ทดลองอ่าน เซียมซีทายรัก บทที่ 1 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เซียมซีทายรัก บทที่ 1

สกุลหานเป็นที่รู้จักในเหิงโจว เนื่องจากสกุลหานเป็นตระกูลคหบดีอันดับหนึ่งในเหิงโจว นายท่านหานเริ่มมีฐานะขึ้นมาเมื่อสิบห้าปีก่อน กิจการเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนครอบคลุมทุกด้านในเวลาต่อมา ชาวเมืองเหิงโจวตั้งแต่เกิดจนตายต่อให้ไม่ใช้ผ้าของสกุลหานทำผ้าอ้อม ไม่สวมเครื่องประดับที่สกุลหานผลิต ก็อาจได้ใช้เครื่องเคลือบที่สกุลหานทำ ต่อให้ไม่ได้ใช้สิ่งเหล่านี้ เช่นนั้นก็อาจต้องใช้สินค้าจากร้านเครื่องประทินโฉม หรือไม่ก็ร้านเครื่องเขียนทั้งสี่ในเครือของสกุลหาน แม้แต่สำนักศึกษาก็ยังได้รับการสนับสนุนเต็มกำลังจากสกุลหาน ไม่ว่าอย่างไรชาวเหิงโจวต่างก็ต้องจับจ่ายใช้สอยสินค้าของสกุลหานไปโดยไม่รู้ตัว

อาเหม่าเสียบุพการีไปตั้งแต่เล็ก จึงถูกป้าขายมาเป็นบ่าวรับใช้ในสกุลหาน เริ่มแรกนางเพียงช่วยงานเล็กน้อยในครัว ภายหลังเมื่อโตขึ้นจนเริ่มทำงานได้แล้วก็ถูกฮูหยินใหญ่เรียกให้ไปรับใช้ในเรือน

แม้สกุลหานจะร่ำรวย ทว่าเจ้าบ้านสกุลหานและฮูหยินใหญ่กลับค่อนข้างตระหนี่และเข้มงวดกับบ่าวรับใช้ เงินเดือนก็น้อยทว่างานที่ต้องทำนั้นกลับมีมาก ทันทีที่ทุกคนทำงานในเรือนของตนเองเรียบร้อยแล้ว ยังต้องไปดูว่าที่เรือนอื่นมีงานให้ช่วยอีกหรือไม่ เพราะที่นี่บ่าวรับใช้หนึ่งคนต้องทำงานในส่วนของสองคนทำให้ได้

แต่ในเมื่ออย่างไรก็ถูกขายให้สกุลหานแล้ว ต่อให้ทำงานรับใช้จนเหนื่อยตายก็ต้องกัดฟันทำต่อไปให้ได้เท่านั้น

อาเหม่ามิได้ละโมบ นางไม่มีอะไรที่อยากจะซื้อ คนที่นางอยากแสดงความกตัญญูด้วยก็ล้วนจากไปหมดแล้ว ฉะนั้นแม้ค่าแรงที่นี่จะน้อย แต่ก็ยังพอกับค่าใช้จ่าย เด็กสาวที่ถูกคนทุบตีมาตั้งแต่เด็กอย่างนางมีเพียงความปรารถนาเดียว นั่นคือไม่ถูกทุบตีอีกก็เพียงพอแล้ว

ในหนึ่งเดือนบ่าวรับใช้แต่ละคนจะมีวันหยุดพักผ่อนให้เพียงหนึ่งวัน วันนี้นางกับเหล่าสาวใช้วัยเดียวกันจึงออกมาเที่ยวเตร่ กว่าจะกลับถึงคฤหาสน์ก็ใช้เวลาไปแล้วกว่าครึ่งวัน เดิมนางตั้งใจถือโอกาสที่มีเวลาว่างนี้ปักถุงหอมให้ตนเอง แต่เห็นทีวันนี้จะไม่เหลือเวลาแล้ว

เหล่าสาวใช้หลังจากลงจากเขาแล้วก็พากันไปเที่ยวต่อในตลาด เพื่อจับจ่ายชุดอุปกรณ์เย็บปักและชาดหอมก่อนจะหาอะไรกินกัน เมื่อเห็นว่าอาทิตย์อัสดงจนย่ำค่ำแล้วจึงได้พากันกลับคฤหาสน์

บรรดาร้านรวงของสกุลหานล้วนตั้งอยู่ในละแวกที่เจริญที่สุดของเมืองเหิงโจวแทบทั้งสิ้น ทว่าคฤหาสน์กลับมิได้อยู่ในละแวกที่รุ่งเรืองนี้ แต่ตั้งห่างจากถนนที่อึกทึกนี้ออกมาค่อนข้างไกล

เด็กสาวเจ็ดแปดคนลัดเลาะผ่านตรอกอันคึกคัก ก้าวสู่ถนนปูหินสายยาวที่กว้างขวางและสงบเงียบท่ามกลางอาทิตย์อัสดง พวกนางได้ละทิ้งความครึกครื้นไว้เพียงเบื้องหลัง ขณะกำลังจะถึงหน้าประตูคฤหาสน์ ทุกคนต่างก็เห็นว่าประตูเปิดอยู่ ทว่ากลับไม่เห็นคนเฝ้าประตู หลายคนมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกล่าวด้วยความแปลกใจ “อาฝูไม่เฝ้าประตู ไม่กลัวฮูหยินด่าหรืออย่างไร”

สาวใช้หลายคนรีบก้าวเข้าไปในโถงใหญ่ จึงได้เห็นว่ายามนี้มีคนยืนอยู่รอบโถงใหญ่ไม่น้อยแล้ว แต่ละคนก็พยายามเขย่งเท้าเพื่อจะมองให้เห็นด้านใน ราวกับว่ามีคนยอดเยี่ยมเก่งกล้าสักคนอยู่ด้านในก็ไม่ปาน

“พวกเจ้าไปไหนกันมา” หมัวมัว* สูงวัยคนหนึ่งเห็นพวกนางแล้วพลันนิ่วหน้า “ยามนี้ก็เหลือแต่พวกเจ้าแล้ว รีบไปทำความรู้จักเร็วเข้า”

สาวใช้คนหนึ่งมองเข้าไปด้านในพลางเอ่ยถาม “ทำความรู้จักหรือ รู้จักใครกัน”

หมัวมัวกล่าวตอบ “นายท่านกลับมาแล้ว พาพ่อบ้านคนใหม่มาด้วย”

พวกนางต่างนิ่งอึ้ง ก่อนจะพร้อมใจกันเบนสายตามองอาเหม่าจนนางใจเต้นไม่เป็นส่ำ

หมัวมัวไม่อาจรับรู้ความคิดของพวกนางจึงยังเอ่ยเร่งรัดต่อ “รีบไปดูเร็วเข้า มิเช่นนั้นพรุ่งนี้ตอนที่เจอพ่อบ้านแล้วจะเผลอไม่รู้จักจนลืมทักทายเขาได้”

เวลานี้อาเหม่าจึงกลายเป็นตัวเอก นางถูกบรรดาสาวใช้ที่สนิทกันโอบพาให้เดินนำหน้า เบียดผ่านกลุ่มคนที่สูงกว่าเข้าไปดูหน้าพ่อบ้านคนใหม่

อาเหม่าเริ่มกลัวจับใจว่าอีกเดี๋ยวนางจะต้องพบกับชายชราเป็นแน่ ทั้งยังระแวงสงสัยว่าเซียมซีใบนั้นจะเป็นจริงหรือไม่

บ่าวรับใช้ที่รวมตัวกันสักพักหนึ่งก่อนหน้านี้แล้วก็ทยอยแยกย้ายกลับไปทำงานของตนเอง ครู่เดียวอาเหม่ากับเหล่าสาวใช้ก็เดินไปถึงด้านหน้า ตรงนั้นนอกจากเจ้าบ้านสกุลหานแล้ว ยังมีบุรุษหนุ่มอีกคนยืนอยู่ มองจากด้านหลังเช่นนี้เขาช่างดูสูงเพรียว ยิ่งสวมชุดคลุมยาวสีครามชุดนี้ก็ยิ่งขับให้เขาดูตัวสูงขึ้นไปอีก ทั้งยังไม่ผอม ไม่อ้วน ดูแข็งแรงราวกับต้นสนเขียวขจี

แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องลอดเข้ามาภายในห้องโถง อาบไล้ใบหน้าด้านข้างของบุรุษหนุ่ม สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกนุ่มนวลดุจหยกของเขา ซึ่งส่งกลิ่นอายละมุนผ่อนคลายออกมา

ขณะเดียวกันพวกสาวใช้ที่กำลังเบียดผ่านฝูงชนอยู่นั้นต่างก็นึกถึงภาพหน้าตาของชายชรานับร้อยคนไว้ในหัว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าจะเป็นบุรุษที่หนุ่มแน่นผู้หนึ่ง ทั้งยังรูปงามเช่นนี้ แตกต่างจากพ่อบ้านที่พวกนางเห็นในยามปกติอย่างสิ้นเชิง จึงประหลาดใจจนพูดไม่ออก

เจ้าบ้านสกุลหานที่กำลังมอบหมายภารกิจให้กับเซี่ยฟั่งเห็นพวกนางแล้วก็หยุดสนทนาทันที ก่อนจะกล่าวกับคนที่อยู่ด้านหลังของเซี่ยฟั่งว่า “พวกเจ้าไม่มีงานทำกันหรือ ยังไม่รีบไปทำงานทำการกันอีก”

เซี่ยฟั่งได้ยินแล้วก็หันไปมอง แสงแดดยามเย็นอาบไล้ใบหน้าเบาบาง ทำให้นัยน์ตาเขาเป็นประกายมีพลัง ยิ่งทำให้พวกนางมองจนนิ่งงัน เขาจดจำใบหน้าของเหล่าสาวใช้นี้ไว้แล้ว พลางค้อมศีรษะเล็กน้อย “ข้าแซ่เซี่ย มีนามว่าฟั่ง”

ใบหน้างดงามดุจหยก น้ำเสียงก็กังวานไพเราะดุจหยกกระทบกันแผ่วเบา บรรดาเด็กสาวล้วนหน้าแดงปลั่งไปทันที “คำนับพ่อบ้านเซี่ย”

เซี่ยฟั่งมิได้กล่าวอะไรอีก ขณะเขาเบนสายตากลับก็เหลือบไปเห็นใบหน้าของสาวใช้คนหนึ่ง รูปโฉมของนางสะดุดตาที่สุดในกลุ่มสาวใช้ เพียงแต่น่าแปลก เมื่อเขามองไป นางก็เบนสายตาออกทันที ต่างจากสาวใช้คนอื่น คล้ายกับกำลัง…หลบตา เขาหลุบตาครุ่นคิดชั่วครู่ เมื่อมิได้ต่อความยาวสาวความยืด ท้ายที่สุดก็ดึงสายตากลับคืน

เจ้าบ้านสกุลหานหลังจากกำชับมอบหมายภารกิจเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปพักผ่อนในเรือน ทว่าพอเจ้าบ้านสกุลหานไป พวกสาวใช้กลับไม่ได้แยกย้ายกันในทันที หลังพรึงเพริดกับพ่อบ้านหน้าหยกแล้วความคิดของทุกคนก็พลันผุดขึ้นมาอีกครั้ง พอพวกนางมองอาเหม่าสลับกับพ่อบ้านคนใหม่แล้วต่างก็ยกมือปิดปากหัวเราะกัน

เซี่ยฟั่งไม่รู้ว่าพวกนางขำอะไร ทว่าครู่เดียวก็เห็นเด็กสาวคนนั้นเดินผละออกไปก่อน ทุกคนจึงพากันไล่ตามไป เหล่าสาวใช้วัยแรกแย้มเหล่านั้นจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก ราวกับดอกท้อในสวนยามฤดูใบไม้ผลิ มองแล้วงดงามสบายตายิ่ง

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถสปอร์ตออกไปจากโรงจอด...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดพร้อมกับเจิงฝาน ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 31

    By

    บทที่ 31 เสี่ยงตายป้องกันเมือง   ภายในวังหลวง ซุ่นฮ่องเต้ยังคงไม่เข้าประชุมราชสำนัก เพียงอ่านเอกสารที่ราชเลขาธิการนำถวายอยู่บนเตียง แม้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 30

    By

    บทที่ 30 สหายสนิทมาเยือน   หลังเดินออกนอกประตูมาเฮ่อหลันฉือก็บีบนวดไหล่แล้วเอ่ยถามลู่อู๋โยว “คิดจะทำเช่นไรต่อ” “กินน้ำแกงโบราณ หม้อทองเ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 29

    By

    บทที่ 29 จัดระบบระเบียบ   ถึงแม้จะซ่อมเสร็จแล้ว เฮ่อหลันฉือก็ไม่อยากทรมานเตียงหลังนั้นอีก ทุกครั้งที่นอนลงไปยังรู้สึกกลัวว่ามันจะพังลงม...

  • กระบี่โอบจันทรา

    ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 4

    By

    บทที่ 4 ไม่ต้องทน   “เที่ยวเล่น?” หิมะขาวแปดเปื้อนสีแดงเป็นดวงๆ เด็กหนุ่มผู้เพิ่งก่อเหตุสังหารหมู่มาหมาดๆ พลันเอ่ยถามนางอย่างปุบปับว่าอยากไป...

  • กระบี่โอบจันทรา

    ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 3

    By

    บทที่ 3 หอจื้อเฟิง   เจ๋อจู๋วางซางหรงลง แล้วทอดฝีเท้าเอื่อยๆ เข้าไปในลานเรือน นางไม่ได้ตามไป เพียงยืนถือตะเกียงมองตามแผ่นหลังของเขา จากนั้นก...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

กระบี่โอบจันทรา

ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 1

บทที่ 1 ฆ่าข้าที   ผืนนภากระจ่างใส ลมรำเพย ทุ่งหิมะขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา บนถนนหลวงสายกว้างอยู่ในพื้นที่เมืองหนานโจว ขบวนร...

กระบี่โอบจันทรา

ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 2

บทที่ 2 ผีเสื้อทอง   เจ๋อจู๋นึกว่าตัวเองหูฝาด ความตกตะลึงสะท้อนออกมาทางสีหน้า “หายากนะ...เจ้าซื้อตัวข้า” เขาโยนเครื่องปร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

กระบี่โอบจันทรา

ทดลองอ่าน กระบี่โอบจันทรา บทที่ 4

บทที่ 4 ไม่ต้องทน   “เที่ยวเล่น?” หิมะขาวแปดเปื้อนสีแดงเป็นดวงๆ เด็กหนุ่มผู้เพิ่งก่อเหตุสังหารหมู่มาหมาดๆ พลันเอ่ยถามนาง...

community.jamsai.com