ทั้งสองคนนิ่งเงียบด้วยความอึดอัดขัดเขินอยู่ครู่หนึ่ง ฉีซู่จึงฝืนยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “นี่คงจะเป็นรัชทายาททำไว้…”
เด็กหนุ่มงุนงงไปชั่วขณะ แล้วจึงเข้าใจว่านางกำลังตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเขา เขาใช้สองนิ้วคีบตะขอทองขึ้นมาแล้วเอ่ยถาม “รัชทายาทชอบทำเรื่องเช่นนี้หรือ”
“รัชทายาทนิสัยยังเป็นเด็กอยู่มาก บางครั้งก็จะกลั่นแกล้งคนในวังเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่มีเจตนาร้าย” ฉีซู่อดจะปกป้องภาพลักษณ์ของหลี่เฉิงเพ่ยต่อหน้าคนนอกไม่ได้ “ไม่ว่าอย่างไร…ต้องขอขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ”
เด็กหนุ่มย่นหัวคิ้วน้อยๆ แม้ไม่มีเจตนาร้าย แต่วางกลไกเช่นนี้ก็อันตรายเกินไปแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ดึงเด็กสาวผู้นี้หลบได้ทันท่วงที เกรงว่าตอนนี้นางคงได้รับบาดเจ็บ ถ้าได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ชีวิตของเด็กสาวคงถูกทำลายแล้ว
แม้จะคิดเช่นนี้ เด็กหนุ่มกลับไม่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัชทายาท จึงเพียงพยักหน้าให้นางพลางว่า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” พูดจบเขาก็คิดจะหมุนตัวเดินจากไป
“คุณชาย” ฉีซู่ส่งเสียงเรียกเบาๆ อยู่ข้างหลัง
เด็กหนุ่มจึงหมุนตัวกลับมา ถามเสียงอ่อนโยน “แม่นางน้อยมีอะไรหรือ”
ฉีซู่หน้าแดงเล็กน้อย ชี้ไปที่แขนของเขา เด็กหนุ่มก้มลงมองถึงพบว่าเมื่อครู่ตอนดึงฉีซู่หลบ เสื้อของตนถูกตะขอทองเกี่ยวขาดเป็นรูยาวราวหนึ่งชุ่น* สีหน้าของเขาพลันดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที “คราวนี้แย่แล้ว เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เกรงว่าคงต้องถูกวังกลางตำหนิแล้ว”
เขามาเข้าเฝ้าฮองเฮาหรอกหรือ ฉีซู่คิด ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาช่วยนาง ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องหาวิธีซ่อมแซมกลับคืนให้เขาจึงจะถูก ฉีซู่จึงรวบรวมความกล้าบอกกับเขา “ที่พักของข้าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ถ้าคุณชายไม่รังเกียจ โปรดตามข้าไป บางทีอาจพอหาวิธีแก้ไขได้”
เด็กหนุ่มมีท่าทีลังเล เด็กสาวตรงหน้ายังไม่รู้ฐานะชัดเจน คบหากันส่วนตัวเกรงจะไม่ค่อยเหมาะสม แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากเสียมารยาทต่อพระพักตร์ฮองเฮา ดังนั้นในที่สุดเขาก็ทำตามคำแนะนำของฉีซู่
ฉีซู่พาเด็กหนุ่มไปตามเส้นทางเล็กที่ไม่ค่อยมีคน และเข้าไปยังห้องพักของตนเงียบๆ
เด็กหนุ่มกวาดตามองห้องพักคร่าวๆ เพียงเห็นในห้องค่อนข้างกว้างและสว่าง กลางห้องมีฉากบังลมสีขาวกั้นแบ่งบริเวณ ด้านในฉากบังลมมีเงาม่านโปร่งสั่นไหว คงจะเป็นที่ตั้งของเตียงนอน ด้านนอกของฉากบังลม ซ้ายมือมีโต๊ะยาวตั้งอยู่ บนโต๊ะมีหนังสือ กระดาษ หมึกวางเรียงราย ข้างโต๊ะมีม้านั่ง ตั่งพิง ด้านขวาของฉากบังลมมีหีบต่างๆ และที่ทอผ้าหลังหนึ่ง ทั้งห้องเรียบง่ายไม่หรูหรา มุมห้องมีแจกันประดับอยู่ใบเดียว ในแจกันมีดอกเบญจมาศสีชมพูอ่อนปักอยู่ไม่กี่ดอก
ฉีซู่เปิดหีบหาเสื้อกันลมออกมาตัวหนึ่ง กล่าวกับเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ “ห้องข้าไม่มีเสื้อผ้าบุรุษ คุณชายทนลำบากสักหน่อย ใช้เสื้อเก่าของข้าปิดคลุมร่างชั่วคราว จะได้ไม่กระทบถูกความหนาวเย็น”
พูดจบฉีซู่ก็หันหลังให้ เด็กหนุ่มถอดเสื้อสีม่วงออกมา เอาเสื้อกันลมคลุมไว้บนหัวไหล่ จากนั้นก็ยื่นเสื้อคลุมยาวให้ฉีซู่พลางกล่าว “รบกวนแล้ว”
ฉีซู่เตรียมเข็มกับด้ายเอาไว้แล้ว พอนางรับเสื้อคลุมมาก็เริ่มลงมือเย็บปะทันที
เด็กหนุ่มนั่งลงที่ข้างโต๊ะ มองฉีซู่ใช้เข็มกับด้ายในมืออย่างชำนิชำนาญ ในห้องเงียบสงบไร้สุ้มเสียง มีเพียงเสียงแผ่วเบายามเข็มกับด้ายสอดผ่านเนื้อผ้า
* ชุ่น เป็นหน่วยมาตราวัดของจีนสมัยโบราณ เทียบความยาวประมาณ 1 นิ้ว
หมูกระต่าย
พฤศจิกายน 2, 2017 at 4:17 PM
อยากอ่านแล้วค่าาาา รอนะค้าาา