บทนำ
ณชาอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านที่สามารถเติมเต็มชีวิตของเธอได้อย่างแท้จริง มีความสุขอันเรียบง่าย รอต้อนรับเข้าสู่อ้อมกอดทุกเวลาในยามที่เธออ่อนล้า ทุกๆ วันบนโต๊ะอาหารมีจานชามหน้าตาธรรมดาสามัญใส่อาหารรสชาติบ้านๆ ไว้ให้เธอทาน…
แต่สิ่งที่ณชาต้องเรียกว่าบ้านในตอนนี้ คือคอนโดมิเนียมราคากว่าสิบล้านที่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์เครื่องใช้ราคาแพงแต่ปราศจากซึ่งไออุ่นของชีวิต ความสมบูรณ์แบบที่เธอได้ครอบครองในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพอันดีจากผู้คนรอบข้าง สังคม ชื่อเสียง เงินทอง และอนาคตที่มองเห็นความงดงามในวันข้างหน้าอย่างชัดเจน มันช่างเป็นความพร้อมสรรพที่ว่างเปล่าเหลือเกิน
หญิงสาวปลอบใจตัวเองเสมอมาว่า แม้เธอจะสูญเสียพ่อกับแม่ไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาทดแทนความสูญเสียทั้งหมดนั้นล้วนนับว่ามีค่าและสามารถให้ความสุขกับเธอได้เช่นกัน ใครๆ ต่างก็พากันอิจฉาชีวิตของเธอทั้งนั้น บางครั้งที่เธอใช้เวลานั่งทบทวนถึงสิ่งต่างๆ ดังกล่าว เธอเองยังอดรู้สึกไม่ได้เลยว่า…ชีวิตเธอมันช่างเหมือนกับความฝันอันเหลือเชื่อ ทว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝัน แต่มันเป็นชีวิตของเธอเองจริงๆ
หากท้ายที่สุดแล้ว ความคิดของเธอก็มักจะวนกลับไปตรงคำถามที่ว่า ‘บ้าน’ ที่เธอต้องการอย่างแท้จริงอยู่ที่ไหนกัน…
ณชาตกหลุมรัก ‘เจส’ ซึ่งเป็นเจ้าชายในฝันที่ห่างไกลเหลือเกินจากความเป็น ‘บ้าน’ อันแสนอบอุ่น เจสไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นความสุขอันเรียบง่ายสำหรับเธอ เอาเข้าจริงหญิงสาวยังตอบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ แล้วเธอรักเขาเพราะอะไร รู้แต่ว่าเธอไม่อาจตัดเขาออกไปจากความคิดได้ เจสวนเวียนอยู่ในหัวเธอตลอดเวลา
สำหรับณชา เจสเป็นทั้งความสุขปนเจ็บปวด เป็นความอ่อนไหวที่เร้าใจ เป็นรสชาติอ่อนหวานทว่าเข้มข้น เป็นความละมุนละไมที่แสนเย้ายวน และเป็นความนุ่มนวลที่อบอุ่นที่สุดสำหรับเธอ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน…เขาก็เหมือนยังอยู่ไกลเกินเอื้อมอยู่นั่นเอง แล้วยิ่งเธอพยายามไขว่คว้ามากเท่าไหร่ ก็เหมือนเขายิ่งลอยออกไปไกลมากขึ้นเท่านั้น…
ในขณะที่ ‘พสิน’ เพื่อนรุ่นพี่จากบ้านนอกของเธอ ที่ถูกหลายคนตราหน้าว่าเป็น ‘หมา’ มองเครื่องบิน ซึ่งแน่นอนว่าณชาคือ ‘เครื่องบิน’ ลำนั้นของเขา…กลับคือคนที่พร้อมจะเป็น ‘บ้าน’ ให้เธอมากที่สุดในความรู้สึกของณชา แต่ติดปัญหาอยู่อย่างเดียวคือเธอไม่ได้รักเขาเลย แม้จะเคยพยายามแล้วก็ตาม…
“ถ้าจะให้ช่วยตัดสินระหว่างสองคนนี้ล่ะก็ ฉันขอเลือกนายพสินมาเป็นลูกเขยละกัน”
“แต่เขาจนมาก เงินเดือนไม่น่าจะพอจ่ายค่าเช่าคอนโดฯ หนูด้วยซ้ำ”
“นี่! เงินมันไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของชีวิตนะยะ แล้วเธอเองก็มีสมบัติพัสถานตั้งเยอะตั้งแยะแล้วด้วย ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องการจากผู้ชายคนที่เธอจะแต่งงานด้วยจึงไม่ใช่เงิน แต่เป็นสิ่งที่คนอย่างพสินมีให้เธอได้”
“แต่พี่พีทน่ะ…หล่อก็ไม่หล่อ ปากก็ม้าาา…หมา เป็นโปรแกรมเมอร์ที่ฝีมืองั้นๆ อนาคตจะรุ่งหรือร่วงก็ไม่รู้ แถมรถก็ไม่มีขับ เป็นเด็กแว้นอีกต่างหาก ใจคอคุณพริ้งจะให้หนูซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์หมอนั่นแล้วเป็นสก๊อยไปตลอดชีวิตเลยรึไงคะ”
“นี่! เขาเพิ่งอายุยี่สิบสี่นะยะ เพิ่งจะเริ่มทำงานมาได้ไม่เท่าไหร่ ให้เวลาเขาเก็บเงินสร้างฐานะหน่อยเซ่ ไปเอานิสัยด่วนตัดสินคนที่ภายนอกมาจากไหนฮึ!”
“ก็หนูรักเจส หนูเลยต้องนึกถึงแต่ข้อเสียคู่แข่งเจสเอาไว้ตลอดเวลา”
“แหมมม…ที่รักจ๊ะ เจสเขารู้ไหมเหอะ ว่าตัวเองเป็นคู่แข่งใครเรื่องอะไร ตอนนี้เขาก็ไปฟินกับมิสจงเทียนอยู่บาฮามาสโน่นแน่ะจ้าาา”
“โหยยย…เจ็บปวดดด ทำไมไม่อ่อนโยนเลย คุณพริ้งนี่ใจร้ายชะมัด!”
“ที่คอยตอกย้ำให้ฟังแบบนี้เป็นเพราะฉันรักเธอ ถึงได้อยากให้เลิกมโนซะที ไม่อยากเห็นเธอหลงละเมอเพ้อพกอยู่กับความฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีวันเป็นไปได้ แล้วฉันก็มั่นใจมากว่าพสินเนี่ยเขาจิตใจดี จริงใจ เป็นเด็กดี ไม่เจ้าชู้…สรุปว่าเขามีอะไรที่ตรงกันข้ามกับเจสแทบทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเงิน แต่ที่สำคัญคือพสินเป็นคนที่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะช่วยให้เธอมีความสุขในแบบที่เธอต้องการได้ ส่วนเรื่องปากหมาฉันไม่นับเป็นข้อเสียนะ เพราะถึงจะหมาแค่ไหน แต่หมอนั่นก็แพ้เธอกับฉันอยู่ดี จริงไหมจ๊ะที่รัก”
“แต่หนูรักเจส”
“…”
“เจสเองก็มีหลายๆ อย่างที่หนูต้องการนะคะ เขาอายุเยอะกว่าหนูหลายปี เป็นผู้ใหญ่ ใจดี มีลูกติดเป็นพรวน คิดแล้ว…หนูก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก…”
“…”
“หนูว่า…หนูรักเขามากจริงๆ หนูฝันถึงเขาตลอดเลยค่ะ เมื่อคืนก็เพิ่งฝัน ฝันติดเรตด้วยอ่ะ เขินจัง”
“…”
“คุณพริ้งคะ…หนูรักเจสมากเลยล่ะ ทำไงดี…”
“โอ๊ยยย…ณชาาา ถ้าจะหน้ามืดหัวปักหัวปำขนาดนั้นล่ะก็ เชิญเธอฝันหวานต่อไปเถอะย่ะ ลำคานนน!”
โปรดติดตามตอนต่อไป…….