ทดลองอ่านนิยายวาย ปราชญ์กู้บัลลังก์ บทที่ 5.1 #นิยายวาย – หน้า 9 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่านนิยายวาย ปราชญ์กู้บัลลังก์ บทที่ 5.1 #นิยายวาย

“อื้ม” หลี่จื้อเฟิงพยักหน้า “ไม่ไปทั้งหมด”

โหยวเหมี่ยวลุกขึ้นเดินช้าๆ ในสวน “คนผอมน่าจะไม่ไป แค่ได้ยินว่าคนที่เหลือขึ้นมาก็เลยตามมาขอผลประโยชน์ด้วยเท่านั้น ตาแก่ก็ไม่แน่ว่าจะไป คนทำไร่ไถนาจนเคยชิน ไปอยู่หลิวโจวก็อึดอัด คนหนุ่มพ่อแม่ตายหมดแล้ว จิตใจทะเยอทะยาน ไม่อยากทำไร่ไถนาก็เป็นเรื่องปกติ”

“หลี่จวงก็ไม่แน่” หลี่จื้อเฟิงเอ่ย “เจ้าลดค่าเช่า เขาคงไม่ไป”

โหยวเหมี่ยวพยักหน้า เริ่มรู้สึกปวดหัวนิดๆ “ที่ดินของปราสาทเขาเจียงปัวแห้งแล้งขนาดนั้นเลยหรือ”

“ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องการเพาะปลูก”

คงต้องศึกษาดูแล้ว เวลานี้กระทั่งกิจการของตัวเองเป็นอย่างไร โหยวเหมี่ยวยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นหุนหันพลันแล่นวิ่งมา ตอนนี้ดูจากสภาพแล้ว ต่อให้อยากขายเป็นเงินคงขายไม่ออก

ที่ดินที่มารดาทิ้งไว้ให้ตัวเองคงขายไม่ได้แล้ว

โหยวเหมี่ยวตั้งสติขบคิดอย่างรอบคอบ “ลองเดินไปดูให้ทั่วๆ ก่อน บ้านยังไม่ต้องรีบร้อนเก็บกวาด”

“ปราสาทเขาเจียงปัวทั้งหมด” โหยวเหมี่ยวกับหลี่จื้อเฟิงเดินไปทางประตูใหญ่ “ที่ดินกว่าครึ่งเป็นพื้นที่รกร้าง”

หลี่จื้อเฟิงรับคำแล้วกล่าวว่า “ต้องคิดหาทางบุกเบิก”

“ควรบุกเบิก แต่ไม่รู้ว่าที่ดินแถวนี้เหมาะจะปลูกอะไร เหมาะจะใช้เพาะปลูกหรือไม่”

โหยวเหมี่ยวจูงมือหลี่จื้อเฟิง ทั้งสองคนเดินเคียงไหล่กันอ้อมผนังฉากกั้น โหยวเหมี่ยวพึมพำกับตัวเอง “ช่วงหลายปีแรกท่าจะลำบากหน่อย คงมีไม่กี่คนที่ยินดีมาทำไร่ไถนาที่นี่ เราต้องลองเพาะปลูกกันเองก่อน เรื่องไม่มีน้ำก็เป็นปัญหาใหญ่ เวลาและกำลังของคนเช่าที่ต้องสูญเสียไปกับการหาบน้ำไปรดพืชผัก”

“หรือจะให้ข้าไปเรียกคนจากในเมือง”

“เรียกคนมาได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าเรียกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พวกเราค่อยๆ บุกเบิกกันเอง พึ่งพาตัวเอง ปลูกผักเลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูสักตัว ส่วนข้าวสารก็ซื้อจากข้างนอก”

“…”

“ปลูกชาทำเงินได้มากสุด แต่ก็ยังมีพ่อข้าคอยกดราคาชา และการไปแย่งปลูกกับเขาก็เท่ากับรนหาที่ตายนั่นแหละ” โหยวเหมี่ยวกระชากต้นตีนตุ๊กแกทิ้ง หลี่จื้อเฟิงขยับเข้าไปช่วย ทั้งสองคนอยากจะรื้อผนังฉากกั้นให้โล่งสะอาดตา จากนั้นโหยวเหมี่ยวเอ่ยต่อว่า “ปลูกเล่นก็พอได้ ข้าว่าภูเขาทางโน้น ล้อมรั้วที่ดินเล็กๆ ตรงนั้น ซื้อต้นชามาปลูกนิดหน่อย นานๆ แวะไปดูสักครั้งก็พอ”

“อ้อ” หลี่จื้อเฟิงพยักหน้า “มีเหตุผล”

“จากนั้นเราก็เลือกที่ที่ดินดีจากบริเวณรอบๆ นี้ เรียกคนงานหลายคนมาช่วยกันไถดินสักหน่อย แล้วหว่านเมล็ดผักปลูกผักที่ตัวเองชอบกิน”

“ได้”

หลี่จื้อเฟิงไม่ได้ออกความคิดเห็น เขารู้ว่าโหยวเหมี่ยวพูดออกมาก็เพื่อตรึกตรองความคิดของตัวเอง ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป คงต้องจัดการความเป็นอยู่ให้เข้าที่เข้าทางก่อน เก็บกวาดบ้านแล้วค่อยเริ่มพัฒนาปราสาทเขา โหยวเหมี่ยวดึงต้นตีนตุ๊กแกออกจากผนังฉากกั้นได้ครึ่งหนึ่งก็เห็นตัวอักษรหนักแน่นทรงพลังเขียนเป็นแถว จึงหลุดปากอุทานว่า “มีบทกวีด้วยหรือ”

“เคยเห็นเงา…” โหยวเหมี่ยวพึมพำ “เจ้าของคนก่อนคงเป็นบัณฑิตรอบรู้ ขอข้าดูหน่อย…”

เมื่อดึงต้นตีนตุ๊กแกออก บทกวีแถวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

Comments

comments

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com