Jamsai
ทดลองอ่าน เกมล่าเดิมพันรัก บทที่ 5
บทที่ 5
เปาะแปะ เปาะแปะ
ขณะที่เธอครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นหูก็ได้ยินเสียงฝนตก
ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว เธอรู้สึกว่าโลกสั่นไหวเล็กน้อย คงมีใครสักคนยกเธอขึ้นมา เธอรู้สึกว่ากำลังถูกขนย้าย
เสียงเครื่องจักรทำงานดังอยู่ข้างหู เบาบ้างดังบ้างสลับกันเหมือนกับเดี๋ยวก็ใกล้เดี๋ยวก็ไกล
เธอควรจะหวาดกลัว คนทั่วไปน่าจะรู้สึกแบบนั้นสินะ แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
เธอถูกพรากทุกอย่างไปตั้งแต่เล็กๆ องค์กรแบล็กแชโดว์ทำให้เธอไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่มีความรู้สึกรักโลภโกรธหลง ไม่มีอารมณ์อื่นใด สิ่งเดียวที่มีก็คือความมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ
เธอไม่กลัว เธอไม่รู้ว่าความกลัวเป็นอย่างไร เพราะเธอไม่มีอะไรเลย
ไม่มีอะไรเลย…
เธอจับถูกใส่ไว้ในกล่องใบหนึ่ง มีแต่ความมืดมิด แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงฝนตก
เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ
ในขณะที่ยังมึนงงนั้น เหมือนเสียงฝนจะพาเธอกลับไปบ้านเรือนั่น
…
แสงสลัวส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาเล็กน้อย ฝนกำลังตก…เปาะแปะ เปาะแปะ
เธอนอนอยู่ใต้ช่องรับแสง มองดูเม็ดฝนที่ตกกระทบกระจกหน้าต่างแล้วไหลลงมากระจายไปทุกทิศทุกทาง
เสียงเปิดประตูดังขึ้น ตามด้วยเสียงเดินลงบันได เสียงฝีเท้าการก้าวเดินของผู้ชายคนนั้นหนักแน่นและไม่ได้มีความคิดที่จะปกปิดเลยสักนิด เธอลุกขึ้นนั่ง มองเห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาบวมช้ำ เหนือตาขวามีรอยแผลโดนของมีคมบาดยาวประมาณสองเซนติเมตร มีเลือดสดๆ ไหลออกมา เขายกมือขึ้นเช็ดเป็นครั้งคราว แต่เลือดก็ยังคงไหลเป็นทาง หยดลงไปที่ไม้กระดานแล้วเขาก็เหยียบย่ำจนเลอะไปทั่ว
เขาถอดเสื้อโค้ตกันลมที่เปียกแฉะโยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ ตามด้วยเสื้อเชิ้ตที่ขาดวิ่น ต่อมาก็คือเข็มขัดและกางเกงที่เปียกไปครึ่งตัว เขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่เหลียวมองแม้แต่น้อย ทิ้งไว้แต่รอยน้ำฝนและรอยเลือดตามทางเดินไปยังห้องน้ำ
เธอได้ยินเสียงน้ำ เขากำลังอาบน้ำ เธอลุกขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าที่เปียกแฉะแล้วค่อยหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดรอยเลือดและหยดน้ำที่เขาทิ้งไว้บนไม้กระดาน
ไม่กี่นาทีถัดมา เขาสวมกางเกงขาสั้นเดินออกมา แผลเหนือคิ้วขวายังคงมีเลือดไหล เขาเช็ดมันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขายกมือขึ้นกดปากแผลไว้พร้อมเดินไปข้างโต๊ะทำงาน ดึงลิ้นชักออกมารื้อค้น แล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ทำอาหารดึงลิ้นชักออกมาอีก ทำเสียงดังตึงตังตลอดเวลา
เมื่อเขาก่นด่าด้วยความไม่สบอารมณ์แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกรอบ หยิบขวดวิสกี้ออกจากลิ้นชัก เธอวางผ้าขี้ริ้วในมือเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ในตู้เก็บของข้างๆ โต๊ะแล้วยื่นให้เขา
‘ฉันว่าคุณกำลังหาเจ้านี่อยู่นะ’
ตอนนี้เองเขาถึงเงยหน้าขึ้นมองเธอ
เธอเห็นเขาขมวดคิ้ว ทำแบบนี้น่าจะกระเทือนถึงแผลเหนือคิ้วขวา แต่อย่างไรซะเขาก็ยอมวางขวดเหล้านั่นลงและยื่นมือมารับกล่องปฐมพยาบาลไป
เขาใช้สองมือเปิดกล่อง แผลบนคิ้วเขามีเลือดไหลออกมา มันไหลลงไปที่ดวงตาทำให้เขามองอะไรไม่ชัด เขาสบถด่าออกมาแล้วโยนกล่องปฐมพยาบาลไปทันทีจนมันแตกกระจาย
อารมณ์โกรธหงุดหงิดที่ไม่รู้สาเหตุนั่นไม่ได้ทำให้เธอตกใจ แต่กลับเป็นเขาที่ตกใจเสียเอง
เขาถลึงตามองกล่องปฐมพยาบาลที่ตกแตก กล้ามเนื้อทั้งตัวตึงเครียดทันที แต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเธอ
ตอนนี้บรรยากาศในห้องเงียบสงัดเหลือเกิน เธอสามารถได้ยินเสียงหายใจฟืดฟาดของเขา มองเห็นเขากำหมัดแน่น
แผลเหนือคิ้วมีเลือดไหลออกมาอีก ไหลออกมาทีละหยดๆ ร่วงหล่นย้อมตาขาวให้เป็นสีแดง แล้วก็ไหลมาตามใบหน้า ก่อนหยดลงไปที่พื้น
เขาไม่ได้อยากให้เธออยู่ที่นี่ เธอรู้
นี่เป็นที่ของเขา เป็นรังเขา เขาควรจะได้เลียแผลตามลำพัง
เธอควรจะจากไป แม้ว่าข้างนอกจะฝนตก แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้เธอมีสิทธิ์จะอยู่ที่นี่
แม้เธอจะเป็นคนรับรู้ความรู้สึกได้ช้า ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วไปเท่าไรนัก แต่ก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องรับเธอเอาไว้ เมื่อเดือนก่อนตอนที่เธอปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เขาไม่ได้ไล่เธอไปเพราะเขารู้ว่าเธอไม่มีที่ไป
เธอหมุนตัวกลับ รู้ดีว่าควรจะออกไปด้านนอก เขาต้องการความเป็นส่วนตัว เธอสามารถคืนความเป็นส่วนตัวให้เขาได้ชั่วคราวในตอนนี้
แต่เมื่อเดินผ่านกองกล่องปฐมพยาบาลที่แตกกระจายเธอก็หยุดก้าวเท้า มองกล่องปฐมพยาบาลนั่นซึ่งเลอะเลือด ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่จัดการกับบาดแผลนั่นแล้ว
เธอมองเงาที่สะท้อนจากกระจกหน้าต่างของเรือ มองเห็นชายที่กำลังโกรธจัดยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองเห็นเลือดสดๆ ที่ไหลตกลงมาทีละหยดๆ
อาจจะเป็นเพราะบาดแผลหรือเป็นเพราะเรื่องอื่นเขาถึงได้เป็นแบบนี้ แต่คงไม่ได้หนักหนาสาหัสเพราะร่างกายเขายังแข็งแรงดี ถึงแม้ว่าจะไม่ทำอะไรเลือดก็จะแข็งตัวและหยุดไหลเอง ขอเพียงแค่ไม่โดนน้ำอีก จากนั้นแผลก็จะตกสะเก็ด สุดท้ายก็เหลือแผลเป็นน่าเกลียดทิ้งไว้
เธอควรจะออกไป แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงทำอย่างนั้นไม่ได้
เขาเจ็บปวดมาก เธอรู้
ทั้งเจ็บปวดและโมโห
นี่คงเป็นวันที่แย่มากจริงๆ ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่เพียงแค่มองเขาในตอนนี้ก็รู้ว่าต้องเป็นวันที่แย่สุดๆ สำหรับเขา
ก่อนที่เธอจะทันรู้ตัว เธอก็นั่งลงเก็บสำลีแผ่น สำลีก้าน แอลกอฮอล์ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำเกลือ อาจเป็นเพราะว่าต้องใช้อยู่ประจำ แม้แต่เข็มกับด้ายสำหรับเย็บแผลเขาก็มีพร้อม
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืน หยิบกล่องปฐมพยาบาลที่แตกเสียหายเดินกลับไป
มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองทำถูกต้องหรือไม่ ขณะที่เธอยื่นสำลีไปทางเขา ลางสังหรณ์เธอบอกว่าเขาจะผลักเธอออกหรือไม่ก็คงจะสั่งให้เธอไสหัวออกไป
แต่เขาเพียงแค่เงยหน้าถมึงทึงพร้อมดวงตาเปื้อนเลือดจ้องเขม็งมาที่เธอ
เธอไม่ได้ถอยหนี แต่จ้องตอบด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก แล้วกดสำลีไปที่บาดแผลตรงเหนือคิ้วเขา
‘กดไว้’ เธอบอก
ตอนแรกเขานิ่งเฉย ทำเพียงหลุบสายตาเกรี้ยวกราดนั้นลง
เธอไม่ได้ดึงมือกลับ เขาก็ไม่ขยับ
ในขณะที่เธอรู้สึกว่าเธอกับผู้ชายคนนี้คงจะยืนนิ่งอยู่อีกนาน เขาก็ยกมือขึ้นกดสำลีไว้ เมื่อแน่ใจว่าเขากดสำลีไว้ดีแล้วเธอจึงปล่อยมือออก
‘ไปนั่งที่โซฟาเถอะ ตรงนั้นสว่างหน่อย’ เธอบอก
เขาขยับตัวไปนั่งบนโซฟา เธอถือกล่องปฐมพยาบาลตามไป เมื่อเอาของทั้งหมดวางลงบนโต๊ะน้ำชาข้างๆ โซฟาถึงได้สังเกตเห็นว่าเขาเอาสำลีออกแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อให้เธอให้เธอใช้น้ำเกลือทำความสะอาดบาดแผลให้เขา จากนั้นก็ฆ่าเชื้อแล้วใช้เข็มเย็บบาดแผลให้ติดกัน
เธอทำเรื่องพวกนี้อย่างคล่องแคล่ว หลายปีที่ผ่านมาเธอต้องเย็บแผลให้ตัวเองหลายครั้ง
ภายนอกบ้านเรือ ฝนยังคงตกอยู่
เธอรู้สึกว่าขณะที่เธอกำลังทำแผลให้เขาอยู่นั้น เขาพยายามระงับอารมณ์โกรธไม่ให้ระเบิดออกมา เมื่อเธอหยิบกรรไกรมาตัดเส้นด้ายเขาถึงได้สงบลง
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่เขาละสายตาไปจากเธอ เขาก้มหน้าลง เธอใช้สำลีที่ชุบน้ำเกลือจนเปียกชื้นเช็ดเลือดบนใบหน้าเขาโดยที่เขาไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
จากนั้นเธอก็จัดการกับสำลี สำลีก้านที่เปื้อนเลือด แล้วเอากล่องปฐมพยาบาลที่แตกไปไว้ที่เคาน์เตอร์ทำอาหาร เปลี่ยนใส่กล่องเก็บของชั่วคราว ขณะที่เธอเงยหน้าเพื่อมองดูเขานั้นก็เห็นว่าเขานอนราบอยู่บนโซฟาแล้ว
เมื่อเธอเดินผ่านไปก็เห็นชายหนุ่มนอนหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย
บางทีอาจจะนอนหลับ หรือไม่ก็แค่หลับตาลงเฉยๆ
เธอหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้อง ไม่ได้รบกวนเขาอีก
ค่ำนั้นเธอออกไปซื้อของใช้ เมื่อได้ดูโทรทัศน์ในร้านค้าจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ภรรยาของผีพนันไม่อาจอดทนต่อความรุนแรงที่สามีมอบให้มานานได้ ตั้งใจจะพาลูกสาวหนีไป คนเป็นสามีถือปืนบุกเข้าไปในสถานีรถไฟ จับตัวภรรยาและลูกสาวไว้
มีฮีโร่ที่อยู่ข้างทางเข้าไปช่วย ตั้งใจจะเกลี้ยกล่อมผีพนันนั่น แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
เมื่อฮีโร่ผู้นั้นรู้ว่าการเกลี้ยกล่อมไร้ผลจึงพุ่งตัวเข้าไป ในความสับสนอลหม่าน ผีพนันนั่นทำร้ายลูกและภรรยาเสียชีวิต และสุดท้ายยิงปืนฆ่าตัวตาย
ฮีโร่นั่นคือเขา
ภาพที่ปรากฏในข่าวคือภาพที่คนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวีดิโอไว้ แม้จะเห็นแค่เพียงด้านหลัง แต่เธอก็จำรูปร่าง จำผมสีดำนั่น แล้วก็เสื้อโค้ตกันลมกับกางเกงขายาวของเขาได้
นี่เป็นวันที่แย่มากวันหนึ่ง
แย่มากๆ
เมื่อเธอกลับมาที่เรือแล้วก็เห็นเขาเปลือยกายท่อนบนนอนอยู่บนโซฟา ที่พื้นมีกระป๋องเบียร์ที่หมดแล้วหลายกระป๋องวางอยู่
เขาหลับไปแล้ว
เธอยืนอยู่ข้างๆ โซฟามองดูชายคนนั้นหลับสนิท ร่างท่อนบนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมาก บริเวณศีรษะมีบาดแผลทั้งเก่าและใหม่…ก็เหมือนกับเธอ
เพียงแต่ว่าบาดแผลของเธอไม่ได้เกิดขึ้นเพราะช่วยคน
แต่เขาใช่
เมื่อมองชายตรงหน้าก็มีความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกอัดแน่นอยู่ในอก ผ่านไปครู่ใหญ่เธอจึงคลี่ผ้าห่มไหมพรมแล้วห่มให้เขา ก่อนนั่งลงที่พื้นข้างๆ โซฟานั่น
ฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่ความมืดมิด เธอไม่ได้เปิดไฟ แล้วก็ไม่ได้จากไปไหน ยังคงนั่งกอดเข่าอยู่ที่พื้น ซุกตัวพิงโซฟา ฟังเสียงหายใจของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ ดวงตามองไปยังความมืดเบื้องหน้า
ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาหาเขา เธอรู้จักกับผู้ชายคนนี้ได้ไม่นานนัก สำหรับเขาแล้วเธอก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า
คนแปลกหน้าที่อันตราย
แต่เมื่อเธอปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตู เขาก็ไม่ได้ไล่เธอไป
ผู้ชายคนนี้รับเธอมาอยู่ด้วย หรือเพราะตอนนั้นเธอแอบรู้สึกว่าเขาจะไม่ไล่เธอไป เหมือนกับที่เขาไม่ทอดทิ้งเธอตอนที่อยู่บนเรือนั่น และก็เหมือนกับที่เขาตั้งใจจะช่วยสองแม่ลูกนั่น
เขาเป็นคนดี
ถ้าเธออยู่ข้างๆ เขานานพอ เธอจะ…กลายเป็นคนดีได้สักนิดไหม
ดวงตาทั้งสองปิดลง เธอครุ่นคิดขณะที่ฟังเสียงหายใจของเขา
เธออยากเป็นคนดี…ต้องการเป็นคนดี…
…
ฮั่วเซียงมีใบหน้าเล็กๆ ที่ไม่ได้สวยงามมาก
ตอนที่เจอเธอนั้นผมของเธอยังสั้นมาก มันค่อยๆ ยาวขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไปหลายปี เขาถึงรู้ว่าเธอมีผมหยักศก มันอ่อนนุ่มมาก ตอนที่เธอไม่ได้มัดเป็นหางม้ามันจะแผ่กระจายเต็มหลัง ดูเหมือนก้อนเมฆที่ม้วนเข้าหากัน ล้อมรอบใบหน้าเล็กๆ ของเธอ
เสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบินเล็กดังอยู่ข้างหู อาวั่นยังหลับตาซุกตัวอยู่ในที่นั่งแคบๆ ไม่รู้ว่าทำไมภาพวันคืนที่ผ่านมาจึงผุดขึ้นมาในสมอง
เขามักจะนอนหลับอยู่บนโซฟา เมื่อตื่นขึ้นจะเห็นเธอนั่งซุกตัวอยู่บนพื้นไม้กระดานเหมือนกับเด็กๆ เธอหันหลังให้เขา สองมือกอดเข่าไว้ หน้าเล็กๆ ของเธอวางอยู่บนหัวเข่า
เมื่อมีลมพัดลอดช่องหน้าต่างเข้ามาก็จะพัดผมดำสนิทที่เหมือนกับก้อนเมฆนุ่มเบาให้ฟูขึ้น
ทุกครั้งเขาอยากจะยื่นมือเข้าไปสัมผัสดูว่าเส้นผมนั้นอ่อนนุ่มเหมือนกับที่คิดไว้หรือไม่
แต่ก็กลัวว่าจะปลุกเธอตื่น กลัวจะทำให้เธอตกใจ
เขาจึงดึงมือกลับมา แล้วทำได้แต่มองดูอย่างเงียบๆ มองดูผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เหมือนกับแมวพเนจร
มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำด้านหลัง เขาไม่อยากให้เธอรู้สึกระแวงจึงออกไปจากเรือ ถ้ามีคนอยู่ใกล้ๆ เธอจะไม่อาจปล่อยวางลงได้ แม้คนคนนั้นจะเป็นเขาก็ตาม
ต่อมาเขาถึงรู้ว่าเธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะมองเห็นร่างกายของเธอ
เธอดูเหมือนจะไม่มีสัญชาตญาณของความเป็นผู้หญิงเลย ร่างกายสำหรับเธอแล้วเป็นเพียงร่างกายเท่านั้น
แต่มันกลับเพิ่มความลำบากให้เขา ยิ่งไม่อยากใช้โอกาสนี้แอบมองหรือเอาเปรียบเธอ
ดังนั้นเขาจึงมักจะหลบมานอนบนโซฟาในออฟฟิศ
ใครจะไปรู้ว่าเธอกลับชอบที่จะมาขดตัวอยู่ตรงหน้าเขา มันไม่ใช่การยั่วยวนเขา เขารู้ดี
แต่เขายังต้องยกมือมากอดอกไว้ ซุกมือทั้งสองข้างไว้ใต้รักแร้เพื่อหักห้ามไม่ให้ตัวเองยื่นมือไปสัมผัสเธอ
เขาทำเพียงแค่มองเท่านั้น มองดูตอนหัวค่ำ ตอนกลางดึก ตอนฟ้าสาง รูปร่างเล็กๆ ที่ขดตัวอยู่ตรงหน้าเขา…คือแมวพเนจร
เขาไม่อาจจะละสายตาจากเธอไปได้
ทุกครั้งที่มองเธอเขาจะรู้สึกถึงความสงบที่บอกไม่ถูกผุดขึ้นในใจ
ตอนหลังเขามักจะตั้งใจมานอนที่โซฟาเพื่อจะตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเธอได้ทันที
คิดถึงตรงนี้ หัวใจก็รู้สึกเต็มตื้น
ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่าง…นี้ ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ล่ะก็…
ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบินเล็กกำลังทำงาน อาวั่นลืมตาขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยพลางคิดถึง…
แมวพเนจรสมควรตายนั่น