวิ๋นขึ้นเป็นฮุ่ยเฟย ตำแหน่งฝ่ายในขั้นสองชั้นเอก! ไป๋ซื่อ อัครเสนาบดีไป๋เป็นขุนนางสำคัญในราชสำนัก มีผลงานความดีความชอบนับไม่ถ้วน จงรักภักดีต่อราชสำนัก แต่งตั้งบุตรีไป๋เสวี่ยฝูขึ้นเป็นเสวี่ยเฟย ตำแหน่งฝ่ายในขั้นสองชั้นเอก แต่งตั้งบุตรีไป๋อวี้ฉีขึ้นเป็นฉีเฟย ตำแหน่งฝ่ายในขั้นสองชั้นเอก! เจี่ยนซื่อ เสนาบดีเจี่ยนมีคุณความดีต่อราชสำนัก แต่งตั้งบุตรีเจี่ยนหย่าหลันขึ้นเป็นหลันผิน ตำแหน่งฝ่ายในขั้นห้า…”
“สนมชายาทุกพระองค์ข้างต้นเชิญไปรับของกำนัลที่ตำหนักบรรทมของอวี้กุ้ยเฟยและเข้าประทับในตำหนักได้เลยวันนี้ ที่เหลือทั้งหมดหากมิได้ขานชื่อนับเป็นบ่าวให้หลิวหมัวมัวรับผิดชอบแบ่งภาระหน้าที่!” สิ้นเสียงแหลมเล็กของกงกงก็บังเกิดเสียงดังอื้ออึงขึ้น ในช่วงเวลานี้เสียงร้องไห้และเสียงหัวเราะพลันผสมผสานกัน ก่อนจะค่อยๆ ดังก้องไปทั่วทั้งสวนดอกโบตั๋น
“ยังไม่รีบขอบพระทัยฝ่าบาท!” กงกงกัดฟันพลางถลึงตาใส่คนทั้งหลาย
บรรดาสาวงามถึงได้ถวายบังคมอย่างร้อนรน กล่าวเสียงดังไปทางม่าน “ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทเพคะ”
ตั้งแต่ต้นจนจบองค์จักรพรรดิผู้สูงส่งมิได้ตรัสวาจาแม้แต่ประโยคเดียว ทรงทอดมองทุกอย่างผ่านม่านด้วยสายตาอันเย็นชา
ไป๋เสวี่ยฝูระบายลมหายใจเบาๆ อย่างไรก็ผ่านเข้าไปแล้ว เพียงแต่…นี่เป็นผลลัพธ์ที่นางมุ่งหวังจริงหรือ
บิดาของข้ามีผลงานความดีความชอบ จงรักภักดีต่อราชสำนัก?! ไป๋เสวี่ยฝูยิ้มเยาะในใจ ดูแล้วจักรพรรดิผู้นี้คงจะเลอะเลือน อีกฝ่ายแทบจะนำมีดมาจ่อที่พระศออยู่แล้วยังกล้าตรัสว่าจงรักภักดีอีก! ฟังเสียงสะอื้นไประยะหนึ่ง ตามองหญิงสาวทั้งหลายที่ไม่ได้รับคัดเลือกถูกลากออกไป ในที่สุดนางก็เข้าใจประโยคที่กล่าวว่าเคียงคู่กับจักรพรรดิเสมือนเคียงพยัคฆ์ จักรพรรดิเยวี่ยเยี่ยทรงไร้ปรานีดังที่คิดไว้จริงๆ!
รายนามที่กงกงประกาศเมื่อครู่ล้วนเป็นบุตรีในสกุลสูงศักดิ์ บุตรีในสกุลสามัญชนหากอยากบินขึ้นยอดไม้กลายเป็นหงส์ ไม่เพียงฝันหวานต้องสูญสลาย ซ้ำยังถูกลดขั้นไปเป็นบ่าว ชะตาชีวิตอันเศร้าสลดเช่นนี้เกิดขึ้นในชั่วขณะที่พู่กันของบุรุษสูงศักดิ์ยิ่งผู้นั้นสะบัดเท่านั้น
“ไม่!” เด็กสาวคนเมื่อครู่ที่ล่วงเกินอวี้กุ้ยเฟยและกำลังถูกลากออกไปนั้น จู่ๆ นางก็สะบัดหลุดจากการควบคุมของขันทีน้อยวิ่งกลับไปตรงหน้ากงกง ตะเกียกตะกายกอดขาทั้งสองของเขาไว้พลางร้องไห้เสียงดัง “กงกง! จะให้ข้าเป็นบ่าวมิได้นะเจ้าคะ! ข้ามีปิ่นมรกตของอวี้กุ้ยเฟย ได้โปรดอย่าให้ข้าไปเลยนะเจ้าคะ!”
เด็กสาวร้องไห้พลางหยิบปิ่นปักผมทองประดับมรกตที่อวี้กุ้ยเฟยปักให้นางด้วยตัวเองลงมา แล้วยัดใส่มือกงกงด้วยสองมืออันสั่นเทา กงกงรับปิ่นมามองแวบเดียวก็มั่นใจว่านี่เป็นปิ่นอันเดียวในโลกที่ฝ่าบาทพระราชทานให้อวี้กุ้ยเฟย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถสั่นคลอนราชโองการของฝ่าบาทได้…กงกงจับปิ่น ชั่วขณะนั้นพลันลำบากใจ