ทดลองอ่าน Princess Syndrome ตอนที่ 1 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน Princess Syndrome ตอนที่ 1

ค่ำคืนหนึ่งกลางฤดูร้อน บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่งกำลังจัดงานปาร์ตี้ริมสระที่หรูหรา

ลมเย็นสบายในคืนฤดูร้อนพัดโชยมา ดนตรีเล่นคลอเบาๆ บริเวณรอบสระว่ายน้ำประดับประดาไปด้วยกุหลาบจำนวนเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกที่ขนส่งทางอากาศจากฝรั่งเศสมายังไต้หวัน ดอกไม้สดส่งกลิ่นหอมอบอวล ในงานเปี่ยมด้วยบรรยากาศหรูหราชวนหลงใหล

เหล่าบริกรชายหญิงในชุดทักซิโดหางยาวสีดำเดินขวักไขว่อยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อที่แต่งตัวเลิศหรู พร้อมกับยื่นแชมเปญราคาแพงลิ่วให้แก้วแล้วแก้วเล่า

บนเคาน์เตอร์บาร์กระจกนั้นมีอาหารนานาชนิดที่เชฟระดับมิชลินสตาร์บรรจงปรุงอย่างพิถีพิถันวางเต็มไปหมด มากมายหลายหลากจนลานตา ดูดีทั้งหน้าตา กลิ่น และรสชาติ สร้างความพึงพอใจให้กับแขกผู้มีเกียรติที่ช่างเลือก

ตามรายงานข่าวของนิตยสารก๊อสซิป วันนี้เป็นวันดูตัวระหว่างคุณหนูแห่งกลุ่มบริษัทดอลลี่และคุณชายเล็กแห่งกลุ่มบริษัทรื่อเย่า สองกลุ่มบริษัทใหญ่จะแต่งงานเป็นทองแผ่นเดียวกัน ทำให้หลายต่อหลายคนต่างคิดคำนวณผลประโยชน์เบื้องหลังการแต่งงานครั้งนี้

ทันใดนั้นเอง เสียงดนตรีก็หยุดลง แสงไฟบนเวทีถูกหรี่ลงจนมืดสลัว เหลือเพียงไฟโปรเจ็กเตอร์สองดวงบริเวณทางเข้า ทุกคนต่างกลั้นหายใจและเฝ้ารอ

แล้วราชินีของปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ก็เดินเยื้องย่างออกมาท่ามกลางสปอตไลต์ที่เปล่งแสงวูบวาบ

ชุดราตรีสั้นคอกว้างของดิออร์ เนื้อผ้าชีฟองกึ่งโปร่งแสงสีชมพูนู้ดช่วยเพิ่มกลิ่นอายความเซ็กซี่ ใบหน้าเรียวเล็กงดงามแต่งแต้มสีสันสดสวย ผมยาวประบ่าดัดเป็นลอนสวย ติดด้วยกิ๊บติดผมที่สั่งทำจากสวารอฟสกี้ เพชรเม็ดเล็กๆ เลี่ยมฝังบนกิ๊บติดผมรูปทรงมงกุฎ ดูแล้วสวยเลอค่ามาก

การปรากฏตัวของฉันดึงดูดสายตาของแขกเหรื่อทั้งงานทันที

บรรดาสายตาเหล่านี้ที่มองมาที่ฉันมีทั้งชื่นชม อิจฉาและริษยา บ้างก็เป็นไฮโซ บ้างก็เป็นโลโซ ซึ่งฉันก็ยิ้มทักทายให้กับทุกคนอย่างสง่างาม

บริกรรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินถือถาดเครื่องดื่มเฉียดผ่านฉันไป ดูท่าว่าบริกรของโรงแรมระดับห้าดาวแห่งนี้จะต้องผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ทุกคนล้วนเป็นคนหนุ่มคนสาวรูปร่างหน้าตาดีทั้งสิ้น

ฉันสุ่มเลือกมาหนึ่งคนแล้วหยิบไวน์จากในถาดของเขาหนึ่งแก้ว จากนั้นเอียงศีรษะส่งวิงก์โปรยเสน่ห์ให้เขา เด็กหนุ่มที่น่าสงสารคนนั้นราวกับต้องมนตร์ เขาตัวแข็งทื่อเป็นหินทันทีและมองฉันอย่างนิ่งงัน

ฉันจิบไวน์หนึ่งคำ รอยลิปสติกบางๆ ประทับอยู่บนขอบปากแก้ว ฉันคืนแก้วไวน์ให้เขาพร้อมกับพูดเสียงเมามายว่า “แต๊งกิ้ว~” ชวนเคลิบเคลิ้มเสียเหลือเกิน

ใบหน้าของเด็กหนุ่มค่อยๆ กลายเป็นสีม่วงอมแดง เปล่งประกายแข่งกันกับไวน์ในแก้ว

ว้าว หลินซิงเฉิน ถ้าเกิดวันไหนได้ย้อนเวลากลับไปสมัยโบราณก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะไม่มีข้าวกิน ด้วยหน้าตาที่สะสวยและลักษณะท่าทางที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลนี้ก็สามารถเป็นเบอร์ต้นๆ ในหอนางโลมได้

เบอร์ต้นๆ อย่างฉันแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายเริ่มเข้าหาแขกเหรื่อธรรมดาเหล่านั้น ต่อให้ยืนพิงผนังอยู่เฉยๆ ก็มีฝูงแมลงวันฝูงมดมาเกาะตามตัวฉัน ไล่ยังไงก็ไม่ไป

“นั่นคริสตัลใช่มั้ย”

คริสตัลคือชื่อภาษาอังกฤษของฉัน

“ไฮ คริสตัล! คุณจำผมได้มั้ย ผมอัลเลนไง…” หนุ่มหื่น A ที่ทั้งรวยทั้งเตี้ยเอ่ย

ขอบใจนะที่จำได้ว่าฉันชื่อคริสตัล แต่ฉันรู้จักแต่เฮเลน ไม่รู้จักอัลเลน

“คริสตัล วันนี้คุณสวยที่สุดเลย แม้แต่ดาราสาวเกาหลีที่ชื่อจวนจีฮุนอะไรนั่นก็ยังสู้ไม่ได้ ถ้าเดินบนถนนจงเซี่ยวฝั่งตะวันออกจะต้องมีคนเหลียวมองร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน” หนุ่มหื่น B ที่ทั้งรวยทั้งอ้วนพูด

ขอบใจ อย่าว่าแต่ถนนจงเซี่ยวฝั่งตะวันออกเลย ต่อให้ฉันเดินบนถนนชองป์เซลิเซ่ในปารีส ร้อยทั้งร้อยก็ต้องเหลียวมองฉันเช่นกัน

“คริสตัล หลังจากที่ได้รู้จักเธอ พี่ก็มองไม่เห็นผู้หญิงคนอื่นอีกเลย” หนุ่มหื่น C ที่ทั้งรวยทั้งหัวล้านพูด

มุมปากฉันกระตุก คิดในใจว่าผู้หญิงเดินเกลื่อนกลาดเต็มถนน ถ้าอย่างนั้นตาคุณก็มีปัญหาแล้วล่ะ

“ซิงเฉิน” แม่เล้าวัยกลางคนแต่ยังคงสง่างาม…แม่ใหญ่ของฉันเอง คุณนายเฉินหมิงลี่เดินมาหาฉันอย่างสง่าผ่าเผย

ไม่ใช่ว่าฉันชอบวิพากษ์วิจารณ์นะ เห็นได้ชัดว่าในด้านการทำงานแม่ใหญ่เป็นหญิงแกร่ง แต่บางครั้งรสนิยมการแต่งตัวของเธอทำเอาฉันไม่กล้าสรรเสริญเยินยอจริงๆ วันนี้เธอสวมชุดกี่เพ้าสีเหลืองทองที่สั่งตัดเป็นพิเศษกับรองเท้าส้นสูงสีทอง ทั้งเนื้อทั้งตัวดูเหมือนกับมัสตาร์ดสีเหลืองอ๋อยไม่มีผิด!

ฉันแอบเอามือปิดหน้า ต้องพยายามข่มใจสุดฤทธิ์ถึงจะไม่พูดคำพูดนี้ออกมา

“เธอมาสายนะ” แม่ใหญ่กล่าว แล้วแสร้งทำหน้าตาใจดีมีเมตตาพลางลูบปอยผมข้างใบหน้าฉัน

ฉันดึงมือเธอออกอย่างเบามือแล้วยิ้มบางๆ “หนูเป็นคนพิเศษของงานนี่คะ”

แม่ใหญ่ควงแขนฉัน คนนอกคงมองว่าแม่ลูกรักใคร่กันดี แต่ความจริงแล้วเธอกลัวว่าฉันจะวิ่งหนีไป จึงตั้งใจจะควบคุมตัวฉันไปพบคุณปู่สกุลเจิ้งที่ห้องวีไอพี

ปกติสีหน้าของคุณปู่เจิ้งจะเคร่งขรึม แต่พอเห็นฉัน ท่านก็ยิ้มตาหยีและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เจ้าเด็กคนนี้มีบุญวาสนาจริงๆ ว่าที่ภรรยาสวยอย่างกับนางแบบแน่ะ”

ขอบคุณค่ะ ทั้งกรีดตาสองชั้นและเสริมจมูกโด่ง คุ้มแล้วจริงๆ ที่ทนเจ็บมาสามสี่ครั้ง

ผู้คนที่ฉันรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างพากันห้อมล้อมฉันกับแม่ใหญ่และทักทายอย่างสุภาพ

“เหมาะกันเหมือนกิ่งทองใบหยกเลย!”

“สวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กันจริงๆ”

กิ่งทองใบหยก สวรรค์ส่งมาให้คู่กัน บ้าบอน่ะสิ

“ซิงเฉินชอบทานอะไรบ้าง ทานได้เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“หนูไม่ค่อยเลือกทานเท่าไหร่ แต่ว่าขอบคุณค่ะ หนูอิ่มแล้ว…” เพื่อที่จะยัดตัวเองลงในชุดราตรีสั้นของดิออร์ตัวนี้ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย

“ได้ยินว่าคริสตัลเรียนหนังสืออยู่ที่โตเกียวตลอด ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างจ๊ะ มีที่เที่ยวแบบเป็นส่วนตัวพอจะแนะนำบ้างมั้ย” คุณป้าที่สวมชุดราตรีแบรนด์อิซเซ่ มิยาเกะคนหนึ่งจูงมือฉันอย่างกระตือรือร้น “พี่อยู่ที่ยุโรปมานาน บอกตามตรงว่าไม่ค่อยคุ้นเคยประเทศญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ วันหลังถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นคงต้องให้เธอเป็นไกด์ให้แล้ว” ขณะที่พูด คางสามชั้นอันอวบอิ่มของหล่อนก็กระเพื่อมไม่หยุด การที่สามารถสวมชุดราตรีอัดพลีตสุดคลาสสิกของอิซเซ่ มิยาเกะออกมาดูตลกได้ คุณป้าคนนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

“หนูไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวเล่นน่ะค่ะ…” ฉันมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย “หนูชอบอ่านหนังสือ วาดรูป ปีนป่ายอยู่ที่บ้าน แล้วก็ดูพวกโชว์ต่างๆ บ้างเป็นครั้งคราว”

“ซิงเฉินของเราเป็นพวกรักสงบ เธอมีอารมณ์ศิลปินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ” แม่ใหญ่พูดพลางยิ้มฝืนๆ

ฉันป้องปากหัวเราะเบาๆ นานๆ ทีจะรู้สึกเขินอาย

ฟ้าดินรู้ดีว่าฉันอ่านหนังสืออะไร วาดรูปอะไร ปีนป่ายอะไร แล้วก็ดูโชว์ประเภทไหน

ฉันอ่านหนังสือการ์ตูน วาดการ์ตูน ปีนป่ายนอนก่ายหมอน และดูแต่แฟชั่นโชว์

ถ้าถามต่อว่าฉันชอบอ่านการ์ตูนอะไรบ้าง

มิยูกิ อาเบะ, ยูกะ นิตตะ, ยู ฮิกูริ, อายาโนะ ยามาเนะ, ชิโฮะ สุงิอุระ, ฮิโระทากะ คิซารากิ, ริฮิโตะ ทาคาราอิ และอาซามิ โทโจ…ผลงานของนักเขียนการ์ตูนแนวบอยส์เลิฟเหล่านี้ฉันสามารถจำได้หมด ให้พูดตอนนี้ก็พูดได้ไม่หมด จะว่าไปตอนที่อาจารย์อาซามิ โทโจลาโลกไป ฉันยังร้องไห้อย่างกับแม่ตายแน่ะ

การแสดงถามตอบที่ปากไม่ตรงกับใจระหว่างคุณหนูตระกูลดังและแขกเหรื่อเสร็จสิ้นลง ถ้าขืนพูดต่อไปฉันกลัวว่าจมูกจะงอกยาวขึ้น จึงรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกมา

“หนูไปหาเจิ้งฉู่เย่านะคะ ลองดูซิว่าจะปลูกต้นรักด้วยกันได้มั้ย” ไปหาเจ้าเด็กขี้ฉุนเฉียวเป็นเพียงข้ออ้าง ฉันแค่อยากปลูกต้นรักกับอาหารต่างหาก

“ไปเถอะจ้ะ หนุ่มสาวคุยกันเยอะๆ ก็ดีเหมือนกัน” แม่ใหญ่พยักหน้า ตบที่หลังมือฉันเบาๆ แล้วกระซิบข้างหูฉันว่า “ยินดีด้วยนะ ซิงเฉิน คุณปู่เจิ้งพออกพอใจเธอมากทีเดียว เรื่องแต่งงานนับว่าสำเร็จแล้ว” ดูเหมือนว่าแววตารักใคร่เอ็นดูของเธอจะไม่ได้มองฉัน หากแต่กำลังมองต้นไม้เงินต้นไม้ทองที่ทอประกายสีทองวิบวับ

ส่วนใหญ่แล้วการแต่งงานเกี่ยวดองกันของตระกูลเศรษฐีทรงอิทธิพลนั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ส่วนความรู้สึกนึกคิดของพวกเด็กๆ ล้วนเป็นเพียงก้อนเมฆที่ล่องลอยในอากาศ…เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกเศร้าซึมไปพักหนึ่ง

ฉันถือไวน์หนึ่งแก้ว คีบผลไม้สามสี่ชิ้นวางลงในจานกระเบื้องสีขาว แล้วนั่งลงในกระโจมข้างสระว่ายน้ำ เตรียมที่จะรับประทานอาหารมื้อแรกของวันนี้อย่างมีความสุข

Comments

comments

Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com