ทดลองอ่านนิยายวาย ปราชญ์กู้บัลลังก์ บทที่ 3.2 #นิยายวาย – หน้า 9 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่านนิยายวาย ปราชญ์กู้บัลลังก์ บทที่ 3.2 #นิยายวาย

โหยวเหมี่ยวเอาตะเกียบคนโจ๊กแล้วคีบขิงซอยเป็นเส้นออกไปวางด้านข้าง มู่ฉีเอ๋อร์เอามือประสานกันด้านหน้าละล่ำละลักพูดว่า “ใช่ๆ คำนั้นแหละ…”

โหยวเหมี่ยวนั่งฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขารู้ว่ามู่ฉีเอ๋อร์ก็ทนอยู่ไม่ไหวแล้ว อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนของโหยวเหมี่ยว ย่อมคาดหวังให้เขาพาไปอยู่เมืองหลวงด้วยเหมือนสือฉีเอ๋อร์ อย่างน้อยนี่ก็เป็นความคิดที่ดีอย่างหนึ่ง

แต่โหยวเหมี่ยวตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับไปเมืองหลวง หากโหยวเต๋อชวนอยากให้เขาไป โหยวเหมี่ยวไม่มีทางทำตามความต้องการของอีกฝ่าย เรื่องอะไรจะปล่อยกิจการของทางบ้านให้โหยวฮั่นเกอ เจ้านั่นไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ในเมื่อเป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาเอกเหมือนกัน กิจการของปราสาทเขาปี้อวี่แห่งนี้ก็ต้องแบ่งกันอย่างเท่าเทียม เดิมทีโหยวเหมี่ยวไม่เคยคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบิดา แต่พอเห็นคนไม่รู้จักทำตัวเป็นนกกาเหว่าแย่งชิงรังนกสาลิกาก็กล้ำกลืนฝืนทนไม่ไหว

เขาจะไม่กลับไปสอบเป็นขุนนางที่เมืองหลวง ท่านพ่อต้องการให้เขาทำอะไร เขาจะไม่ยอมทำตามทั้งนั้น ตาแก่นั่นคิดว่าเรื่องทุกอย่างต้องเป็นไปตามใจต้องการอย่างนั้นหรือ อย่าฝัน!

โหยวเหมี่ยวเขวี้ยงตะเกียบทิ้ง ตัดสินใจว่าจะอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อ ต่อให้เกลียดชังนางหวังและโหยวฮั่นเกอสองแม่ลูกสักแค่ไหนก็ต้องอยู่สู้กับคนพวกนั้น

หลังจากโหยวเหมี่ยวกินข้าวเช้าแล้วก็ยังรู้สึกว่าร่างกายอ่อนปวกเปียกไม่มีแรง ในหัวมีเสียงดังวิ้งๆ ตลอดเวลา ใต้เท้าเบาหวิวเหมือนเหยียบปุยนุ่น จึงล้มตัวลงบนเตียง หลับไปนานเท่าไรก็สุดรู้ จนกระทั่งรู้สึกว่ามีนิ้วเย็นๆ สัมผัสหน้าผากตนเอง พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นมู่ฉีเอ๋อร์กำลังโมโห “อากาศบนเขาค่อนข้างชื้น ช่วงเหมันต์มักจะมีฝนตกบ่อยๆ”

“มีไข้แล้ว” เสียงหลี่จื้อเฟิงตอบ

มู่ฉีเอ๋อร์รีบขยับเข้ามาดูด้วยความตกใจ โหยวเหมี่ยวลุกขึ้นอย่างอ่อนเพลียแล้วเอ่ยว่า “ไม่เป็นอะไรมาก แค่ไม่ชินอากาศเท่านั้น คงเพราะไม่ได้กลับบ้านตั้งสามปี นอนพักไม่กี่วันเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”

โหยวเหมี่ยวนอนหลับไปทั้งที่ยังแต่งตัวเต็มยศ หลี่จื้อเฟิงจึงประคองเขาขึ้นมาเพื่อช่วยถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก แล้วจัดแจงให้เขานอนสบายขึ้น จากนั้นยกเตาไฟเข้ามา ในที่สุดโหยวเหมี่ยวที่หนาวจนต้องนอนขดตัวสั่นระริกอยู่ใต้ผ้านวมก็รู้สึกอุ่นขึ้น

หลี่จื้อเฟิงออกไปนอกห้องแล้วบอกว่า “เชิญหมอ”

“รีบบอกนายท่านก่อน เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปรายงาน” มู่ฉีเอ๋อร์เอ่ย

หลี่จื้อเฟิงโบกมือแล้วชี้ที่พื้น บอกให้มู่ฉีเอ๋อร์อยู่ที่นี่ จากนั้นเปลี่ยนชุดแล้วเดินลัดเลาะระเบียงไปที่เรือนใหญ่

 

เมื่อคืนโหยวเต๋อชวนโกรธจัด ตอนกลางคืนดื่มยาดับร้อนในตับสองชามก่อนนอน เช้ามาฟ้ายังไม่สว่างก็ตื่นมานั่งใจลอยอยู่ในห้องโถง โหยวฮั่นเกอก็ตื่นแต่เช้า แวะมาทักทายบิดา โหยวเต๋อชวนแค่พยักหน้าเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็ถือถ้วยชานั่งเหม่อต่อ

โหยวฮั่นเกอก็ไม่ได้ปริปากพูด ทรุดตัวลงนั่งในห้องโถง

นางหวังแต่งตัวเสร็จ เดินออกมาก็เห็นคนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา บ่าวรับใช้ยกอาหารเข้ามาวาง ในที่สุดโหยวฮั่นเกอก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “ลุงหลิน ช่วยอะไรหน่อย ไปดูสิว่าน้องชายข้าตื่นหรือยัง”

พ่อบ้านประสานมือ หรี่ตาลงครึ่งหนึ่งพลางเอ่ยว่า “เมื่อครู่เพิ่งมาจากทางนั้น คุณชายรองยังนอนหลับอยู่ขอรับ”

“กินไปเถอะ ไม่ต้องสนใจเจ้าเดรัจฉานนั่น” โหยวเต๋อชวนแค่นเสียงเย็นชา

Comments

comments

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com