ทดลองอ่าน เซียมซีทายรัก บทที่ 11 – หน้า 11 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เซียมซีทายรัก บทที่ 11

11 of 11หน้าถัดไป

อาเหม่าลุกออกมา รู้สึกอกสั่นขวัญหนีเสมือนเพิ่งรอดพ้นจากความตายมาได้ แรงตบหลายทีเมื่อครู่นี้ยังคงทำให้แก้มร้อนผ่าว คล้ายว่านางเอาหน้าไปอังใกล้ช่องเตาผิงที่ร้อนระอุ อาเหม่ายกมือขึ้นแตะใบหน้า แม้ยามนี้จะรู้สึกดีขึ้นบ้างแต่ก็ยังเจ็บเอาการ

คุกเข่าอยู่ครึ่งค่อนคืนหัวเข่าและขาทั้งสองข้างของอาเหม่าทั้งเจ็บทั้งชา หากมีคนเดินผ่านไปมาในตอนนี้ ไม่แน่อาจเห็นว่านางเป็นเต่าที่เดินเชื่องช้าตัวหนึ่ง

แต่วิธีของเซี่ยฟั่งก็ถือว่าใช้ได้ผล อย่างน้อยก็รักษาชีวิตของนางไว้ได้ เพียงแค่โดนตบไม่กี่ทีเท่านั้น เทียบกับการลงโทษที่นางคาดไว้ก่อนหน้านี้แล้วยังนับว่าเบามาก มิหนำซ้ำนางอยู่ที่คฤหาสน์สกุลหานนี้มานานก็ใช่ว่าจะไม่เคยถูกหมัวมัวสูงวัยตบตีเสียหน่อย

นางต้องหัดเรียนรู้การสังเกตสีหน้าและวาจาของคนมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นยามนี้นางจึงได้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง

เซี่ยฟั่งบอกว่านางฉลาดเฉลียว แต่นางไม่คิดเช่นนั้น นี่เป็นแค่วิธีเอาตัวรอดของนางเท่านั้นเอง

ผ่านด่านฮูหยินใหญ่แล้ว อาเหม่าพลันรู้สึกสบายกายสบายใจขึ้นมาทันใด รอให้เซี่ยฟั่งสะสางภารกิจในหลายวันนี้แล้ว เขาก็จะสอนนางอ่านเขียนหนังสือ

มิใช่คนอื่นสอน…แต่เป็นเซี่ยฟั่ง

หลังจากย่าจากไป นางก็ไม่เคยถูกใครปกป้องเช่นนี้อีก

อาเหม่าจึงยิ่งชอบเซี่ยฟั่ง

ใบหน้าของนางร้อนผ่าว หัวใจก็พลันร้อนรุ่มไปด้วย

“อึก…อืม…อา…”

เสียงครางแผ่วลอยมากับม่านราตรี เคล้ากับเสียงผิวกายกระทบกันเบาบาง เสียงหายใจหอบของหญิงสาวสลับกับของบุรุษดึงสติอาเหม่ากลับมาทันที

นางเหลียวมองรอบๆ อย่างตระหนก ทว่ากลับไม่เห็นอะไรเลย

ตามหลักแล้วผู้คุ้มกันของคฤหาสน์สกุลหานจะผลัดเปลี่ยนกันลาดตระเวนทุกคืน ไม่อนุญาตให้มีคนลอยชายอยู่ในสวนยามค่ำคืน

แล้วใครอยู่ที่นี่ อยู่ตรงไหนกัน…

นับตั้งแต่วันสารท อาเหม่าก็กลายเป็นคนขวัญอ่อนตกใจง่าย สาวน้อยพยายามสงบสติอารมณ์ ไม่เชื่อว่าเป็นภูตผีวิญญาณ เมื่อเงี่ยหูฟังอีกครั้งก็ยิ่งได้ยินเสียงนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น

“อืม…อื้ม…”

หลังจากตั้งใจเงี่ยหูฟังแล้วก็ได้ยินเสียงที่ยากจะควบคุมของหญิงสาวอย่างชัดเจน ทันใดนั้นอาเหม่าก็นึกขึ้นได้ว่าตนเคยได้ยินเสียงแปลกๆ เช่นนี้ที่ไหนมาก่อน เมื่อครั้งอยู่เวรดึกนอกห้องของฮูหยินใหญ่ ซึ่งหลายปีกว่าจะได้ยินสักครั้ง…

อาเหม่าพลันหน้าซีดเผือด ที่หน้านางไม่แดงมิใช่เพราะหญิงที่ยังไม่ออกเรือนอย่างนางได้ยินแล้วไม่รู้สึกอาย แต่เป็นเพราะความตระหนกนั้นมีมากกว่าความอาย

เรือนนี้เป็นเรือนของนายท่านกับฮูหยินและบุตรจากภรรยาเอก ทว่านายท่านยามนี้ไปที่เรือนอี๋เหนียงสี่ ฮูหยินก็ยังอยู่ที่ห้อง คุณชายใหญ่รักษาตัวอยู่นอกตระกูล เช่นนั้นก็มีเพียง…

คุณหนูสามหานเยียน!

คุณหนูสามที่นิสัยร้ายกาจและกิริยาไม่เรียบร้อยผู้นั้น

อาเหม่าตะลึงเพราะรู้ว่าบ่าวรับใช้ต่างกำลังทำงานตามหน้าที่ของตน ฉะนั้นจึงไม่มีทางมาปรากฏตัวที่นี่ และยามนี้ก็เป็นเวลาผลัดเปลี่ยนเวรของผู้คุ้มกันพอดี ดังนั้นจึงมีเพียงผู้คุ้มกันเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาในบริเวณนี้โดยไม่ถูกใครพบเห็นหรือต่อว่าได้

จึงมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวว่า…คุณหนูสามกำลังมีสัมพันธ์ลับกับผู้คุ้มกัน!

อาเหม่าไม่มีเวลาสนใจแล้วว่าเสียงครวญครางที่ทรมานเคล้าความสุขสมนี้ดังมาจากที่ใด นางหวังเพียงอยากไปจากที่นี่โดยเร็ว อย่าให้อีกฝ่ายรู้ตัวก็พอ นางสาวเท้าอย่างเร็วไว พยายามลงน้ำหนักเท้าให้เบาที่สุด ไม่อยากให้พวกเขารู้ตัวเข้า

เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าหนทางเบื้องหน้าช่างยาวไกล ยาวยิ่งกว่าเส้นทางที่นางกลับคฤหาสน์สกุลหานในคืนวันสารทเสียอีก

แม้สถานการณ์คับขัน ทว่าอาเหม่าก็ไม่ได้ลนลาน ทั้งมิได้เร่งร้อนจนส่งเสียงตึงตังเพื่อจากไปอย่างเดียว แต่นางกลับผ่อนฝีเท้าให้เบาเสียงที่สุด ในที่สุดก็ออกจากประตูสวนมาได้ นางเข่าอ่อนจนทรุดลงที่พื้น ยกมือขึ้นลูบหน้าผากก็พบว่าชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ

นางผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ทว่าลมหายใจยังไม่ทันจางหายไปกับลมราตรี ด้านหลังของนางก็พลันมีคนเรียก “อาเหม่า เจ้ารอเดี๋ยว”

ดั่งถูกฟ้าผ่าเปรี้ยง อาเหม่าตัวแข็งไปชั่วขณะ เหงื่อเย็นๆ ผุดพรายไหลหยดจากหน้าผากมนลงมา

คนเรียกมิใช่หานเยียน ทว่าชื่อที่อีกฝ่ายเรียกนั้นต้องมีคนได้ยินแน่แล้ว!

อาเหม่าพยายามข่มใจให้สงบ หมุนร่างไปมองหมัวมัวที่วิ่งเข้ามาหานาง แล้วฝืนใจแย้มยิ้ม “หมัวมัวมีอะไรหรือ”

หมัวมัวกล่าว “อาเหม่า เมื่อครู่ที่ข้าตบหน้าเจ้า เพราะไม่มีทางเลือกจริงๆ หมัวมัวเองก็ต้องฟังคำสั่งของฮูหยิน เจ้าอย่า…อย่าตำหนิหมัวมัวต่อหน้าพ่อบ้านเซี่ยเลย ข้าเองก็ลำบากใจ เฮ้อ…ดูเจ้าสิ แก้มบวมแดงหมดแล้ว เดี๋ยวข้าจะไปซื้อยามาให้”

“หมัวมัวทำตามหน้าที่ อาเหม่ามิกล้าโกรธท่านหรอก” อาเหม่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “อีกอย่างเกี่ยวอะไรกับพ่อบ้านเซี่ยหรือ”

หมัวมัวนึกว่าอาเหม่าคิดว่าตนพูดพล่าม เรื่องที่ยังไร้ความคืบหน้าไยจึงนำมาพูดต่อหน้าเช่นนี้ หมัวมัวจึงฉีกยิ้ม “ใช่ๆ หมัวมัวพูดมากเอง เจ้ารีบกลับไปพักเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว กลับไปแล้วใช้น้ำอุ่นประคบหน้าก็จะไม่เจ็บแล้ว”

อาเหม่าแย้มยิ้ม มองส่งหมัวมัวเข้าสวนของเรือน จึงก้มหน้าก้มตาเดิน ยามนี้ยามตระหนกจนหัวใจเต้นรัว

หมัวมัวย้อนกลับไปที่เรือนแล้ว เดินสิบกว่าก้าวก็เลี้ยวผ่านบ่อเลี้ยงปลา ภูเขาจำลองขนาดใหญ่นั้นเงียบสงัดและมืดสลัว มิได้รับแสงสว่างจากโคมไฟบนระเบียงทางเดินแม้แต่น้อย

“ฉาดนั้นต้องเจ็บมากแน่ๆ มิฉะนั้นจะเหงื่อชื้นหน้าหรือ หน้าก็ซีดแล้วด้วย…เฮ้อ ไยฮูหยินจึงให้ข้าตบหน้านางเสียได้” หมัวมัวพึมพำต่อว่าตนเอง พลันพบว่าตนเองเดินมาผิดทาง จนใกล้จะเลี้ยวเข้าส่วนลึกของสวนแล้ว นางก็รีบกระวีกระวาดเดินกลับทางเดิม ไปรับใช้ที่เรือนของฮูหยิน

เสียงฝีเท้ายังไม่ทันจากไปจนเงียบ หญิงสาวที่อยู่ในถ้ำกว้างใต้ภูเขาจำลองก็โก่งร่างขึ้นสูง รู้สึกสุขสมทันใด ขาเรียวยาวขาวผ่องตวัดไขว้อยู่บนตัวบุรุษที่ทาบทับอยู่ด้านบน นางเอ่ยว่า “คราวนี้น่าจะไม่มีใครแล้ว”

บุรุษหนุ่มกล่าวปนกลุ้มใจ “ข้าบอกแต่แรกแล้วว่าอย่าเป็นที่นี่ เจ้าก็ยัง…”

“แล้วอย่างไร”

เขายังตกใจไม่หาย “อาเหม่าเป็นคนละเอียดรอบคอบ คิดว่านางน่าจะ…”

“มีอะไรน่ากังวลกัน” แขนเรียวสองข้างของหานเยียนพลันโอบรอบคอบุรุษร่างกำยำ สีหน้าเคลิบเคลิ้ม ทว่าน้ำเสียงกลับเย็นเยียบเหี้ยมเกรียม “นางไม่พูดพล่อยไปหรอก”

บุรุษหนุ่มมีสีหน้าเบาใจ ก่อนได้ยินนางหัวเราะคิกคัก “เพราะคนตายพูดไม่ได้”

 

* มาจากสำนวน ‘กินน้ำส้ม’ ซึ่งหมายถึงการหึงหวง

 

สามารถติดตามอ่านต่อได้ในหนังสือ ‘เซียมซีทายรัก 1-2’ วางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ

11 of 11หน้าถัดไป

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 87-88

    By

    บทที่ 87 ข้อห้าม กู้หมิงเค่อถูกหลี่เจาเกอยั่วโมโหจากไปแล้ว นางอมยิ้มรับช่วงหลักฐาน เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาที่ติดตามนางมา “จงขนสิ่งเหล่านี้กลับกอง...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่าดำออกจากหมู่บ้านมาก็...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ่า เงาดำสายหนึ่งพลัน...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.4-2.6

    By

    บทที่ 2-4 สามีภรรยาปลอม   6   บนหอทองล่วงเข้ากลางคืนแล้ว รอบด้านล้วนจุดโคมไฟ เปลวไฟลุกโชติช่วง ในมุมที่ซย่าชิงยวนนั่งอยู่นางสามารถมองเห็นสัน...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเร้น ภายใต้ผืนนภาราตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทที่ 2.1-2.3

    By

    บทที่ 2-1 สามีภรรยาปลอม   1   เมื่อลู่หย่วนเดินมาถึงหน้าประตูก็รู้สึกลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ผลักประตูเปิดออก สิ่งที่ทำให้เขาสติหลุดล...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญู เบื้องหน้าท้องพระโ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com